![4 สนามบาสเกตบอลมูลค่าสูงสุดในเอ็นบีเอ 4 สนามบาสเกตบอลมูลค่าสูงสุดในเอ็นบีเอ](https://media.komchadluek.net/media/img/size1/2018/01/23/gf56gkd9dhb9iafa5djb9.jpg?x-image-process=style/lg-webp)
4 สนามบาสเกตบอลมูลค่าสูงสุดในเอ็นบีเอ
นอกจากการทุ่มเงินจ้างนักกีฬาแล้วอีกสิ่งหนึ่งซึ่งถือเป็นหน้าเป็นตาให้กับทีมหรือแม้กระทั่งวงการบาสเกตบอล เอ็นบีเอ นั่นคือ “สนามแข่งขัน” ที่แต่ละทีมก็มีการลงทุนสร้
บาสเกตบอล “เอ็นบีเอ” เป็นหนึ่งในกีฬาที่ชาวสหรัฐมีความนิยมมากที่สุดชนิดหนึ่ง โดยจากข้อมูลในฤดูกาล 2017-2018 พบว่าเอ็นบีเอมีรายรับจากค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดและสปอนเซอร์สนับสนุนรวม 2.4 หมื่นล้านดอลาร์ เป็นที่สองรองจากอเมริกัน ฟุตบอล “เอ็นเอฟแอล” ที่มีมูลค่าที่ 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนที่สามเป็นของเบสบอล เมเจอร์ลีก “เอ็มแอลบี” ที่1.2 หมื่นล้านดอลลาร์
ด้วยจำนวนเม็ดเงินมหาศาลดังกล่าวทำให้ภาพรวมของทีมบาสเกตบอลในเอ็นบีเอ ถือเป็นทีมกีฬาที่มีความร่ำรวย โดยจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์เกี่ยวกับทีมกีฬาที่มีมูลค่าสูงสุดในปี 2017 พบว่ามีทีมบาสเอ็นลีเอติดมาถึง 7 ทีม ดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าจะเห็นการจ้างนักกีฬาด้วยเม็ดเงินมหาศาล
นอกจากการทุ่มเงินจ้างนักกีฬาแล้วอีกสิ่งหนึ่งซึ่งถือเป็นหน้าเป็นตาให้กับทีมหรือแม้กระทั่งวงการบาสเกตบอล เอ็นบีเอ นั่นคือ “สนามแข่งขัน” ที่แต่ละทีมก็มีการลงทุนสร้างอย่างมหาศาลไม่แพ้กัน
บาร์เคลย์ส เซ็นเตอร์ (1 พันล้านดอลลาร์)
รังเหย้าของทีมบรูคลิน เน็ตส์ ที่เริ่มสร้างตั้งแต่เดือน มี.ค.ปี 2010 จนแล้วเสร็จเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 28 ก.ย. ปี 2012 ความจุอยู่ที่ 1.8 หมื่นที่นั่ง โดย เน็ตส์ ที่ได้อภิมหาเศรษฐีชาวรัสเซีย “มิคาเอล โพรโกรอฟ” เข้ามาเทคโอเวอร์ทีมเมื่อปี 2009 ทำให้เป็นทีมที่มีสถานะทางการเงินที่มั่นคง
ช่วงเริ่มต้นของแผนการสนามสนามแห่งนี้ทางโพรโกรรอฟได้ระดมเงินตั้งกองทุนขึ้นมาจนได้เงินประมาณ 700 ล้านดอลาร์จากนั้นส่วนที่เหลือเป็นการกู้มาจากธนาคาร มูลค่าการก่อสร้างทั้งหมด 1 พันล้านดอลลาร์สูงที่สุดในเอ็นบีเอ
ขณะเดียวกันยังได้รับการสนับสนุนและตอบรับสำหรับการก่อสร้างเป็นอย่างดีจากทางการของเมืองบรูคลิน เนื่องจากสอดคล้องกับนโยบายของเมืองอยู่แล้ว ที่ต้องการให้มีสนามกีฬาเพราะเตรียมที่จะสร้างโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ของเมืองมูลค่า 4.9 พันล้านดอลาร์หรือรู้จักกันในนาม “แปซิฟิค พาร์ค”
สำหรับบาร์เคลย์ส เซ็นเตอร์ ถูกออกแบบโดยสถาปนิกที่ชื่อว่า “แฟรงก์ เกห์รี” หนึ่งในสุดยอดสถาปนิกชั้นนำของโลกมีลักษณะเด่นคือเป็นสนามบาสเกตบอลที่มีสวนบนดาดฟ้ามีพื้นที่แบบเปิดโล่งด้วยมุมมองแบบพาโนรามาอีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนใช้สำหรับเป็นลานกีฬาสเก๊ตน้ำแข็งในฤดูหนาวได้ด้วย
แอมเวย์ เซนเตอร์ (480 ล้านดอลลาร์)
หลังจากที่ “ออร์แลนโด้ แมจิก” ใช้รังหย้าเดิมคือ แอมเวย์ อารีน่า มายาวนาน 11 ปี ก็จัดการทำลายสนามแห่งนี้ทิ้ง(ใช้ระเบิดทำลาย)ในปี 2012 เพื่อที่จะใช้สร้างสนามใหม่คือแอมเวย์ เซนเตอร์ ความจุ 1.8 หมื่นที่นั่ง ในพื้นที่ใกล้ๆกัน โดยสนามแห่งใหม่มีมูลค่าสูงถึง 480 ล้านดอลลาร์สูงเป็นอันดับสองของเอ็นบีเอ
สนามแห่งนี้มีนโยบายจะสร้างมาตั้งแต่ปี 2006 แต่กว่าจะผ่านการอนุมัติของฝ่ายบริหารทีม การหาแหล่งเงินทุนและความเห็นชอบจากภาครัฐต้องรอถึงปี 2009 และมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2010 โดยเป็นค่าก่อสร้างและสิ่งอำนวนความสะดวกต่างๆของสนามอยู่ที่ 380 ล้านดอลลาร์รวมกับค่าที่ดินอีก 100 ล้านดอลลาร์
สำหรับการออกแบบนั้นด้านนอกของตัวอาคารแสดงให้เห็นการผสมผสานความทันสมัยของวัสดุกระจกและโลหะกับลวดลายกราฟฟิคร่วมสมัยผ่านผนังที่เป็นเสมือนอนุสรณ์แห่งความทรงจำ ณ บริเวณหน้ามุขด้านหนึ่งของอาคาร หอคอยที่สูงถึง 180 ฟุต เปรียบเสมือนกระโจมไฟที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางเส้นขอบฟ้าของใจกลางเมือง
นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมและบุคลิกลักษณะของชุมชน ตอบสนองความต้องการที่ตรงตามเป้าหมายของผู้ใช้งานตามตำนานด้านการกีฬาและความบันเทิงของเมืองออร์แลนโด โดยแอมเวย์ เซนเตอร์เคยได้รับรางวัล “สนามกีฬายอดเยี่ยมแห่งปี 2012” จากสปอร์ต บิสซิเนส เดลี่ วารสารธุรกิจด้านกีฬาของสหรัฐ
อเมริกัน แอร์ไลน์ เซ็นเตอร์ (420 ล้านดอลลาร์)
สนามอเมริกัน แอร์ไลน์ เซ็นเตอร์ เกิดขึ้นมาจากดำริของ “รอส เพร็อต” อดีตเจ้าของทีม “ดัลลัส แมฟเวอริกส์” ที่ต้องการสร้างสนามใหม่แทนที่สนาม “รียูเนียน อารีน่า” รังเหย้าเดิมที่ใช้มานานกวา 20ปี จึงเริ่มก่อสร้างในปี 1999 และสามารถเปิดใช้อย่างเป็นทางการในปี 2001 ความจุ 1.9 หมื่นที่นั่ง
สำหรับมูลค่าที่ใช้ก่อสร้างสนามแห่งนี้อยู่ที่ 420 ล้านดอลลาร์ โดยสายการบิน อเมริกัน แอร์ไลน์ เข้ามาช่วยสนับสนุนด้วยจำนวนเงิน 195 ล้านดอลลาร์เพื่อแลกกับการใช้ชื่อแบรนด์ผูกกับสนาม
สำหรับสนามแอร์ไลน์ เซ็นเตอร์ ถือเป็นสนามที่มีมูลค่าสูงที่สุดในเอ็นบีเอ มาตลอดยุค 2000 ก่อนจะถูกทำลายสถิติลงโดยแอมเวย์ เซนเตอร์ ของทีมออร์แลนโด้ แมจิก ในปี 2010 โดยรูปลักษณ์ของสนามนั้นมีการผสมผสานศิลปะกับเทคโนโลยีอย่างลงตัว
ขณะที่บริเวณนอกสนามเป็นที่โล่งแจ้งแบบอเนกประสงค์มีจุดเด่นโดยมีน้ำพุล้อมรอบ พร้อมกับร้านอาหาร,อาคารค้าปลีกและที่ตั้งสำนักงาน นอกจากนี้ยังสามารถจัดกิจกรรมกลางแจ้งได้อีกด้วย
สเตเปิลส์ เซ็นเตอร์ (375 ล้านดอลลาร์)
รังเหย้าของทีม “ลอสแอนเจลิส เลเกอรส์” เปิดใช้ในปี 1998 ถือเป็นสนามที่มีความทันสมัยที่สุดก่อนสิ้นสุดยุค 90 ด้วยมูลค่าการก่อสร้างสูงถึง 375 ล้านดอลลาร์ ความจุ 2 หมื่นที่นั่ง
สนามดังกล่าวถือว่าใช้เวลาในการดำเนินการตั้งแต่การอนุมัติของผู้บริหารทีมและการก่อสร้างอย่างรวดเร็ว โดยมีบริษัท สเตเปิลส์ ที่ทำธุรกิจค้าปลีกให้การสนับสนุนเรื่องเงินทุน โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้างแล้วเสร็จเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น
นอกจากนี้สเตเปิลส์ เซ็นเตอร์ ยังสามารถปรับเป็นสถานที่แสดงคอนเสิร์ต ศูนย์ประชุม และสถานที่สำหรับประกาศผลรางวัล โดยสถาบันศิลปะวิทยาการการบันทึกเสียงแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ใช้สถานที่นี้ในงานประกาศผลรางวัลแกรมมี ตั้งแต่ปี 2000 และครอบครัวของไมเคิล แจ็กสัน ได้ใช้สถานที่นี้ในพิธีไว้อาลัยไมเคิล แจ็กสัน เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2009
ด้วยความพิเศษของสนามบาสเกตบอลที่เป็นสนามกีฬาแบบปิดไม่ใช่แค่ที่สำหรับการแข่งขันกีฬาเท่านั้น ต้องมีระบบแสงสีเสียงและความบันเทิงให้ผู้เข้าชม อีกทั้งบรรยากาศภายนอกสนามต้องดึงดูดคนทุกเพศทุกวัย ดังนั้นแต่ละทีมจึงลงทุนสร้างและปรับปรุงให้ทันสมัยเสมอ
/////////////////////////
มูลค่าการลงทุนปรับปรุงไม่น้อยกว่าการสร้าง
สนามที่มีมูลค่าการก่อสร้างสนามที่สูงในเอ็นบีเอ จะเป็นสนามที่สร้างขึ้นในช่วงปลายยุค 90 ถึงปี 2000 เป็นต้นมาเสียส่วนใหญ่ ความจิรงแล้วยังมีอีกหลายสนามที่มีความทันสมัยแม้มีมูลค่าก่อสร้างไม่ได้สูงมากแต่มีการลงทุนปรับปรุงอย่างมหาศลต่อเนื่อง
สนาม “โอราเคิล อารีนา” ของทีมโกลเดน สเตท วอริเออร์ส ที่มีมูลค่าการก่อสร้างแค่ 24 ล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่เปิดใช้มาตั้งแต่ปี 1964 โดยล่าสุดมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในปี 2012 ด้วยงบประมาณสูงถึง 300 ล้านดอลลาร์เพิ่มระบบการรักษาความเย็นบนพื้นสนาม จนกลายเป็นสนามที่สมารถรองรับกีฬาได้ทั้งอาสเกตบอลและไอซ์ ฮอคกี้
ในปีเดียวกัน สนาม “เมดิสันสแควร์ การ์เด้น” ของทีมนิวยอร์ก นิกส์ได้ลงทุนปรับปรุงสนามเป็นมุลค่าประวัติการณ์ถึง 850 ล้านดอลลาร์ เพื่อทำให้สนามอันเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมากกว่า 100 ปีแห่งนี้กลายเป็นความบันเทิงที่คบวงจรทั้งกีฬาอย่างบาสเกตบอล,ไอซ์ ฮอคกี้ และมวย รวมไปถึงสถานที่สำหรับการจัดแสดงคอนเสิร์ต
นอกเหนือไปจากงานบันเทิงแล้ว เมดิสันสแควร์ ยุคใหม่ยังใช้เป็นสถานที่จัดประชุมใหญ่ ทั้งของพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ที่เรียกว่า คอนเวนชั่น อันเป็นการระชุมครั้งสุดท้ายก่อนเลือกตัวแทนพรรคไปสมัครชิงชัยประธานาธิบดีหลายต่อหลายครั้งอีกด้วย
ดังนั้นสนามบาสเกตบอลในสหรัฐจึงอาจไม่ใช่สถานที่พิเศษสำหรับคอบาสอย่างเดียว แต่เป็นสถานที่การเสพความบันเทิงในร่มทุกรูปแบบของเหล่าอเมริกันชน