รวบไกด์แสบ! ตุ๋นขายแพ็กเกจเที่ยวรัสเซียราคาถูก | คมชัดลึก

     วันนี้(4พ.ค.)คณะลูกทัวร์ที่เดินทางมาจากจังหวัดต่าง ๆ รวม 25 คน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนหน้า จังหวัดสมุทรปราการ หลังถูกหลอกลวงให้ซื้อแพ็คเก็ตทัวร์ไปเที่ยวประเทศรัสเซีย 5 คืน 6 วัน ในแพ็คเก็ตราคาถูก 39,000 ต่อคน รวมค่าเสียหายกว่า 9 แสนบาท โดยนัดหมายขึ้นเครื่องเดินทางในวันนี้ ที่ท่าอากศยานสุวรรณภูมิ แต่พอถึงเวลานัดหมายกลับไม่พบ นายเจษฎา หรือต้น หงษ์หิน อายุ 32 ปี หัวหน้าไกด์ของบริษัททัวร์แห่งหนึ่ง ที่ทำการรับโอนเงินจากลูกทัวร์ทั้งหมดไป 

     ด้าน พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้ระดมพนักงานสอบสวนจากโรงพักต่าง ๆ ในจังหวัดสมุทรปราการ เข้าช่วยสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด ขณะเดียวกันระหว่างสอบปากคำอยู่นั้น มีผู้เสียหายรายหนึ่งสามารถติดต่อกับนายเจษฎา ทางโทรศัพท์ได้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงออกอุบายให้นายเจษฎาเดินทางมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจนสามารถควบคุมตัว นายเจษฎา ไว้ได้ โดยพบอยู่ในสภาพคล้ายคนมึนเมาพูดจาไม่รู้เรื่อง ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิส่วนหน้า โดยให้การวกไปวนมา

     นางแจ่มจันทร์ อายุ 67 ปี หนึ่งในผู้เสียหายที่เดินทางมาจากจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศกับบริษัทที่นายต้นทำงานอยู่ก็ไม่มีปัญหาอะไร และจนกระทั่งมีแพ็คเกตราคาถูกไปรัสเซีย จึงได้ชักชวนเพื่อนฝูงที่ส่วนใหญ่เป็นที่ผู้สูงอายุไปท่องเที่ยวกัน โดยได้โอนเงินเข้าบัญชีนายต้นที่เป็นคนจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินค่าที่พักและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แต่เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินและเตรียมเช็ดอินจึงทราบจากบริษัททัวร์ว่ามีปัญหา คือนายเจษฎาไม่นำเงินที่ได้ไปจ่ายค่าที่พักมีเพียงตั๋วเครื่องบินไปกลับแต่ไม่มีที่พัก เมื่อสอบถามไปยังนายเจษฎาจึงออกมายอมรับว่านำเงินทั้งหมดไปหมุนใช้ส่วนตัวก่อนหน้านี้แล้วและไม่ได้จัดซื้อโปรแกรมทัวร์แต่อย่างใด จึงพากันมาแจ้งความ

     พล.ต.ต. ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายเจษฎา ทำงานเป็นหัวหน้าไกด์ในบริษัททัวร์จึงรู้ช่องทางการทำธุรกิจและได้ตั้งกรุ๊ปทัวร์ขึ้นมาเพื่อหลอกขายทัวร์ให้กับกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มนี้ หลังจากได้เงินประมาณ 1 ล้านบาทนำไปหมุนใช้ส่วนตัว ทั้งนี้ได้ระดมทีมพนักงานสอบสวนมารับเรื่องแจ้งความและสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดกับนายเจษฎา ในเบื้องต้นตั้งสองข้อหา คือ ดำเนินการเดินธุรกิจขายทัวร์ต่างชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาฉ้อโกง