
"ดีเจเก่ง" กับ ชีวิตใหม่ที่ไม่มี "เกียร์ R "
"ดีเจเก่ง" ผู้สร้างวีกรรมถอยรถกระบะชนยาริส จากเหตุการณ์นั้น วันนี้เขาบอกว่าชีวิตเขาเปลี่ยนไปแล้ว
30 พ.ค.60 - ห่างหายไปนาน วันนี้เขากลับมาแล้ว นายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ หรือ ดีเจเก่ง อายุ 35 ปี นักจัดรายการวิทยุคลื่น 85.9 สวีทเอฟเอ็ม หลังสร้างวีรกรรมเลือดร้อนบนท้องถนน ในกรณีถอยรถกระบะของตัวเองพุ่งชนรถยาริสของคู่กรณี เมื่อเดือนมกราคม ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนได้ฉายาว่า "ดีเจเก่ง เกียร์ R"
ต่อมาเจ้าตัวก็ได้ออกมายอมรับและสำนึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และตัดสินใจไปบวช เพื่อเยียวยาสภาพจิตใจ ภายใต้ความความผิดพลาดครั้งนั้น
ล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ภาพการเดินทางที่ไร้รถคู่ใจ บนเฟสบุ๊คของตัวเอง แสดงให้เห็นถึงชีวิตใหม่ที่ไม่สามารถขับรถถอยหลังได้แล้ว
ดีเจเก่ง ให้สัมภาษณ์ "คมชัดลึกออนไลน์" ว่า หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ตัวเขาเองได้กลับไปอยู่ที่บ้านกับคุณแม่ ประจวบกับมีเรื่องราวต่างๆเข้ามามาก จึงทำให้ตัวเองเริ่มคิดเยอะ จนแม่ต้องบอกกับเขาว่า “บวชเถอะลูก” ซึ่งดีเจเก่งบอกว่า เพราะคำพูดนี้ เขาจึงตัดสินใจบวชเป็นระยะเวลา 15 วัน ซึ่งกำลังใจหลักก็มาจากแม่และครอบครัว
เขาเล่าว่า การไปบวชทำให้เขาเข้าใจในหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา และการใช้ชีวิตให้คุ้มค่ามากขึ้น หลังจากสึกมาก็กลายมาเป็นเด็กวัด ช่วยพระถือของ ไปช่วยงานต่างๆที่วัด
สัจธรรมอีกอย่างที่ดีเจเก่งบอกว่าพบคือ “สุดท้ายคนเราไม่ว่าจะรวยจะจน ก็ตายกันหมด เพราะฉะนั้นตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราก็ต้องทำบุญ และสะสมบุญไว้เยอะๆ เพราะอะไรที่จะตามติดเราไปได้ มันก็คือ บุญและกรรม”
ดีเจเก่ง ยอมรับว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งครอบครัวและคนรอบข้างต่างก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ด้วย
“เหตุการณ์วันนั้นได้สอนให้เราเรียนรู้ว่าอย่าใช้ชีวิตโดยประมาท หากเรามีสติ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ช่วยเราได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะสามารถยับยั้งตัวเราเองได้ ไม่ว่าใครจะมายั่วยุขนาดไหน ถ้าเรามีสติเขาก็ทำอะไรเราไม่ได้ ยอมรับว่าวันนั้นผมขาดสติไปแล้วจริงๆ จึงเป็นอย่างที่เห็น”
"อยากให้เรื่องของผมเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน ขับรถให้ถูกกฎจราจร และอย่าใช้ชีวิตประมาท วันนี้ที่ผ่านจุดนั้นมาได้ ก็เหมือนการได้ชีวิตใหม่ การใช้ชีวิตต้องใช้เพื่อคนอื่น อย่าใช้เพื่อตนเอง หากเราใช้เพื่อตนเองมันจะเห็นแก่ตัว ทุกวันนี้ที่อยู่ได้ ก็เพราะต้องดูแลแม่และลูกๆ ซึ่งแม่ป่วยเป็นโรคกระดูกคอเสื่อม ลูกคนเล็กเป็นโรคลมชัก ผมต้องทำงานเพื่อหาเงินมาดูแลครอบครัว ก็หวังว่าต่อจากนี้ทุกอย่างจะกลับมาดีเหมือนเดิม"
ปัจจุบันดีเจเก่ง ได้กลับมาจัดรายการวิทยุเหมือนเดิม ซึ่งทำมาได้ประมาณ 5 เดือน และช่วงหลังก็เริ่มมีงานอื่นเข้ามา
แต่ที่เปลี่ยนจากเดิม ก็คือ ทุกวันนี้ดีเจเก่ง เดินทางไปทำงานด้วยรถสาธารณะ นั่งรถเมล์ นั่งรถไฟฟ้า นั่งรถตู้ ซึ่งเขาบอกว่าเป็นแบบนี้มาปีกว่าแล้ว
"พอเกิดเรื่อง รถโดนยึด ไม่มีรถใช้ ผมก็ต้องปรับตัว ต้องเปลี่ยนตัวเองใหม่ ต้องใช้ชีวิตอย่างพอเพียง" ดีเจหนุ่มกล่าวทิ้งท้าย
---------
เรื่องโดย : นงนุช พุดขาว คมชัดลึกออนไลน์