ข่าว

CRSP ร้องยุติดำเนินคดี "ด.ช.ชาวโซมาเลีย" ลี้ภัยเข้าไทย

CRSP ร้องยุติดำเนินคดี "ด.ช.ชาวโซมาเลีย" ลี้ภัยเข้าไทย

29 พ.ย. 2559

CRSP เรียกร้อง รบ.ยุติการดำเนินคดีกับ “ด.ช.ชาวโซมาเลีย” วัย 16 ปี ผู้ลี้ภัยหลบหนีความรุนแรงเข้ามายังประเทศไทย

           เครือข่ายสิทธิผู้ลี้ภัยและคนไร้รัฐ (Coalition for the Rights of Refugees and Stateless Persons--CRSP) ซึ่งแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เป็นหนึ่งในสมาชิกเครือข่าย ได้ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้รัฐยุติการดำเนินคดีกับผู้ลี้ภัยเด็กที่หลบหนีความรุนแรง ว่า ในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ย.) ด.ช.โมฮัมหมัด (นามสมมติ) อายุ 16 ปี สัญชาติโซมาเลีย จะถูกอัยการฟ้องด้วยข้อหาละเมิดพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงราย แม้ว่าเด็กชายโมฮัมหมัดจะได้รับสถานะเป็นผู้ลี้ภัยแล้ว 

           ด.ช.โมฮัมหมัด หลบหนีออกมาจากโประเทศโซมาเลียเข้ามายังประเทศไทย เมื่ออายุ 13 ปี ด.ช.โมฮัมหมัดสูญเสียบิดาและมารดาเนื่องจากสงครามภายในประเทศโซมาเลีย และได้อาศัยอยู่กับย่า จนเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2556 กลุ่มติดอาวุธในประเทศโซมาเลียบุกเข้ามาในชุมชนที่เขาอาศัยอยู่และบังคับให้เขาต้องเข้าร่วมกลุ่ม เขาจึงตัดสินใจหนีออกจากโซมาเลียและถูกขบวนการชักนำพาเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย แต่ ด.ช. โมฮัมหมัด ได้ดำเนินการขอสถานะเป็นผู้ลี้ภัยจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ สำนักงานประเทศไทย และเข้าเรียนในโรงเรียนของไทยระหว่างรอการเดินทางไปตั้งถิ่นฐานในประเทศที่สาม จนกระทั่งถูกเจ้าพนักงานตารวจจับกุมในเดือน ก.พ.2559 ที่จังหวัดเชียงราย ขณะเดินทางกลับจากการร่วมงานกิจกรรมฟุตบอลของโรงเรียน และถูกควบคุมตัวในสถานพินิจฯ เชียงราย ในเดือนมี.ค. 2559                                         

          แม้ว่า ประเทศไทยจะไม่ได้เป็นภาคีในอนุสัญญาและพิธีสาร ว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย แต่ประเทศไทยเป็นภาคีในอนุสัญญา ว่าด้วยสิทธิเด็ก (“CRC”) และพิธีสารเลือกรับฯ เรื่อง ความเกี่ยวพันของเด็กในความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ (“Op-CRC”) ซึ่งภายใต้พันธกรณีดังกล่าว คณะกรรมการสิทธิเด็ก (“คณะกรรมการ”) ได้ออกความเห็นทั่วไปฉบับที่ 11 (ค.ศ.2009) โดยเฉพาะย่อหน้า 68 ซึ่งให้คาแนะนาว่ารัฐภาคีต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษและให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่เด็กซึ่งพลัดถิ่นหรือกลายเป็นผู้ลี้ภัย นอกจากนี้ตามรายงานของคณะกรรมการเกี่ยวกับสิทธิเด็กในบริบทของการย้ายถิ่นระหว่างประเทศ ปี พ.ศ. 2555 คณะกรรมการมีความเห็นว่าการควบคุมตัวหรือกักตัวเด็ก อันเนื่องมาจากสถานภาพการเข้าเมืองของเด็กหรือของผู้ปกครองเด็กเท่ากับเป็นการละเมิดสิทธิเด็กและถือว่าเป็นการขัดต่อหลักประโยชน์สูงสุดของเด็กไม่ว่าในกรณีใด                                   

            ความเห็นของคณะกรรมการดังกล่าวสอดคล้องกับกรอบของกฎหมายในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 โดยมาตรา 22 และ มาตรา 32 กาหนดให้รัฐปฏิบัติต่อเด็กไม่ว่าในกรณีใดโดยคานึงถึงหลักประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสาคัญ และเด็กที่สมควรได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพคือเด็กที่เสี่ยงต่อการได้รับอันตรายและเด็กที่อยู่ในสภาพยากลำบาก                                    

          ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายภายในประเทศดังกล่าว ด.ช.โมฮัมหมัด มีสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองเนื่องจากเหตุผลและข้อเท็จจริงข้างต้น แต่ในทางตรงข้าม เขากลับกำลังถูกอัยการเชียงราย ดำเนินคดีในวันที่ 30 พ.ย. 2559 นี้ ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 อันเนื่องจากการเข้าเมืองที่ไม่ถูกต้อง                           

            เครือข่ายสิทธิผู้ลี้ภัยและคนไร้รัฐ (CRSP) จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทย

           1. ให้ยุติการจับกุม กักตัว กักขัง และดำเนินคดีกับผู้ลี้ภัยเด็กและเด็กต่างด้าว ดังเช่น ด.ช.โมฮัมหมัด ในข้อหาตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522

           2. ให้หลักประกันทางกฎหมายในการคุ้มครองเด็กกลุ่มดังกล่าวตามหลักการในอนุสัญญา ว่าด้วยสิทธิเด็กและพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครอง สิทธิในการได้รับการความเหลือทางมนุษยธรรม ประโยชน์สูงสุดของเด็ก และการกลมกลืนกับสังคมในชุมชน

           3. ให้ทบทวนแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ให้มีความสอดคล้องกับหลักการที่ได้รับการยอมรับตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสิทธิเด็ก