ก.เกษตรฯเร่งสร้างชุมชนต้นแบบแก้ปัญหาเผาป่า
กรมส่งเสริมการเกษตร เร่งสร้าง ชุมชนและเกษตรกรต้นแบบ แก้ปัญหาการเผาพื้นที่การเกษตร
ในช่วงหน้าแล้งของทุกปี พื้นที่ภาคเหนือตอนบนจะประสบปัญหาหมอกควันปกคลุมและเกิดมลพิษทางอากาศเป็นประจำ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้เกิดความเสียหายในภาพรวมเป็นอย่างมาก โดยมีสาเหตุที่สำคัญมาจากการเผาในพื้นที่ป่าและพื้นที่เกษตร เนื่องจากในปัจจุบันเกษตรกรยังขาดความรู้ ความเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น จึงนิยมทำการเผาเศษวัสดุการเกษตรก่อนที่จะทำการเตรียมดินเพื่อเพาะปลูกในฤดูกาลต่อไป กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้ให้ความสำคัญเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้รับมอบหมายให้ดำเนินการส่งเสริมให้เกิดการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร โดยเน้นการทำงานเชิงรุก เร่งสร้างความรู้ ความเข้าใจกับเกษตรกร สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อใช้เป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตรในเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในปี 2560 กรมส่งเสริมได้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร ที่มุ้งเน้นการสร้างเกษตรกรต้นแบบและสร้างชุมชนต้นแบบเพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีแผนการถ่ายทอดความรู้เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติของเกษตรกรมากกว่า 14,020 ราย และสนับสนุนการสร้างชุมชนเกษตรปลอดการเผาต้นแบบ 70 แห่ง ในพื้นที่ที่มีการเผาสูง รวม 221 ตำบล ใน 10 จังหวัดภาคเหนือตอนบนที่ประสบปัญหาหมอกควันปกคลุม ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แพร่ พะเยา น่าน แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน ตาก และอุตรดิตถ์ นอกจากนั้น ยังได้มีการสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดประสานความร่วมมือและเชื่อมโยงการทำงานเพื่อสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ตลอดจนสั่งการให้สำนักงานเกษตรจังหวัดบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานภาคีในพื้นที่ทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ตามที่ได้กำหนดไว้ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเน้นย้ำ กระตุ้นเตือน สร้างจิตสำนึกในช่วงวิกฤติปัญหาหมอกควันนี้ปีนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรยังกำหนดจัดงานมหกรรมอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน “อกม. เฝ้าระวัง สร้างเกษตรกร ชุมชนปลอดการเผา” ในวันที่ 7 – 8 มีนาคม 2560 ณ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่