ข่าว

จีนบอกพ่อเมืองนาโงยาควรคุกเข่าขอโทษปมสังหารหมู่นานกิง

จีนบอกพ่อเมืองนาโงยาควรคุกเข่าขอโทษปมสังหารหมู่นานกิง

25 ม.ค. 2560

ปักกิ่งเดือดโรงแรมญี่ปุ่นเผยแพร่หนังสือที่ซีอีโอเขียนเอง แย้งประวัติศาสตร์สังหารหมู่นานกิงไม่มีจริง

 

            หนังสือใหม่ที่เขียนโดยนายโตชิโอะ โมโตยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ)กลุ่มโรงแรม APA ในญี่ปุ่น ที่ระบุว่า เหตุการณ์ทหารญี่ปุ่นสังหารหมู่ชาวจีนในเมืองหนานจิง หรือนานกิงเมื่อปี  2480  ไม่เคยเกิดขึ้นอย่างที่จีนกล่าวอ้าง และวางหนังสือเล่มนี้ไว้ในห้องพักโรงแรมทุกห้องไว้บริการแขก  เป็นประเด็นร้อนในโลกสังคมออนไลน์ของจีนตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และส่อลุกลามเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อสำนักงานการท่องเที่ยวจีนเรียกร้องให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในต่างประเทศ เวบไซต์ท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวชาวจีน ร่วมกันคว่ำบาตรโรงแรมเหล่านี้ 

 

จีนบอกพ่อเมืองนาโงยาควรคุกเข่าขอโทษปมสังหารหมู่นานกิง

 

            ล่าสุด หัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน แถลงว่า นายทาคาชิ คาวามูระ นายกเทศมนตรีนาโงยา  ควรคุกเข่าขอโทษ หลังจากแสดงความเห็นในลักษณะไม่เห็นเป็นเรื่องร้ายแรง โดยนายคาวามูระ กล่าวว่า ชาวญี่ปุ่นควรไปนานกิงเพื่อคุกเข่าและขอโทษหากทหารญี่ปุ่นสังหารหมู่ชาวเมือง 3 แสนคนจริง แต่เขาเองก็สงสัยว่าการสังหารหมู่นานกิงเกิดขึ้นจริงหรือ

            โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนจะไม่อดทนกับการบิดเบือนประวัติศาสตร์อย่างอุกอาจทำร้ายความรู้สึกชาวจีน  และใครที่ทำจะต้องชดใช้

            จีนระบุว่า นานกิงมีประชากร 6 แสนคน ก่อนถูกทหารญี่ปุ่นเข่นฆ่า ข่มขืนและทำลายล้าง ล้มตาย 3 แสนคนในช่วงเวลา 6 สัปดาห์ปลายปี 2480 และกล่าวหาญี่ปุ่นไม่เคยสำนึกผิดอย่างจริงใจในประวัติศาสตร์หน้านี้  แต่หนังสือของเซจิ ฟูจิ นามปากกาของซีอีโอโรงแรมเอพีเอ ที่มีทั้งฉบับภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ ระบุว่า การสังหารหมู่นานกิง หรือที่รู้จักในชื่อเหตุการณ์ Rape of Nanking เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมา เพราะ ณ เวลานั้น นานกิงมีประชากรเพียง 2 แสนคน จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีการสังหาร 3 แสนคน

            กองทัพญี่ปุ่นรุกรานจีนในคริสต์ทศวรรษที่ 1930 และกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบนับจากปี  2480 กระทั่งญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่สองในปี 2488 นักวิชาการต่างประเทศบางคนประเมินจำนวนผู้เสียชีวิตในนานกิงต่ำกว่าบันทึกประวัติศาสตร์จีน แต่นักวิชาการกระแสหลักไม่สงสัยการมีอยู่จริงของความโหดร้าย