ข่าว

จากปลานิล“จิตรลดา”สู่ปลาทับทิม

01 พ.ย. 2559

โดย -โต๊ะข่าวเกษตร

 

            ที่ยอมรับกันทั่วโลกว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นมหากษัตริย์นักพัฒนาที่ตรากตรำพระวรกาย ทรงงานอย่างหนักเพื่อพสกนิกรตลอดเวลา โดยเฉพาะประชาชนที่ที่ยึดอาชีพการเกษตรหรือเป็นเกษตรกร ซึ่งมีฐานะยากจน กระทั่งปรากฏเป็นโครงการพระราชดาริหลายพันโครงการตามมา เพื่อให้เกษตรกรกินดีอยู่ดี และสามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวมาจวบจนปัจจุบัน

 

จากปลานิล“จิตรลดา”สู่ปลาทับทิม

 

           นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ภาคเอกชนด้านเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ที่มีโอกาสได้น้อมนากระแสพระราชดำรัสและแนวพระราชดาริมาสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม บอกว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ก่อกำเนิดธุรกิจขึ้นบนผืนแผ่นดินไทยในใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ทำให้กิจการเจริญเติบโตก้าวหน้ามาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 100 ปี และประเทศไทยมีความสงบสุขร่มเย็น เครือเจริญโภคภัณฑ์ขอน้อมราลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและร่วมถวายความอาลัยด้วยการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ตามแนวพระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

 

จากปลานิล“จิตรลดา”สู่ปลาทับทิม

 

          เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับพระมหากรุณาธิคุณหลายครั้งหลายครา เริ่มตั้งแต่โครงการฟาร์มส่วนพระองค์หาดทรายใหญ่ ที่ตาบลเขาเต่า อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปี พ.ศ.2514 และต่อมาเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2530 พนักงานและผู้บริหารได้ร่วมบริจาคเงินทุนเริ่มต้นกว่า 20 ล้านบาท ก่อตั้ง “มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท” ขึ้นมาเพื่อดำเนินโครงการและกิจกรรมอันเนื่องมาจากพระราชดารัสและพระราชดาริ

          หนึ่งในโครงการตามแนวพระราชดาริที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ภาคภูมิใจ คือ การได้พัฒนาสายพันธุ์ปลาน้าจืดเพื่อส่งเสริมให้เป็นปลาเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งแก่เกษตรกรไทย กลายเป็น “ปลาทับทิม” ที่ทุกคนรู้จักกันดีในวันนี้

          ย้อนไป เมื่อปี พ.ศ.2508 ที่สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่น ได้นำทูลเกล้าฯถวายปลาชนิดหนึ่งแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และพระองค์ท่านได้ทรงนำปลาพันธุ์ดังกล่าวไปทดลองเลี้ยงภายในพระราชวังสวนจิตรลดา เมื่อเห็นว่าปลาสามารถปรับตัวได้ดี กินอาหารเก่ง เติบโตเร็ว ขยายพันธุ์ได้ง่าย จึงทรงพระราชทานให้กรมประมง เพื่อนำไปขยายพันธุ์ต่อไป และปล่อยลงสู่แหล่งน้าจืดทั่วประเทศ รวมทั้งส่งเสริมการเลี้ยง เพื่อเป็นอาหารโปรตีน แก่ประชาชนทั่วไป และได้พระราชทานชื่อว่า “ปลานิลจิตรลดา”ซึ่งกรมประมงได้พัฒนาสายพันธุ์ต่อเนื่องจนมีอัตราการเจริญเติบโตที่ดีขึ้น เนื้อมากขึ้น และตั้งชื่อสายพันธุ์ว่า “ปลานิลจิตรลดา”

 

จากปลานิล“จิตรลดา”สู่ปลาทับทิม

 

           ต่อมาปี 2532-2539 มีการเลี้ยงกุ้งทะเลกันมากขึ้นตามแนวพื้นที่ชายฝั่ง ซึ่งน้าที่ระบายออกจากบ่อกุ้ง มักจะมีธาตุอาหารอันอุดมสมบูรณ์มาก รวมทั้งสาหร่ายเซลล์เดียวจานวนมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดมลภาวะ ต่อน้้ำทะเลชายฝั่งได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 จึงทรงพระราชทานแนวพระราชดาริแก่ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ในการพัฒนาสายพันธุ์ปลานิลให้สามารถเลี้ยงได้ในสภาพน้ากร่อย-เค็ม เพื่อที่จะนำปล่อยเลี้ยงในบ่อพักน้าของฟาร์มกุ้งให้กรองกินสาหร่าย และธาตุอาหารนั้นให้เหลือเบาบางก่อนจะปล่อยน้ำออกสู่ทะเล

          นายธนินท์ จึงมอบหมายให้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จากัด (มหาชน) ริเริ่มวางโครงการพัฒนาสายพันธุ์ปลาตามแนวพระราชดาริ ด้วยการนาปลานิลจิตรลดาพระราชทานมาเป็นต้นตระกูล พร้อมกับคัดเลือกสายพันธุ์ปลาที่มีลักษณะเด่นมากในด้านต่างๆ ทั้งจากอังกฤษ สหรัฐอเมริกา อิสราเอล และไต้หวัน มาผสมข้ามพันธุ์กัน และทาการปรับปรุงสายพันธุ์ ทางด้านคุณภาพ ความต้านทานโรค ลักษณะเนื้อ และรสชาติ ให้ดีขึ้น ด้วยวิธีตามธรรมชาติ ไม่ใช่การตัดแต่งพันธุกรรม กระทั่งได้ปลาเนื้อพันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะภายนอกอันโดดเด่นคือสีของเกล็ดและตัวปลาที่มีสีแดงอมชมพู ดูเป็นมงคล และสามารถเลี้ยงให้เติบโตได้ในน้าที่มีความเค็ม

          กระทั่งวันที่ 22 มกราคม พ.ศ.2541 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชทานนามปลาชนิดใหม่นี้ว่า “ปลาทับทิม” กล่าวได้ว่าปลาทับทิม ถือกาเนิดขึ้นจากพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโดยแท้

 

จากปลานิล“จิตรลดา”สู่ปลาทับทิม

 

          ปัจจุบันปลาทับทิมได้รับความนิยมทั้งจากเกษตรกร ผู้ประกอบการร้านอาหาร และผู้บริโภคอย่างแพร่หลาย กลายเป็นปลาเนื้อเศรษฐกิจ คุณภาพสูง สามารถสร้างงานสร้างอาชีพและรายได้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืนสมดังพระราชประสงค์แล้ว

          “พระองค์ มีพระมหากรุณาธิคุณต่อประชาชนเปรียบประดุจสายฝนที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผืนแผ่นดินไทย หลากหลายกิจกรรมที่เครือเจริญโภคภัณฑ์และเหล่าพนักงาน ร่วมแรงร่วมใจดาเนินการตามเบื้องพระยุคลบาท โดยน้อมเกล้าฯรับแนวพระราชดาริมาสานต่ออย่างจริงจังและต่อเนื่อง เปรียบได้เป็นเพียงหยดน้าเล็กๆ ที่พร้อมใจไหลรวมกันเป็นสายธาร เพื่อสานต่อจุดมุ่งหมายของสายฝนแห่งพระมหากรุณาธิคุณให้คงอยู่คู่ผืนแผ่นดินไทยตลอดไป”ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าว

           นับเป็นมีพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยแท้ที่ทำให้การพัฒนาสายพันธุ์ปลาน้ำจืด“ปลานิล” มาเป็น“ปลาทับทิม”ที่มีรสชาติอร่อย และสามารถเลี้ยงในน้ำกร่อยหรือน้ำจืดได้มาจนทุกวันนี้