ขันอาสาดูแลลูกหลานห่างไกลไข้เลือดออก
ไข้เลือดออกว่า เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี ที่สามารถแพร่กระจายจากคนไปสู่อีกคนได้อย่างรวดเร็วโดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค
ไข้เลือดออกนับเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขสำคัญระดับโลก รวมถึงประเทศในแถบร้อนชื้นอย่างประเทศไทย เพราะในแต่ละปีไข้เลือดออกเป็นภัยร้ายคร่าชีวิตผู้คนในเขตแถบร้อนชื้นเป็นจำนวนมาก เพราะเมื่อป่วยเป็นโรคนี้แล้วส่วนใหญ่ก็มักจะรักษากันตามอาการ บางคนสามารถรักษาได้หายจากโรคได้ทันท่วงที เมื่อเร็วๆ นี้ โรงพยาบาลพญาไท 3 ได้จัดกิจกรรม พิธีเปิดตัววัคซีนไข้เลือดออก เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กๆ และครอบครัวได้ร่วมสนุกกับกิจกรรม และยังได้ความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพให้กับตัวเอง ที่ลานกิจกรรม OPD ชั้น 1 รพ.พญาไท 3 (ถ.เพชรเกษม)
พญ.ฐิติอร นาคบุญนำ
แพทย์หญิงฐิติอร นาคบุญนำ กุมารแพทย์ด้านโรคติดเชื้อในเด็ก กล่าวถึงสาเหตุของไข้เลือดออกว่า เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี ที่สามารถแพร่กระจายจากคนไปสู่อีกคนได้อย่างรวดเร็วโดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค อาการเบื้องต้นของผู้ที่ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกนั้นจะมีไข้ขึ้นสูงอยู่ที่ 39-40 องศา ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดกระบอกตา และไม่มีอาการหวัดร่วม ซึ่งในประเทศไทยกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อไข้เลือดออกมากที่สุดคือ กลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 5-14 ปี ซึ่งที่ผ่านมาในประเทศไทยพบว่าเด็กกลุ่มนี้ติดเชื้อไข้เลือดออกสูงถึง 36,000 คน และรองมาคือเด็กที่มีอายุระหว่าง 2-5 ปี ซึ่งในกรุเทพฯ พบว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคนี้ถึง 7,000 คน
“ปกติคนไทยพบว่ามีภูมิคุ้มกันไข้เลือดออกมากถึง 67 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเท่ากับว่าในวัยเด็กเคยได้รับเชื้อไข้เลือดออกมาแล้ว 1 ครั้งจึงยังมีภูมิคุ้มกันและแอนติบอดี้อยู่ แต่ต้องไม่ลืมว่าไวรัสเดงกี มีถึง 4 สายพันธุ์ ซึ่งเมื่อเป็นครั้งที่ 1 แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เป็นไข้เลือดออกอีก เพราะเราสามารถติดเชื้อไข้เลือดออกได้ถึง 4 ครั้งในชีวิต ซึ่งถ้าป่วยเป็นครั้งที่ 2 หรือ 3 นั้นอาจจะทำการตรวจรักษายากกว่าครั้งแรก เพราะยังมีแอนติบอดี้ของโรคนี้อยู่ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 5-14 ปี มีโอกาสได้ติดเชื้อชนิดนี้สูงสุด รวมถึงคนที่มีน้ำหนักตัวมาก และผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคหัวใจ ก็จะมีโอกาสได้รับเชื้อชนิดนี้ได้ง่ายเช่นกัน และถ้าเข้ารับการรักษาไม่ทันท่วงทีอาจเกิดการสูญเสียก็เป็นได้” พ.ญ.ฐิติอร กล่าว
พญ.สุพิชชา องกิตติกุล
ด้าน พญ.สุพิชชา องกิตติกุล อายุรแพทย์ด้านโรคติดเชื้อ กล่าวถึงวิธีการตรวจหาโรคไข้เลือดออกว่า ความรุนแรงของไข้เลือดออกนั้นจะมีเลือดออกภายในอวัยวะสำคัญของร่างกายทั้งกระเพาะอาหาร ลำไส้ ฯลฯ จนถึงขั้นช็อกและหมดสติไป บางรายถ้าเป็นสุภาพสตรีก็จะมีประจำเดือนออกมามากผิดปกติ ดังนั้นเมื่อพบว่า ตัวเองหรือบุตรหลานมีอาการไข้ขึ้นสูงเกิน 2-3 วัน รับประทานยาแล้วยังไม่ดีขึ้นให้รีบมาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาทันที เพราะยิ่งตรวจพบโรคไข้เลือดออกไว ก็ยิ่งรักษาได้หายไวยิ่งขึ้น
“นอกจากจะพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หมั่นตรวจเช็กสุขภาพและความผิดปกติของตัวเองและบุตรหลานเป็นประจำแล้ว การฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยป้องกันการเกิดโรคนี้ได้ ซึ่งวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกนั้นสามารถฉีดได้กับบุคคลที่มีอายุระหว่าง 9-45 ปี เท่านั้น และต้องได้รับการฉีดจนครบทั้งหมด 3 เข็ม ขณะที่ในบ้านของเราเองก็ต้องหมั่นตรวจเช็กตลอดเวลา ไม่ให้มีน้ำท่วมขังภายในบ้าน ใส่ทรายอะเบทในอ่างน้ำในหน้าฝนเพื่อกำจัดลูกน้ำยุงลาย และถ้าโดนยุงกัดไปแล้ว 7 วันมีอาการไข้ขึ้นสูงแบบไม่ทราบสาเหตุควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพียงเท่านี้ทุกชีวิตภายในบ้านก็จะปลอดพ้นเชื้อไวรัสไข้เลือดออก” พญ.สุพิชชา สรุปทิ้งท้าย