หนอนไหมขายดีเวอร์!
ดักแด้ไหมขายดี! หลังนักวิจัย มช.ระบุ ‘หนอนไหม’ กินต้มสุก 22 ตัว เทียบเท่าไวอะกร้า 100 มิลลิกรัม ช่วยปลุกนกเขาให้ตื่นจากอาการง่วงซึม
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีกรมหม่อนไหม และนักวิจัย ม.เชียงใหม่ ร่วมกันศึกษาสรรพคุณการบริโภคหนอนดักแด้ เมื่อกินต้มสุก 22 ตัวเทียบเท่ากินไวอะกร้า ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจที่ตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ ฝั่งที่จอดรถโดยสาร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งมีการนำหนอนดักแด้สดแช่น้ำแข็ง ใส่กระติกน้ำแข็งมากองวางขายในราคากองละ 20 บาท หรือ 3 กอง 50 บาท ซึ่งขายดีจนทำให้หาหนอนดักแด้มาทอดขายแทบไม่ทัน
ทั้งนี้ จากการศึกษาของกรมหม่อนไหม ร่วมกับ ผศ.ดร.สมชาย จอมดวง คณะอุตสาหกรรมเกษตร รศ.ดร.ปรัชญา วงศ์ทวีเลิศ ดร.ณัฐชัย ดวงนิล ภาควิชาเคมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทราบว่า มีหนอน 2 สายพันธุ์ไทย คือ สายพันธุ์น้อยศรีสะเกษ-1 และเหลืองสุรินทร์ มีสารซิลเดนาฟิลที่ใช้ผลิตยาไวอะกร้า ซึ่งหากใช้ตัวหนอนดักแด้ไหมสด ๆ โดยผ่านการต้มจำนวน 22 ตัว หลังนำมาสกัดด้วยแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ จะได้รับสารซิลเดนาฟิลปริมาณ 101.57-102.55 มิลลิกรัม มากกว่ากินยาไวอะกร้า ขนาด 100 มิลลิกรัม ที่นำเข้าจากต่างประเทศ
นางสุคนส์ ไหมทอง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 บ้านกระโดนค้อ หมู่5 ต.ช่างปี่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินท์ แม่ค้าขายหนอนดักแด้สดแช่น้ำแข็ง กล่าวว่า ลูกค้ามาซื้อดักแด้ นำไปประกอบอาหารได้สารพัดเมนู ตนรับดักแด้มาจากบ้านแตล อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ นั่งรถไฟขึ้นที่สถานีรถไฟบ้านกระโดนค้อ2 มาลงที่สถานที่รถไฟสุรินทร์ ไม่ได้ขายทุกวัน หลาย ๆ วันจะได้ขายทีนึง ดักแด้ขายดี หักต้นทุนพอได้กำไรงาม หลังไปซื้อญาติข้างบ้านที่ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ตนเป็นคนเอาดักแด้มาขายหลังจากเขาสาวไหมได้แล้ว ไหมนั้นเอามาทอผ้า แต่ลูกมันเขาก็เอามาขาย ดักแด้ภาษาเขมรพื้นถิ่นสุรินทร์เรียกว่า “ด็อกดือ”