"ปั๊ก”..หมามงคล | คมชัดลึก

         ในบ้านเรานิยมเลี้ยงกันไม่น้อยทีเดียวสำหรับน้องหมา “ปั๊ก” (PUG) อาจจะด้วยเป็นสุนัขสายพันธุ์เล็ก ขนาดลำตัวกระทัดรัด หน้าตาที่แปลก หรือเหตุผลอะไรก็ตามที ทว่า หนึ่งนั้นและสำคัญมากๆกับคนรักหมา ก็คือมันถูกมองเป็นสัญญลักษณ์สัตว์เลี้ยงมงคล

 

 

         มีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน จัดเป็นสุนัขในกลุ่ม Toy Group พันธุ์ตัวเล็กหน้าย่น ที่มีประวัติยาวนานกว่า 2,500 ปี หรือกำเนิดมาตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาล เป็นสุนัขที่เก่าแก่ที่สุดพันธุ์หนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากของชาวพุทธในสมัยโบราณ ด้วยมีความเชื่อที่ว่า ปั๊ก เป็นสัตว์เลี้ยงมงคล อันเนื่องมาจาก หรือพิจารณาจาก ลักษณะรอยย่นบนใบหน้ามีความหมายตามความเชื่อที่ดี อันจะเป็นสิริมงคลต่อผู้เลี้ยง ...

         วันเวลาผ่านไป น้องหมาสายเลือดจีนพันธุ์นี้ ก็ได้กระจายไปอยู่ในส่วนต่างๆของประเทศต่างๆในยุโรป ...อาจด้วยมันเป็นสุนัขซื่อสัตย์ รักเด็ก ร่าเริง กระตือรือร้น น้ำหนักไม่เกิน 9 กิโลกรัม สูงไม่เกินฟุต ใบหน้าสีดำเหมือนใส่หน้ากาก ขนสั้นละเอียดนุ่ม ลำตัวอวบอ้วนกลมใหญ่ จมูกสั้น ปากสั้น หางม้วนเป็นเกลียวอยู่บนแผ่นหลังตรงสะโพก ...เหล่านี้คือเหตุผลที่ปัจจุบันน้องหมา “ปั๊ก” ได้แพร่หลายและนิยมเลี้ยงไปทั่วโลก 

 

 

         ในเวทีสากลมันได้รับฉายาว่า “Multum in Parvo” หรือ “a lot of dog in a small space” คือเหมือนมีสุนัขหลายตัวรวมอยู่ในเจ้าปักตัวเล็กๆ เพียงตัวเดียว ขณะเดียวกันมันมีบุคคลิกลักษณะพร้อมจะแสดงอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้มันจะตัวเล็กกว่าสายพันธุ์อื่น แต่ไม่ต้องการการเอาอกเอาใจ ทระนง เด็ดเดี่ยว มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก

        ไม่แปลกที่บรรดากูรูหมาทั่วโลก ต่างมีมุมมองที่สอดรับกัน ที่ว่าน้องหมา “ปั๊ก” เป็นสุนัขที่เกิดมาเพื่อจะอยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์และทำให้มนุษย์มีความสุข โดยเฉพาะกับพวกเด็กๆ ซึ่งอาจจะขัดกับใบหน้าที่ดูเหมือนเป็นจอมขี้โกง แต่สำหรับผู้ที่คิดจะมีใจผูกพันกับมันแล้ว หน้าตาแบบนี้เองที่สามารถมัดใจผู้เลี้ยงไว้ได้อย่างชงัด ขณะเดียวกัน มันอยู่ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน บ้านสวน หรือแม้ในอพาร์ทเมนท์เล็กๆ เพราะมันเป็นสุนัขที่ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้ง่าย

 

 

          รูปร่างที่อ้วน สั้น ตัน กลม ของเหล่าปั๊ก จึงเป็นเรื่องธรรมดาว่าทำไมน้องหมาปั๊กถึงมีรายชื่อติดอยู่ในโผ 1ใน 10 สายพันธุ์สุนัขที่เสี่ยงเป็นโรคอ้วน ได้ง่ายสายพันธุ์หนึ่ง ..ซึ่งส่วนมากมักจะเกิดจาก 2 ปัจจัย คือ วิธีการเลี้ยงดูของเจ้าของที่ชอบให้อาหารตามใจปากน้องหมา อีกหนึ่งปัจจัยคือ การขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้เกิดการสะสมของไขมันส่งผลให้น้องหมาเป็นโรคอ้วน

         พบข้อมูลว่า น้องหมาที่เลี้ยงอยู่ตามอาพาร์ตเม้นท์และคอนโดที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเป็นโรคอ้วนถึง 31% ในขณะที่น้องหมาที่เลี้ยงแบบปล่อยให้วิ่งเล่นในสนามหญ้าเป็นโรคอ้วน 23% เท่านั้น

 

 

         อย่างไรก็ตาม ด้านการดูและพวกมัน จะต้องดูแลเรื่องอากาศ เนื่องจากเป็นสุนัขที่มีโพรงจมูกสั้น อาจมีปัญหาเรื่องการหายใจตามมาได้ในภายหลัง หรือถ้าจะให้ดี คุณเจ้าของต้องพามันไปตรวจเช็คร่างกายกับสัตวแพทย์เป็นประจำด้วย เพื่อจะได้แก้ปัญหาอย่างทันท่วงทีหากพบว่ามันกำลังมีปญหา

        ส่วนคนรักหมา ซึ่งสนใจจะเลี้ยงน้องพันธุ์นี้ สนนราคาจำหน่ายทั่วไปเริ่มต้นที่ 4,500 บาท สำหรับผู้ที่จะเลี้ยงเพื่อประกวดอยู่ที่ 12,000 บาท ขึ้นไป

 

        ที่มาข้อมูล - ภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/Pug,http://www.dogbreedinfo.com/pug.htm ,http://www.pedigree.com/all-things-dog/breed-gallery/breeds/pug.aspx