บุกกทม.จี้เปิด"วงจรปิด"ตามหมุดคณะราษฎร !!
ตัวแทนภาคปชช.บุกกทม. จี้เปิด"กล้องวงจรปิด" ตามหมุดคณะราษฎร โวยกทม.แจง"ซีซีทีวี"ถูกปรับปรุง ใช้งานไม่ได้ตั้งแต่ 31 มี.ค. หวั่นขาดหลักฐานเพิ่ม
19 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ และนางณัฏฐา มหัทธนา ตัวแทนภาคประชาชน เดินทางมายื่นหนังสือขอความร่วมมือจากกรุงเทพมหานคร(กทม.) เพื่อขอดูภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด(ซีซีทีวี) โดยรอบบริเวณพระบรมรูปทรงม้า ลานพระราชวังดุสิต เขตดุสิต โดยมีนายยุทธพันธุ์ มีชัย เลขานุการผู้ว่าฯกทม. ให้การต้อนรับและรับมอบหนังสือ ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศกิจ เข้มร่วมสังเกตการณ์ พร้อมทั้งดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ นายอภิสิทธิ์และนางณัฏฐา ได้พูดคุยกับนายยุทธพันธุ์ และเจ้าหน้าที่สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) โดยระหว่างพูดคุย มีประชาชนที่มาร่วมสังเกตการณ์ แสดงความไม่พอใจ พร้อมทั้งตะโกนด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทำให้กลุ่มตัวแทนภาคประชาชน ต้องขอโทษกับการกระทำดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำเอกสารใบคำร้องขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้กรอกตามขั้นตอน เหมือนเช่นกับประชาชนทั่วไป ซึ่งการคัดลอกข้อมูลภาพอยู่ลำดับที่ 188 เดือนเมษายน 2560 ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ได้ขอรายละเอียดภาพจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่วันที่ 1-9 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายยุทธพันธุ์ แถลงว่า กทม.ไม่ขัดข้องที่จะอำนวยการในเรื่องดังกล่าว แต่ต้องทำตามระเบียบ กฎเกณฑ์ และกติกา แต่เนื่องจากเอกสารที่นายอภิสิทธิ์ นำมา ยังขาดบันทึกแจ้งความ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญประกอบการพิจารณา จึงต้องนำมามอบให้กทม.อีกครั้ง อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ผู้ว่าฯกทม.จะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ตามขั้นตอน ไม่แตกต่างจากประชาชนคนอื่น ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ให้สอบถามกับผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.)
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอบคุณกทม. ที่อำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี แต่พบปัญหากล้องวงจรปิดที่ขอดูภาพ จำนวน 11 ตัวในบริเวณดังกล่าว กทม.แจ้งว่า ถูกนำออกไปทั้งหมด เนื่องจากมีการปรับปรุงสัญญาณไฟจราจร ซึ่งกล้องจะผูกติดกับสัญญาณไฟจราจร ทำให้กล้องไม่สามารถใช้งานได้ ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน
ดังนั้น จึงได้ประสานขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงในจุดอื่น ๆ บริเวณพระบรมรูปทรงม้า ลานพระราชวังดุสิต เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการตามหาหมุดคณะราษฎรที่หายไป อย่างไรก็ตามเชื่อว่า หมุดคณะราษฎรหายไปในช่วงระหว่างวันที่ 2-8 เม.ย.ที่ผ่านมา
นางณัฏฐา กล่าวว่า อยากฝากสื่อมวลชนติดตามการนำกล้องวงจรปิดทั้ง 11 ตัวออกจากพื้นที่ดังกล่าว ไม่ใช่อำนาจของกทม. แต่เป็นงานจราจร จึงต้องสอบถามกันต่อไปว่าใครเป็นผู้ตัดสินใจให้เอาออกไปในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ แม้จะไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ควรมีมาตรการรองรับ เพื่อยกระดับการรักษาความปลอดภัย เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่พิเศษ โดยส่วนตัวรู้สึกตกใจมาก แต่ไม่ได้คาดหวังว่า การขอภาพกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในจุดอื่น จะสามารถใช้ประกอบเป็นหลักฐานได้
อย่างไรก็ตาม การไม่มีกล้องเท่ากับขาดหลักฐาน แต่เชื่อว่าบริเวณดังกล่าว มีทหารและตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย จะสามารถเป็นพยานบุคคลได้อย่างแน่นอน จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายซื่อตรงในหน้าที่และวิชาชีพ