ข่าว

F5เว็บล่มคุก5ปีปรับ1แสนบาท

F5เว็บล่มคุก5ปีปรับ1แสนบาท

16 ธ.ค. 2559

รองโฆษก ตร.เตือน ปชช.ต้าน “Single Gateway” กด F5 ทำเว็บล่ม มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อย่างชัดเจน


               16 ธ.ค. 59  จากกรณีเพจ @OpSingleGatewayพลเมืองต่อต้าน Single Gateway : Thailand Internet Firewall #opsinglegateway ” ได้มีการนัดหมายผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ร่วมกันแสดงออกในการต่อต้าน ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่…) พ.ศ. … ในการทำปฏิบัติการ “ F5 for All Thai People ” จนทำให้เว็บไซต์ของรัฐสภา www.parliament.go.th ล่ม ไม่สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ นอกจากนี้เพจดังกล่าวได้นัดปฏิบัติการอีกครั้งในวันที่ 16 ธ.ค. เวลา 14.00 น. ซึ่งเป็นวันที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ วาระ 2 - 3 นั้น

 

F5เว็บล่มคุก5ปีปรับ1แสนบาท

 

               ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)  พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า มีบุคคลบางกลุ่มพยายามดำเนินการก่อกวน โดยนัดกันไปป่วนเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการ จนไม่สามารถเข้าชมได้ เพื่อแสดงการต่อต้านร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่…) พ.ศ. … ในช่วงเมื่อวานนี้ตามที่ปรากฏตามข่าวนั้น สำหรับผู้ที่เข้าไปกระทำความผิด ที่หลงเชื่อเข้าไปกระทำความผิดนั้นจะมีความผิดตามมาตรา 10 ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดนระงับชะลอขัดขวางหรือถูกรบกวนจนไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ มีความผิดจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกส่วนคือผู้ยุยงส่งเสริมปลุกปั่นเพื่อให้กลุ่มคนกระทำความผิดจะสุ่มเสี่ยงต่อความผิดมาตรา 116 (3) ฐานยุยงปลุกปั่นเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี

               “ทั้งนี้ อยากฝากเตือนประชาชนว่า ไม่ควรหลงเชื่อกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมยุยงปลุกปั่นให้เกิดความเสียหายต่อเว็บไซต์ต่างๆ หากประชาชนต้องการแสดงความไม่เห็นด้วยในกรณีดังกล่าว มีช่องทางมากมายที่สามารถแสดงความเห็นอยู่แล้ว เช่น ช่องทางการแสดงออกตามกระทู้ต่างๆ หรือการยื่นหนังสือทักท้วง และการลงชื่อร่วมกันเพื่อนำไปยื่นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถออกกฎหมายให้มีความสมบูรณ์ แต่การเข้าไปดำเนินการกดคีย์บอร์ด F5 เพื่อให้เว็บไซต์ต่างๆ ล่มนั้น เป็นการกระทำที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปตรวจสอบหาผู้กระทำผิด รวมถึงสืบสวนสอบสวนหาเจ้าของเพจที่ยุยงปลุกปั่นดังกล่าวว่าอยู่ในประเทศหรือนอกประเทศก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”