"กางมุ้ง-เปิดเพลง"โคนมอารมณ์ดี คุณภาพ-น้ำนมเพียบ
โดย - ดลมนัส กาเจ
หลังจากที่ทำนามาหลายชั่นอายุคน แต่ประสบปัญหาขายข้าวไม่ได้ราคามาตลอด ทำให้เกษตรกรหญิงวัย 42 ปี “สุนิตา บุลานคำ” ตัดสินใจ พลฃิกที่น่า 14 ไร่ ที่ ม.2 ต.บ้านใหม่ชัยมงคล อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย หันมาปลูกหญ้า เลี้ยงโคนมในนาม “พี.เอส.ฟาร์ม” (P.S.Farm) พบว่ามีรายได้ดีกว่าการทำนา หลายเท่าตัว ปัจจุบันมีโคนม 33 ตัว ผลิตน้ำนมได้วันละ 255 กก.สร้างรายได้วันละกว่า 5,000 บาท
แปลงหญ้า
สุนิตา บอกว่า เกิดมาในครอบครัวเกษตรกร ที่ทำนามาตั้งแต่บรรพบุรุษ จึงเห็นว่าอาชีพทำนาลำบาก บางปีก็ขาดทุนจนติดหนี้ จึงศึกษาเกี่ยวกับการเลี้ยงโคนม เพราะเห็นว่าเกษตรที่เลี้ยงอยู่แล้วมีรายได้ดี จึงตัดสินใจนำพื้นที่นา ที่เคยปลูกข้าว มาปลูกหญ้า และเลี้ยงโคนมบ้างเมื่อปี 2554 เริ่มจากแม่โคนม 4 ตัว และขยายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบันมีโคนมทั้งหมด 33 ตัว เป็นพันธุ์โฮลสไตน์ฟรีเชียน 28 ตัว และพันธุ์เจอร์ซี่ 5 ตัว พร้อมขยายพื้นที่ปลูกหญ้าทั้งหมด 14 ไร่ เป็นโคนมที่รีดนมได้ 12 ตัว โคทดแทน 11 ตัว สามารถรีดนมได้วันละ 254.85 กก. เฉลี่ยแม่โค 1 ตัวจะผลิตน้ำนมได้ตัวละ18 กก./วัน สูงกว่ามาตรฐานของการให้น้ำนมในประเทศไทยที่แม่โคนม 1 ตัวจะให้น้ำนมวันละที่ 12 กก.
ลักษณะของมุ้ง
การที่โคนมในฟาร์ม พีเอส.ผลิตน้ำนมได้เกิน สุนิตา บอกว่า ส่วนหนึ่งที่เกิดจากการที่ให้อาหารที่สมบูรณ์คือทั้งอาหารหยาบที่เป็นหญ้าที่ปลูกเอง ทั้งหญ้ารูซี่ เนเปีย หรือปากช่อง 1 แพงโกล่า และหญ้าขน วันละ 2 เวลา เช้า-เย็น ตัวละ 30 กก./วัน และให้อาหารข้น สำเร็จรูปวันละครั้ง และอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม ที่เธอเข้าใจว่าเป็นส่วหนึ่งที่ทำให้โคให้น้ำนมดี คือเธอจะเปิดเพลงให้โคนมฟังหลังช่วงบ่ายไปแล้ววันละ 3 ชั่วโมง ทำให้โคนมเคลิ้มและนอนหลับ ขณะที่เวลากลางคืนจะกางมุ้งให้โคนมนอนสบาย ปราศจากแมลงกวนอวนด้วย เมื่อโคนมอารมร์ดี ไม่เครียด ทำให้ผลิตน้ำนมได้ดีอีกด้วย
“มานั่งคำนวนดูว่า หลังจากที่หันมาเลี้ยงโคนมเอง ตั้งแต่ปี 2554 พบว่ารายได้ดีกว่าทำนาหลายเท่าตัว อย่างตอนนี้เราได้น้ำนมวันละ 255 กก.ที่ผ่านมาทางองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) รับซื้อในราคา กก.ละ 18 บาท แต่ของเราน้ำนมคุณภาพ ได้ผลผลิตเกินมาตรฐาน ทาง อ.ส.ค.รับซื้อ กก.ละ 20 บาท ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2559 เท่ากับว่าตอนนี้ทางฟาร์มมีรายได้วันละ กว่า 5,000 บาท หักต้นทุนครึ่งหนึ่งก็ยังมีกำไร พอโคนมแก่ อายุ 9-10 ปี จะขายได้อีกตัวละราว 4-5 หมื่นบาท ตั้งใจว่า จะขยายการเลี้ยงเพิ่มขึ้นอีกให้ได้น้ำนมป้อนให้ อ.ส.ค.วันละ 500 กก. ตามนโยบาบของ อ.ส.ค.จะเพิ่มปราณน้ำนมอีก 10 % ทั่วประเทศ แต่ปัญหาด้านเรงงานเพราะทุกวันนี้ทำงาน 2 คนกับสามีเท่านั้น” สุนิตา กล่าว
วิศิษฎ์ แสงคล้อย
ด้าน วิศิษฎ์ แสงคล้อย หัวหน้าสำนักงาน อ.ส.ค.ภาคเหนือตอนล่าง บอกว่า พี.เอส.ฟาร์ม เป็นฟาร์มโคนมตัวอย่างของเกษตรกรรายย่อย ที่มีระบบการจัดการฟาร์มที่ดี ดูแลสุขภาพโค โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ทุ่งเสลี่ยมนั้นต้องยอมรับว่าเป็นพื้นที่มีแมลงที่รบกวนการเลี้ยงโคจำนวนมาก โดยเฉพาะในเวลากลางคืน รวมถึงยุงด้วย ทาง พี.เอส.ฟาร์มได้มีการกางมุ้งให้ ทำให้แมลงไม่สามารถรบกวนได้ โคนมไม่เครียด ส่งผลให้ผลผลินน้ำนมที่เกินมาตรฐานฐานที่ปกติในประเทศไทยโคนมจะให้ผลผลิตน้ำนมตัวละ 12 กก./วัน แต่ของ พี.เอส.จะได้ 18 กก. ซึ่งปัจจุบันฟาร์มนี้จะเป็นศูนย์เรียนรู้ให้เกษตรกรรายอื่น โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน อ.ส.ค.ภาคเหนือตอนล่าง คอยแนะนำตลอด
นับเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมรายย่อย ที่ประสบสำเร็จเป็นตัวอย่างให้กับเกษตรกรรายอื่นได้เป็นอย่างดี