ข่าว

เริ่มต้นสอบวินัยร้ายแรง"รองฯสุภัฒ"

เริ่มต้นสอบวินัยร้ายแรง"รองฯสุภัฒ"

06 ก.พ. 2560

เริ่มต้นสอบวินัยร้ายแรงรองอธิบดีลักภาพวาด คาดรู้ผลภายในเดือนเศษ. ยันให้ความเป็นธรรมแม้สร้างความเสียหายร้ายแรงให้ประเทศชาติ    

         6 ก.พ. 60 - พ.ต.อ.ดุษฎี  อารยวุฒิ.รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนายสุภัฒ สงวนดีกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยร้ายแรง หลังก่อคดีขโมยภาพวาดในโรงแรม ขณะเดินทางไปราชการที่ประเทศญี่ปุ่น ผลการสืบสวนข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่านายสุภัฒได้ลักทรัพยซึ่งเป็นภาพวาดของโรงแรมบริเวณชั้น 9-10 โดยนายสุภัฒรับสารภาพต่อพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ และศาลประเทศญี่ปุ่น ต่อมาโรงแรมผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ เนื่องจากผู้ก่อเหตุสำนึกผิด ยอมรับตามข้อกล่าวหาพร้อมชดใช้ค่าเสียหาย ขณะเดียวกันอัยการญี่ปุ่นใช้อำนาจตามกฎหมายอาญาของญี่ปุ่น มาตรา 248 พิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดีและมีคำสั่งปล่อยตัว 

        อย่างไรก็ตาม  กระทรวงพาณิชย์เห็นว่านายสุภัฒเป็นข้าราชการกระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ ควรมีวุฒิภาวะในการกระทำด้วยความรอบคอบสูงกว่าข้าราชการชั้นผู้น้อยหรือคนทั่วไป ผลของการกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อระบบราชการและภาพลักษณ์ของประเทศอย่างร้ายแรง น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ จึงมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดวินัยน้ายแรง ตามระเบียบข้าราชการพลเรือน โดยมีคณะกรรมการ 5 คนประกอบด้วย พ.ต.อ.ดุษฎี. น.ส.เรวดี วีระวุฒิผล นายวินัย นิโครวนจำรัส นายพิทักษ์ มิ่งสุข และน.ส.สุจริต จันทร์เพ็ง

         พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าการลาออกของนายสุภัฒมีผลเป็นทางการหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะลาออกหรือไม่ นายสุภัฒก็ต้องเข้าให้การต่อคณะกรรมการฯ ถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เนื่องจากคำให้การจะมีผลต่อการพิจารณาบำเหน็จ บำนาญ อาจจะเป็นการให้ปากคำด้วยวาจาหรือส่งเป็นเอกสารคำให้การก็ได้ เบื้องต้นแม้กรรีดังกล่าวจะความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ของประเทศแต่ยืนยันจะให้ความเป็นธรรม คณะกรรมการฯจึงจำเป็นต้องขอดูหลักฐานทั้งหมด หากทำผิดเพราะอาการป่วยต้องมีใบรับรองแพทย์และเอกสารการรักษา. หากอ้างว่าทำผิดเพราะมึนเมาสุราก็ต้องมีพยานมายืนยัน. ซึ่งการสอบสวนเรื่องนี้จะได้ข้อยุติภายใน 1 เดือนเศษ โดยหลักฐานที่จะนำมาพิจารณาเป็นหลักคือผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก โดยการประชุมครั้งต่อไปภายในสัปดาห์นี้จะกำหนดแนวทางการสอบสวนพร้อมตรวจสอบว่ายังขาดหลักฐานอะไรอีกหรือไม่ หากครบองค์ประกอบความผิดจะแจ้งข้อหาทันทีเพื่อเรียกนายสุภัฒมาชี้แจงภายใน 15 วัน