ผู้จัดการทีมขนไก่ไทยเสนอสมาคมแบดมินตัน ยกเครื่อง "โค้ช-นักกีฬา" | คมชัดลึก

พล.อ.ต.อุทิศ ภาคภูมิ ผู้จัดการทีมแบดมินตันทีมชาติไทย เปิดเผยว่า หลังจากจบการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก ที่เมืองไฮเดอราบัด ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 10-16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งผลงานของนักหวดลูกขนไก่ไทย ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ในขณะที่นักกีฬาระดับโลก ซึ่งเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้พร้อมหน้า ตนได้เห็นถึงพัฒนาการของนักกีฬาประเทศอื่นๆ มีความรุดหน้าไปมาก โดยเฉพาะนักกีฬาในชาติยุโรป ทั้งเดนมาร์ก, อังกฤษ, เยอรมนี, สาธารณรัฐเช็ก ฯลฯ นับว่าพัฒนาความสามารถขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
 "สรีระของนักกีฬายุโรปมีความแข็งแกร่งเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว รวมทั้งปัจจุบันนักกีฬาหันมาเล่นในช่วงอายุที่น้อยลงประมาณ 10 ปี จากเดิมที่เริ่มเล่นอายุเกือบ 20 ปี จึงทำให้มีพัฒนาการที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น หากประเทศไทยยังไม่มีการพัฒนาศักยภาพให้ก้าวหน้ามากขึ้นแล้ว ในอนาคตคงจะถูกแซงหน้าไปไกลอย่างแน่นอน"
 ผู้จัดการทีมขนไก่ไทย กล่าวต่อว่า แต่ละทีมที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันครั้งนี้ มีความเป็นมืออาชีพมาก อาทิ ผู้ฝึกสอน จะแบ่งหน้าที่ให้แต่ละคนดูแลแต่ละประเภท ในแต่ละทีมจะมีผู้ฝึกสอนอย่างน้อย 5 คน แบ่งตาม 5 ประเภทคือ ชายเดี่ยว, หญิงเดี่ยว, ชายคู่, หญิงคู่ และคู่ผสม ส่วนเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬาและโภชนาการ ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

 ในส่วนทีมแบดมินตันไทยนั้น จะต้องเร่งพัฒนาศักยภาพนักกีฬาไทย และสร้างนักกีฬาดาวรุ่งให้ก้าวขึ้นมาทดแทนนักหวดรุ่นพี่ในทีมชาติอย่างต่อเนื่องด้วย เนื่องจากในขณะนี้ นักกีฬาดาวรุ่งส่วนใหญ่มีภาระที่จะต้องเรียนหนังสือควบคู่ไปด้วย ทำให้มีเวลาในการฝึกซ้อมไม่เพียงพอ  ดังนั้น ทีมแบดมินตันไทยก็จะต้องส่งนักกีฬารุ่นใหญ่ไปแข่งขันอยู่ตลอดเวลา ทำให้ขาดการพัฒนาที่ต่อเนื่อง
 พล.อ.ต.อุทิศ กล่าวในตอนท้ายว่า ตนจะนำผลการแข่งขัน ปัญหา และอุปสรรค ตลอดจนข้อมูลทั้งหมด สรุปเป็นรายงานเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ต่อไป ในการที่จะพัฒนาและยกระดับทีมลูกขนไก่ไทยให้ก้าวหน้ามากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจังและเร่งด่วน เพื่อให้แบดมินตันไทยยืนอยู่แถวหน้าของในเวทีโลกได้ต่อไป