ข่าว

เที่ยว "ตลาดโบราณ 113 ปี อ่างศิลา"
ชิมอาหารทะเล-ชมตึกโบราณริมหาด

เที่ยว "ตลาดโบราณ 113 ปี อ่างศิลา" ชิมอาหารทะเล-ชมตึกโบราณริมหาด

28 ส.ค. 2552

ถ้าท่านหน่ายกับตลาดที่มีคนมากมายจนต้องเดินเบียดกันแบบไหล่ชนไหล่ เราขอแนะนำตลาดเก่า "อ่างศิลา 133 ปี" ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี

  ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก เพียง 1 ชั่วโมงเศษๆ ท่านจะได้ลิ้มลองอาหารทะเลสดๆ ทั้งยังได้ละเลียดบรรยากาศอันสุดแสนคลาสสิกกับอาคารตากอากาศสมัยรัชกาลที่ 4 ก่อนจะส่งตะวันลับขอบฟ้า ณ เวิ้งขอบมหาสุมทร !!

 สำหรับที่มาของชื่ออ่างศิลามาจากคำเรียกขานที่แห่งนี้ของชาวบ้านว่า "อ่างหิน" ต่อมา ในสมัยรัชกาลที่ 3 มีชาวตะวันตก และคนบางกอกมาพักตากอากาศกันมาก ชื่ออ่างหินจึงเริ่มเปลี่ยนแปลงให้ดูเป็นสากลมากขึ้น

 จากนั้นจึงมีหลักฐานบันทึกถึงชื่อ "อ่างศิลา" ในยุคแรกๆ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมืองชลบุรี และประทับแรมที่อ่างศิลา โดยมีลายพระราชหัตถเลขา ลงวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2419 พรรณนา อ่างศิลา ตอนหนึ่งว่า

 "...เรียกชื่อว่าอ่างศิลานั้น เพราะมีแผ่นดินสูงเป็นลูกเนิน มีศิลาก้อนใหญ่ๆ เป็นศิลาดาด และเป็นสระยาวรี อยู่ 2 แห่ง เป็นที่ขังน้ำฝน ให้ชาวบ้าน ชาวเรือ ได้ใช้ประโยชน์..."

 แต่วันนี้ของอ่างศิลาคงไม่ใช่สถานตากอากาศยอดฮิตเหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะทะเล และหาดทรายของที่นี่คงสวยใสสู้ที่อื่นได้ยาก หากแต่อาหารทะเลของที่นี่ก็ยังอุดมสมบูรณ์ และคงความสดใหม่อยู่เช่นเคย

 จุดขายอีกอย่างคงไม่พ้น "ครกหิน" อันเลื่องชื่อ โดยหินที่นี่จะมีความแข็งกว่าแหล่งอื่น เนื้อหินจะเงาวับเป็นประกายเมื่อยามต้องแสง แต่ปัจจุบันหินที่จะนำมาทำครกเริ่มไม่เพียงพอกับความต้องการจนเริ่มมีการนำเข้าหินมาจากพื้นที่อื่น

 ส่วนรูปแบบงานแกะสลักหินก็เริ่มหลากหลายมากขึ้น ครกหินที่เคยใช้ตำน้ำพริกก็ลดขนาดลง และเติมลวดลายสมัยใหม่เข้าไปจนกลายเป็นของที่ระลึกให้เลือกช็อปกันตามสะดวก บางคนถึงขนาดซื้อไปเป็นของตกแต่งบ้านก็มี

 สำหรับผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศของตลาดโบราณคงไม่ผิดหวังกับ "ตลาดอ่างศิลา 133 ปี" ที่ถูกปลุกให้มีชีวิตชีวาอีกครั้งเมื่อเดือนพฤกษภาคมที่ผ่านมา

 ก่อนหน้านี้ตลาดอ่างศิลาดูเงียบเหงาไปถนัดตาเมื่อร้านค้าสมัยใหม่เริ่มรุกเข้ามาจนพื้นที่ว่างภายในตลาดกลายเป็นที่จอดรถมากกว่า แต่หลังจากมีการปรับรูปแบบของตลาดให้เป็น "ถนนคนเดิน" ตลาดที่เคยซบเซาก็พลันคึกคักขึ้นมาทันตา

 เมนูอร่อยในตลาดแห่งนี้ก็หนีไม่พ้นอาหารทะเลหลากหลายชนิดที่รสชาติใช้ได้จนถึงขั้นอร่อยเลิศแทบทั้งสิ้น คงเพราะความสดใหม่ของสัตว์น้ำที่เพิ่งจับขึ้นมาปรุงสดๆ ประกอบกับฝีมือการปรุงขั้นเทพของพ่อครัวแม่ครัว อาหารทะเลที่นี่จึงอร่อยเหาะอย่าบอกใคร

 ถ้าใครอยากสำแดงฝีมือเองก็สามารถไปเลือกซื้อกุ้งหอยปูปลาสดๆ ได้ที่สะพานปลาในราคายุติธรรม เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจช่วงนี้ และเพื่อคงความสดใหม่ของอาหารทะเล และลดภาวะโลกร้อนไปในตัวควรนำกระติกเก็บความเย็นติดไปด้วย

 อิ่มท้องกันแล้วก็อย่าลืมไปอิ่มบุญกันต่อที่ "วัดอ่างศิลา" ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 3 ศตวรรษ พร้อมชมภาพเขียนตัดเส้นที่สวยงาม บริเวณพระตำหนักมหาราช ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้นทรงยุโรปสีแดง อยู่ติดริมทะเลที่จัดแสดงภาพถ่ายความเป็นมาของอ่างศิลาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 ค่ำแล้วลองไปเดินกันต่อ ที่นี่มีนกมีหู-หนูมีปีก หรือ "ค้างคาวแม่ไก่" นอนห้อยหัวอย่างสบายอุราอยู่ที่ป่าโกงกาง ส่วนในละแวกใกล้เคียงกันในช่วงที่น้ำทะเลลดจะแลเห็น "ฟาร์มหอยนางรม" ตั้งเรียงรายอยู่ไม่ไกลจากหน้าหาดมากนัก

 ใครที่อยากไปชิมอาหารทะเลสดใหม่ ราคาไม่แพง สามารถไปเลือกซื้อหาได้ตั้งแต่ 10 โมงเช้ายัน 6 โมงเย็น จากนั้นก็นั่งชมตะวันลับขอบฟ้าต่อ ส่วนจะนั่งทำมิวสิกคนเดียว หรือพาคนรู้ใจ และครอบครัวไปด้วยก็แล้วแต่สะดวก..อ่างศิลารอท่านไปเยือนอยู่ ไม่ใกล้ไม่ไกลแค่นี้เอง!!

"กิตตินันท์ รอดสุพรรณ"
[email protected]