ข่าว

จับเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดยาไอซ์400กก.

จับเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดยาไอซ์400กก.

03 ส.ค. 2560

จับเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ยาไอซ์ 400 กก.ขยายผลรวบ2 แม่ลูก เคยขนกัญชา-ไม้พะยูง เปลี่ยนมาขนยาไอซ์ส่งตปท.รับหากทำสำเร็จ จะแบ่งเงินช่วยน้ำท่วม ทำเสื้อทีม“แม่จัน”


          ที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ส.ค.60  พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ พร้อมของกลางไอซ์ จำนวน 400 กิโลกรัม” จำนวน 2 คดี

          คดีที่ 1 ​เมื่อวันที่ 28-31 ก.ค. ต่อเนื่องวันที่ 2 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้จับกุมคดียาเสพติด (รายสำคัญ) จำนวน 1 คดี ผู้ต้องหา จำนวน 11 คน พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 400 ก้อน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 400 กิโลกรัม

 

จับเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดยาไอซ์400กก.

 

          โดยมีผู้ต้องหาทราบชื่อ1.นายโกศล ศรีมงคล อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 11 ต.ท่าเหิง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ​2.นางสาวชนิดาภา รัตนติสร้อย อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 91 หมู่ที่ 3 ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย ​3. นายศักดิ์ชัย ปลื้มโชค อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 171 หมู่ที่ 14 ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ​4.นายอนุสรณ์ ศิริญากรณ์ศิริกุล อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 96/1 หมู่ที่ 3 ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย ​5.นายสมบัติ สิมมาพิมพ์ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 171หมู่ที่ 14 ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ 6. นางสาวรุสนี มะสาและ อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 89 ถ.ศิริไชยชาญ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส 7.นายยะหยา เปาะแม อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 145 หมู่ที่ 2 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส 8. นางสาวชนิศา มะสาและ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 38/1 ถ.ยะกัง 2 ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส 9.นางวันทา โคตะวงษ์ อายุ 54ปี บ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 3 ต.อุดมพร อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย ​10. นางสาวอมราภรณ์ โคตะวงษ์ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 276 หมู่ที่ 3 ต.อุดมพร อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย ​11. นายพิชิต ชัยภูมิ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 11/4 ซ.พลงช้างเผือก 1 ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง สามารถจับกุมได้พร้อมของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 400 ก้อน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 400 กก 2. รถยนต์ จำนวน 5 คัน ​3. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 19 เครื่อง ​สามารถจับกุมได้ที่บริเวณกาสะลองรีสอร์ท เลขที่ 200/1หมู่ที่ 13 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ต่อเนื่อง บริเวณเขื่อนเพชรรีสอร์ท หมู่ที่ 2 ถ.ไพศาลอุทิศ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, บริเวณบ้านเลขที่ 79 ซ. 3 ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง และบริเวณบ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 3 ต.อุดมพร อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา

 

จับเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดยาไอซ์400กก.

 

          ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันสืบสวนจนพบว่า กลุ่มนักค้ายาเสพติดจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยใช้เส้นทางจาก จ.หนองคาย - จ.อุดรธานี - จ.ขอนแก่น - จ.ชัยภูมิ - จ.ลพบุรี - จ.สระบุรี - อ.บางบัวทอง - จ.นนทบุรี - จ.สมุทรสาคร - จ.เพชรบุรี เพื่อส่งมอบยาเสพติดให้กับผู้ซื้อที่รอรับในพื้นที่ จ.สงขลา ภาคใต้ของประเทศไทย กลุ่มนักค้ายาเสพติดดังกล่าวจะใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน สฉ 6630 กรุงเทพมหานคร, รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน 6 กด 6141 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีเทา หมายเลขทะเบียน กธ 5151 ขอนแก่น เป็นยานพาหนะใช้ในการลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้

          ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันวางแผนจับกุมกลุ่มนักค้ายาเสพติดนี้ โดยได้จัดกำลังในการปฏิบัติการเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทางต่างๆ ดังกล่าว จนกระทั่งวันที่ 28 ก.ค. เวลาประมาณ 04.00 น. ได้พบขบวนรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน สฉ 6630 กรุงเทพมหานคร ขับนำหน้ารถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน 6 กด 6141 กรุงเทพมหานคร ซึ่งขับอยู่กลางของขบวน และรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีเทา หมายเลขทะเบียน กธ 5151 ขอนแก่น ขับอยู่ท้ายสุดของขบวน โดยรถยนต์ ทั้งสามคัน ขับทิ้งระยะห่างประมาณ 1-2 กิโลเมตร ขับไปตามถนนมิตรภาพ โดยมุ่งหน้าออกจากพื้นที่ จ.หนองคาย - จ.อุดรธานี - จ.ขอนแก่น และเมื่อไปถึงสี่แยกเจริญศรี ถ.เหล่านาดี เส้นทางตัดผ่านกลางเมือง จ.ขอนแก่น กลุ่มนักค้ายาเสพติดได้ขับรถยนต์เลี้ยวขวามุ่งหน้าไปตามเส้นทาง จ.ขอนแก่น - อ.พระยืน แล้วขับเข้าไปในบริเวณกาสะลองรีสอร์ท เลขที่ 200/1 หมู่ที่ 13 ถ.เลี่ยงเมืองขอนแก่น ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ติดตามเข้าไปบริเวณดังกล่าว เพื่อทำการตรวจค้น พบผู้ต้องหาที่ 1-5 พร้อมรถยนต์ทั้งสามคัน จากการตรวจค้นจนพบ ยาไอซ์ วางอยู่ข้างในรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีเทา หมายเลขทะเบียน กธ 5151 ขอนแก่น จำนวนประมาณ 400 กก. จึงทำการจับกุม ควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ 1-5 ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส. 2 ดำเนินคดี

 

จับเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดยาไอซ์400กก.


  
          ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 6-8 ซึ่งทำหน้าที่มาลำเลียง ยาเสพติดดังกล่าวไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ที่ เขื่อนเพชรรีสอร์ท หมู่ที่ 2 ถ.ไพศาลอุทิศ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส. 2 ดำเนินคดี

          จากนั้นพนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบสวน ขยายผลทราบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการในการลำเลียงยาเสพติดครั้งนี้อีก คือ นางวันทา หรือนางทา หรือยายชา โคตะวงษ์ เป็นคนสั่งการ ร่วมกับบุตรสาวคือ น.ส.อมราภรณ์ หรือต่าย โคตะวงษ์ และ นายพิชิต ชัยภูมิ สามีของ น.ส.อมราภรณ์ จึงได้ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับนางวันทา, น.ส.อมราภรณ์, และนายพิชิต (ผู้ต้องหาที่ 9-11) และ บช.ปส. ได้สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายที่เกี่ยวข้องและจับกุมบุคคลตามหมายจับ ในห้วงวันที่ 1-4 ส.ค. จำนวน 20 เป้าหมาย (ภาคเหนือ 1 จุด, ภาคอีสาน 12 จุด, ภาคกลาง 4 จุด และภาคใต้ 3 จุด) จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 3 ราย และตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ. มาตรการฯ มูลค่าประมาณ 18 ล้านบาทเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้แจ้งข้องหาทั้งหมด 11 ราย ในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

จับเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดยาไอซ์400กก.

 

          คดีที่ 2. เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม 1.นายคำภี หรือโจ คำพิทักษ์ อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 97 หมู่ที่ 7 ต.โคกนาโก อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร 2.นายธีรศักดิ์ หรือจุ๋ง นาคาวงศ์ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 271 ม.6 ต.เมืองแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ 3.นายธนาดล หรือป๊อบ เจียมจัตุรัส อายุ 17 ปี บ้านเลขที่ 90 ซ.ลาดพร้าว 1 แขวงจอมพล จตุจักร กทม. พร้อมของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 2 กิโลกรัม 2.รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน 3.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง ​สามารถจับกุมได้บริเวณริมถนนหน้าอพาร์ทเม้นท์ฮาโมนี่ ซอยลาดพร้าว 12 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา

          พล.ต.ท.สมหมาย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่า กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติด จึงได้วางแผนล่อซื้อ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามคนได้ขณะกำลังนำยาเสพติด(ไอซ์) มาส่งจำนวนประมาณ 2 กิโลกรัม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีต่อไป
      
          พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อตามจับนางวันทาหรือยายชา โคตะวงษ์ อายุ 54 ปี ก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้ลักลอบขนกัญชา และไม้พะยูงรายใหญ่ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงมีฉายาว่ายายชา แต่ทุกวันนี้ยายชาได้เปลี่ยนมาลักลอบขนยาไอซ์ เพราะมีค่าจ้างที่สูงกว่า ถ้าสามารถลักลอบขนยาเสพติดลงไปทางภาคใต้ และส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย และประเทศออสเตรเลียได้ โดยมีค่าจ้างต่อ 1 รอบ เป็นล้านบาท และยาเสพติดในปัจจุบันนี้มีความเข้มข้นของสารเสพติดถึง 95-98 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ในต่างประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีคนแอบนำยาไอซ์ผสมน้ำให้เด็กกินที่สนามบิน เด็กนั้นกินไปไม่กี่คำ ก็เสียชีวิต

          พล.ต.ท.สมหมาย เปิดเผยต่อว่า ทั้งนี้ยายชาได้ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถ้าสามารถลักลอบขนยาเสพติดครั้งนี้ ได้สำเร็จ ยายชาและผู้ร่วมกระบวนการจะแบ่งเงินจำนวนหนึ่ง ไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่จ.สกลนครอีกด้วย โดยได้มีการทำเสื้อทีม ที่มีการสกรีนหน้าอกเสื้อว่า“ทีมแม่จัน”อีกด้วย