ข่าว

อย่าเหมาโยง "อรพิมพ์-เบสท์" จนกระทบสัมพันธ์ไทย - สหรัฐฯ

อย่าเหมาโยง "อรพิมพ์-เบสท์" จนกระทบสัมพันธ์ไทย - สหรัฐฯ

15 พ.ย. 2559

สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศ แจงกรณี “นางสาวอรพิมพ์ รักษาผล หรือเบสท์” ถูกปฏิเสธขอวีซ่าเข้า ปท. ขออย่าหลงโยงเรื่องส่วนบุคคล จนกระทบสัมพันธ์ไทย - สหรัฐฯ 

          15 พ.ย.59 - เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ได้ตอบคำถามเครือเนชั่น กรณีที่มีรายงานว่า "นางสาวอรพิมพ์ รักษาผล หรือเบสท์" นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ได้รับการปฏิเสธการขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ทำให้ต้องยกเลิกการพูดเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่นครลอสแอนเจลิส วันที่ 3 ธ.ค. และเมืองบอสตัน วันที่ 5 ธ.ค. 2559 ว่า สหรัฐฯ มีกฎหมายคุ้มครองส่วนบุคคล จึงไม่อาจเปิดเผยเหตุผลที่ปฏิเสธการยื่นขอวีซ่าของบุคคลดังกล่าวได้ แต่เจ้าตัวสามารถสอบถามถึงเหตุผลกับเจ้าหน้าที่กงสุลของสถานทูตฯได้ทันที หลังจากที่ได้รับแจ้ง เช่นเดียวกันกรณีที่ผู้ยื่นขอวีซ่าไม่เคยกระทำผิด มีที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง มีประวัติการเดินทางไปและกลับแน่นอน หากได้รับปฏิเสธการขอวีซ่าเพราะยื่นเอกสารไม่ครบ เจ้าหน้าที่กงสุลจะร้องขอเอกสารเพิ่มเติม เชื่อว่า ถ้ายื่นใหม่ (Re - Apply) แก้ไขให้ถูกต้อง ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร                                      

          เมื่อถามว่า กรณีที่ นางสาวอรพิมพ์เดินทางไปพูดเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจฯ แล้วถูกปฏิเสธขอวีซ่า อาจจะส่งผลบานปลายต่อไป หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่สถานทูตฯ ชี้แจงว่า ในหลักการทั่วไปแล้ว หากผู้ยื่นขอวีซ่าเดินทางไปโดยมีภารกิจที่ชัดเจน ซึ่งไม่ใช่เพื่อเดินทางท่องเที่ยวอย่างเดียว ก็ควรต้องยื่นขอวีซ่าประเภทให้ถูกต้องกับวัตถุประสงค์การเดินทาง อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ควรจะโยงไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ เพราะปัจจุบันการเดินทางไปสหรัฐฯ ไม่ยากขนาดนั้น หากให้ข้อมูลเอกสารที่ถูกต้อง ครบถ้วน และชัดเจนกับทางสถานทูต สถานทูตสหรัฐฯ ก็ยินดีอำนวยความสะดวกให้เดินทางไปสหรัฐฯ เป็นตามปกติ                    

          

 

http://www.komchadluek.net/news/politic/249055 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง