"มาร์ค"มั่นใจแกนนำกปปส.-สุเทพไม่เข้ายึดปชป.
"อภิสิทธิ์" ย้ำ กปปส.ที่มาอยู่กับพรรคต้องยึดอุดมการณ์ หลักการของพรรค อย่าเพิ่งด่วนสรุปนายกฯคนนอกเป็นการดูถูกลดเกียรติปชช..
30 พ.ค. 60 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการหรือกับกลุ่ม กปปส.ว่า กลุ่มคนเหล่านี้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคก็ขาดคุณสมบัติ เพราะไปบวช จึงไม่มีประเด็นว่า เป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ ซึ่งมีการยืนยันกับตนมานานแล้วยังมีความคิดทำงานการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนที่ กปปส. เข้ามาพบตนในเวลานี้ เพราะมีความชัดเจนในเรื่องของกฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายเลือกตั้งที่กำลังจะออกมาแล้ว จึงคิดว่า เป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่จะกลับมาพรรค
"ผมได้บอกว่า การมาอยู่กับพรรคต้องยึดอุดมการณ์ หลักการของพรรค เป้าหมายของคนเหล่านี้คือ การปฏิรูปประเทศ การต่อสู้กับระบอบทักษิณ เป็นแนวทางที่พรรคยึดถือเพื่อเดินหน้าปฏิรูปประเทศ สิ่งที่รัฐบาลปัจจุบันทำได้ก็อยากให้ทำ แต่ถ้าทำไม่ได้พรรคพร้อมเดินหน้า เช่น การปฏิรูปตำรวจ การปฏิรูปสื่อ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองบนวิถีทางประชาธิปไตย ตามโรดแมปอีกไม่นานจะมีการเลือกตั้งก็ต้องพร้อมเสนอบุคคลากร และแนวทางให้กับประชาชน" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนแนวคิดของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชน ที่ประกาศสนับสนุนพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 5 ปีว่า ตนได้คุยกับเกี่ยวกับความเห็นของนายสุเทพ ที่อยู่ในส่วนการเมืองภาคประชาชน ไม่ใช่ระบบพรรคการเมือง เมื่อคนเหล่านี้เข้ามาต้องอยู่ในระบบพรรค โดยนายถาวร เสนเนียม ยืนยันที่จะชูธงว่า พรรคประชาธิปัตย์จะปฏิรูปประเทศ
ในส่วนกรณีที่นายถาวร ระบุว่า หากหัวหน้าพรรคไม่ได้เป็นนายกฯ แต่ไม่ได้พูดชัดเจนว่า จะสนับสนุนคนอื่นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคตไม่มีใครตอบได้ แต่เมื่อเราเป็นพรรคการเมืองต้องเสนอตัวเป็นทางเลือกให้ประชาชน เคารพการตัดสินใจของพวกเขา
"วันนี้ยังไมได้เลือกตั้ง ยังไม่รู้ใครจะอาสาลงสมัครรับเลือกตั้งบ้าง จะพูดว่า รัฐบาลต้องเป็นอย่างนั้น นายกฯต้องเป็นอย่างนี้ คงไม่ได้ หลังจากประชาชนตัดสินแล้ว ค่อยมาดูว่า ประชาชนตัดสินอย่างไร เพราะรัฐธรรมนูญเขียนชัดว่า นายกฯต้องเริ่มจากรายชื่อบัญชีพรรคการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า ใครที่รวบรวมเสียงข้างมากในสภาได้ก็สมควรจัดตั้งรัฐบาล เพราะผู้ที่รวบรวมเสียงข้างมากได้เท่านั้น จึงจะดำรงความเป็นรัฐบาลได้ และไม่ต้องการเห็น ส.ว. ฝืนเจตนารมณ์ประชาชน เนื่องจากจะเป็นเงื่อนไขนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองในอนาคต แต่ถ้าไม่สามารถเลือกนายกฯในบัญชีได้ ก็ต้องไปสู่ขั้นตอนการยกเว้นหลักเกณฑ์ " หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ดังนั้นไม่ควรสรุปล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นก็เป็นการไม่ให้เกียรติประชาชน ผมอยากให้คนที่ให้คำตอบสุดท้าย คือ ประชาชนหลังจากการเลือกตั้ง แต่ถ้าไปพูดกันล่วงหน้าว่า พรรคไหนจะเป็นรัฐบาล พรรคไหนเป็นฝ่ายค้าน หรือใครจะเป็นนายกฯ กระบวนการประชาธิปไตยก็จะเป็นแค่พิธีกรรม เพราะกำหนดกันไปล่วงหน้าแล้ว” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายวิทยา แก้วภารดัย อดีตแกนนำ กปปส. ระบุว่า คนที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญกระสันอยากเลือกตั้งนั้น ตนเห็นทุกคนก็บอกว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่รู้ว่า อย่างนี้จะเรียกว่ากระสันหรือไม่ เพราะคนที่กลับมาอยู่พรรคการเมืองก็เพื่อมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ถือเป็นหน้าที่ของนักการเมือง และไม่มีใครในพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องว่า ต้องเลือกตั้งพรุ่งนี้ แต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้วางโรดแมปจึงอยากให้เดินตามนี้ ส่วนการเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญเป็นคนละประเด็น
"ผมอยู่ในการเมืองนานกว่า 20 ปี เคยตัดสินใจไม่ลงเลือกตั้ง 2 ครั้ง จึงไม่ใช่เรื่องว่า จะกระสันเลือกตั้งหรือไม่ แต่เป็นเรื่องการทำหน้าที่ แต่ก็เข้าใจว่า เวลามีการพาดพิงอาจจะมีอารมณ์ตอบโต้ไปมา เมื่อมีโอกาสคุยกันก็เห็นว่า มีการยอมรับแนวคิดและอุดมการณ์พรรค และหลังจากนี้ หากนายสุเทพมีความเห็นที่ไม่ตรงกับพรรคคนกลุ่มนี้ก็ต้องยึดถือแนวทางของพรรค ไม่ควรมีความเห็นที่สวนทางกับแนวทางของพรรค เพราะพรรคต้องมีเอกภาพ และมีจุดยืนที่ชัดเจนกับประชาชน"
เมื่อถามว่า มีข่าวมาตลอดนายสุเทพส่งอดีต ส.ส. กลุ่มนี้กลับมาเพื่อยึดพรรค และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนที่มายืนยันว่า ไม่ใช่ และนายสุเทพก็ยืนยันกับตนว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะออกไปทำงานภาคประชาชนแล้ว และจะไม่เข้ามาแทรกแซงการทำงานพรรคทั้งสิ้น ส่วนที่นายเอกณัฏ พร้อมพันธุ์ แกนนำ กปปส. ระบุว่า ยังไม่สามารถพูดได้ว่า จะสนับสนุนตนเป็นหัวหน้าพรรคในการเลือกผู้บริหารพรรคครั้งหน้านั้น ส่วนนี้ตนก็ไม่มีสิทธิ์บังคับให้ใครมาสนับสนุน เพราะพรรคเป็นประชาธิปไตยทุกคนมีสิทธิ์เลือกหัวหน้าพรรค
นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า สิ่งสำคัญคือ ใครก็ตามที่จะเป็นหัวหน้าพรรคต้องยึดอุดมการณ์พรรค ซึ่งตอนนี้คนกลุ่มนี้ก็บอกแล้วว่า สนับสนุนคนที่มีรายชื่ออยู่ในพรรคเป็นนายกฯ สิ่งนี้สำคัญกว่า ตนจึงไม่กังวลว่า จะมีใครมาแข่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคหรือไม่ เพราะพรรคประชาธิปัตย์อยู่มาได้ เพราะความเป็นประชาธิปไตย ตนมั่นใจว่าสมาชิกพรรคทุกคนจะตระหนักว่า พรรคอยู่มาได้เพราะอุดมการณ์ และทุกคนที่มีวันนี้ได้ เพราะรักษาอุดมการณ์พรรคจนเติบโตทางการเมือง จะทำเป็นอย่างอื่นไมได้ พรรคเราเป็นสถาบันไม่เคยเป็นพรรคเฉพาะกิจจะทำตัวเหมือนพรรคเฉพาะกิจไม่ได้.