ข่าว

เปิดขบวนการเอกชนฮุบสวนป่าหมื่นไร่80%สร้างรีสอร์ท

เปิดขบวนการเอกชนฮุบสวนป่าหมื่นไร่80%สร้างรีสอร์ท

13 ก.ย. 2552

เปิดขบวนการเอกชนฮุบที่สวนป่าหมื่นไร่ เจ้าหน้าที่รัฐ -เอกชน -ที่ดินจังหวัดร่วมแปลงเอกสาร ปลอมลายเซ็น เปลี่ยนที่สวนป่า ไม้แม่สลอง- กิ้วทัพยั้ง.เชียงราย เป็นโฉนดที่ดินกว่า หมื่นไร่ กระทรวงทรัพยฯตรวจสอบตะลึงที่ป่า 80 % กลายเป็นรีสอร์ท -สวนเกษตรกรรม ผลตรวจสอ

 จากกรณีปัญหาเอกชน นำพื้นที่สวนป่ากิ่วทัพยั้ง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ข้าวต้ม -ป่าห้วยน้ำลึก  และพื้นที่สวนป่า แม่สลอง จ.เชียงราย  รวม 2พื้นที่กว่า 10,000 ไร่ ไปออกเอกสาร โฉนดที่ดินทับที่สวนป่า โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชี้ชัด ข้าราชการ บริษัทเอกชน ร่วมแปลงเอกสารฮุบที่ดินของรัฐ  โดยล่าสุด  สถานนีตำรวจภูธรแม่จัน  ตำรวจภูธร จ.เชียงราย และตำรวจ ภูธรภาค 5 ได้ทำหนังสือ เลขที่  ชร.089.6/4559 ถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อแจ้งดำเนินคดีจำนวน 6 ราย โดยมีบริษัทเอกชนและข้าราชการระดับ รองปลัดกระทรวงทรัพยากร เข้ารวมขบวนการฮุบที่ดินป่าไม้ และให้แจ้งดำเนินคดี เพื่อเอาผิดทางอาญาและแพ่ง

 นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้   กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า กรมป่าไม้ เพิ่งได้รับหนังสือที่มีการสอบถามความคืบหน้ากรณีการทุจริตบุกรุกพื้นที่สวนป่าของรัฐพื้นที่แปลงปลูกป่าหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สลอง มาจากสถานีตำรวจภูธรแม่จัน จ.เชียงราย ผ่านมาทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ก่อน และยังอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบในรายละเอียดต่างๆอยู่

   เมื่อถามว่ากรณีดัง กล่าวมีการสอบสวนกันมานานแล้ว กรมป่าไม้จะใช้เวลาตรวจสอบอีกนานหรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า   ขณะนี้ยังคงไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้ แต่ขอยืนยันว่าจะเร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอน เพราะทราบดีว่าเป็นเรื่องเก่าที่มีปัญหามานานมากแล้ว

ตะลึงที่ป่า 80%แปลงเป็นรีสอร์ท

 ด้าน แหล่งข่าวจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ   กล่าวว่า กรณีการออกโฉนดปลอมทับซ้อนในเขตพื้นที่สวนป่าแม่สลอง จ.เชียงราย เป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานานมากแล้วตั้งแต่ยังอยู่ในความดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระ ทั่งโอนมาที่กรมป่าไม้   และโอนให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้   (อ.อ.ป.) ดูแล แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาหรือจัดการใครได้ เนื่อง จากเป็นพื้นที่ที่มีอิทธิพลสูงมาก ทั้งที่การพิสูจน์การครอบครองที่ดินสามารถใช้ภาพถ่ายทางอากาศในอดีตมาเปรียบเทียบกันก็จะเห็นชัดว่าอุทยานเดิมมีสภาพเป็นอย่างไร จนมีการเข้าไปปลูกป่า และมีการบุกรุกจนเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่อย่างชัดเจนว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าแน่นอน

 อีกทั้งในสภาพพื้นที่เป็นภูเขามีความลาดชันสูงและอยู่ติดกับลำธาร ก็ไม่สามารถนำไปออกโฉนดที่ดินได้อยู่แล้ว แต่ข้อเท็จจริงกลับมีการรุมทึ้งพื้นที่นำไปออกโฉนดปลอมครอบครองพื้นที่ไปมากกว่า 80% เพื่อทำเกษตรกรรม และทำรีสอร์ท กันมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2537-40 อย่างไรก็ตาม   เรื่องการเอาผิดทั้งข้าราชการ   และเอกชนที่เข้าไปบุกรุกพื้นที่สวนป่าแม่สลอง ก่อนหน้านี้นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีทส.   เคยสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแล้ว เพราะเห็นว่าเรื่องยืดเยื้อมานานหลายปี แต่ไม่มีความคืบหน้า

 “ จากการที่เคยมีโอกาสเข้าไปตรวจสอบสภาพพื้นที่ร่วมกับทาง อ.อ.ป.     ทางกรมป่าไม้ ได้รับมอบพื้นที่จากกรมอุทยานแห่งชาติฯ มาและจะส่งให้ อ.อ.ป.เข้าไปบริหารจัดการพื้นที่ในช่วงปี 2548 รวมพื้นที่   6 , 650 ไร่ แต่ ทางอ.อ.ป.เข้าไปแล้วถึงกับตกใจ เพราะมีพื้นที่สวนป่าเหลืออยู่เพียง 700 ไร่หรือราว 20% เท่านั้น " แหล่งข่าวกล่าว

ออป.เข้าบริหารพื้นที่ไม่ได้

 นอกจากนี้ แหล่งข่าวคนเดิมยังกล่าวอีกว่า  ส่วนอีก 5 , 400 กว่าไร่รอบๆถูกบุกรุกทำเกษตรกรรม และรีสอร์ทไปเกือบหมด คล้ายกับคนที่เหลือผมอยู่หย่อมเดียวตรงกลางหัวเท่านั้น  เอกชนที่ครอบครองป่ามีอิทธิพลสูงเพราะเขาอ้างว่ามีเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ทำให้อ.อ.ป.ไม่สามารถเข้าไปฟื้นฟูปลูกป่าได้เลย เพราะมีการต่อต้านข่มขู่ไล่ยิงจนเจ้าหน้าที่เข้าไม่ถึงพื้นที่   ยืดเยื้อมาจนกระทั่งในช่วงที่ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรัฐมนตรีทส. ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ ก็มีการขอพื้นที่เพื่อนำไปใช้ตั้งศูนย์ถ่ายทอดเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าอีก 1 , 000 ไร่   เท่ากับว่าอ.อ.ป.ไม่เหลือพื้นที่เข้าไปดำเนินการอะไรได้ ซึ่งล่าสุดเมื่อปี 2550 ทางอ.อ.ป.ก็ขอทำเรื่องขอคืนพื้นที่นี้ให้กับกรมป่าไม้ ไปแล้วเช่นกัน เพราะไม่รู้จะเข้าไปจัดการพื้นที่อย่างไร  

แฉปลอมเอกสารรัฐฮุบที่ป่า

  ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบเอกสารการ การตรวจสอบ บุกรุกพื้นที่ป่าพบว่า เอกสาร ทส. 1606.3/13483 ลงวันที่ 17 กรกฏาคม 2552 กรมป่าไม้ ได้แจ้งให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทราบว่า องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ มีหนังสือแจ้งให้กรมป่าไม้รับคืนพื้นที่สวนป่าแม่สลอง จังหวัดเชียงราย ซึ่งกรมป่าไม้ได้รับมอบจากกรมอุทยานแห่งชาติ ฯจำนวน 10 แปลง เนื้อที่ 6,650 ไร่ และส่งมอบให้องค์การอุตวสาหกรรมป่าไม้ในวันเดียวกัน เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2548  เนื่องจากพบว่ามีการบุกรุกและออกโฉนดทับพื้นที่

 กรมป่าไม้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า พื้นที่ดังกล่าว ได้ถูกนำไปออกโฉนดที่ดินจำนวนกว่า 5,481 ไร่ คงเหลือพื้นที่สวนป่าเพียง 746 ไร่ ได้ปลูกป่าใหม่เพียง 150 ไร่  อย่างไรก็ตามกรมอุทยานแห่งชาติ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการบุกรุกพื้นที่และการออกโฉนดที่ดินเช่นกัน  โดยเอกสาร สำนักบริการพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 15 (เชียงราย) เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธุ์ 2552  เรื่องการทุจริตออกโฉนดทับซ้อนพื้นที่ปลูกป่าของหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สลอง  โดยสรุปผลการสอบสวน ตามคำสั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตวืป่าและพันธ์พืช ที่ 1222/2550 ลงวันที่ 3 กันยายน 2550  พบว่า การทุจริตออกโฉนดที่ดินดังกล่าวมี ข้าราชการ ราษฏร เอกชน เข้าร่วมเป็นกระบวนการเดียวกัน ทำให้สูญเสียพื้นที่ป่า 2พื้นที่ รวมแล้วกว่าหมื่นไร่
เจ้าหน้าที่ที่ดิน-เอกชนร่วมฮั้ว

   คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงได้เปิดเผยถึง ขบวนการฮุบที่ดินสวนป่า เริ่มต้นเมื่อปี 2534 หน่วยต้นน้ำแม่สลอง กรมอุทยานแห่งชาตินได้ปลูกป่าต้นน้ำ รวมเนื้อที่ทั้งหมด 13,082 ไร่  แต่ เมื่อปี 2547 พบว่าพื้นที่ดังกล่าว ถูกบริษัทเอกชน บุกรุก เมื่อตรวจสอบพบว่ามีการออกโฉนดโฉนดที่ดินในการครอบครองพื้นที่สวนป่า   โดยการปลอมเอกสารเจ้าหน้าที่ป่าไม้  โดยสำนักงานป่าไม้เชียงเรายได้แจ้งความร้องทุกข์ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามหนังสือ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2536 เลขหนังสือ ที่ ชร 0818/2775  อ้างถึงหนังสือของสถานนีตำรวจภูธร อ.แม่จัน ที่ ชร 0818/2682 ลงวันที่ 21 กันยายน 2536 และหนังสือสำนักงานป่าไม้ เขตเชียงราย ที่ กษ 0722/24 ลงวันที่ 24 กันยายน 2536 แจ้งว่ามีคนร้ายใช้เอกสารปลอม เพื่อเป็นหลักฐานในการออกโฉนดที่ดินนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเอกสารที่ไม่ใช่ลายมือเจ้าหน้าทีป่าไม้ สำนักงานป่าไม้เชียงรายได้มีหนังสือเลขที่  กษ 0722/14 เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2536 เพื่อยืนยันเอกสารรับรองจากป่าไม้ ที่ส่งไปยังสำนักงานที่ดิน จังหวัดเชียงรายเป็นเอกสารปลอม ดังนั้นการออกโฉนดที่ดิน ในพื้นท่สวนป่าจึงน่าจะไม่ชอบด้วยกฏหมาย
ชี้ปลอมเอกสารออกโฉนด

 นอกจากนี้คำสั่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช  ได้มีรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามคำสั่ง ที่ ทส. 0901.3/59 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2551  ระบุว่า ผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามคำสั่งลับ ที่ 1222/2550 ลงวันที่ 3 กันยายน 2550   ได้สรุปว่า แปลงที่ดินกรรมสิทธิ์ออกโฉนดทับซ้อนกับพื้นที่สวนป่าหน่วยจัดการต้ำนน้ำแม่สลอง จำนวน 76 แปลง มีโฉนด 45 แปลง ไม่มีโฉนดที่ดินจำนวน 28 แปลง มีหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง 3แปลง นั้นคณะกรรมการตรวจสอบพบว่าได้มีการนำเอกสารสิทธิ์ที่ดินออกมิชอบด้วยกฏหมาย และทับซ้อนที่ดินพื้นทีป่าไม้ และหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สลอง จึงให้ดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าว