
วัฒนธรรมแทงโก้
ทุกครั้งที่มีโอกาสไป บูเอโนสไอเรส เมืองหลวงของ อาร์เจนตินา ผมจะต้องหาโอกาสไปชมการแสดง แทงโก้ ด้วยความรู้สึกชื่นชมในจังหวะลีลาศที่มีความเคลื่อนไหวซึ่งเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งชีวิต การแสดงออกถึงความเป็นมนุษย์ปุถุชนที่โลดแล่นอยู่ในห้วงกิเลสตัณหา แต่ก็หยิ่งทะนงใ
แทงโก้ มีถิ่นกำเนิดซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงและหาข้อยุติไม่ได้ระหว่างอุรุกวัยกับอาร์เจนตินา แต่จากมอนเตวิเดโอ ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองท่าสำคัญของอุรุกวัยริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ล่องเรือมาตามแม่น้ำปลาโต้เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงบูเอโนสไอเรส ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับการถ่ายทอดวัฒนธรรมการเต้นแทงโก้จากมอนเตวิเดโอมาสู่บูเอโนสไอเรส หรือจากบูเอโนสไอเรสไปยังมอนเตวิเดโอ หากแต่ต้องยอมรับว่าชาวอาร์เจนตินาทั้งนักแต่งเพลง นักดนตรี นักร้อง และนักเต้น ได้มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่แทงโก้ออกไปอย่างกว้างขวางทั้งในดินแดนแถบอเมริกาใต้และภูมิภาคต่างๆ ของโลก รวมทั้งยกระดับของแทงโก้จากความบันเทิงของชนชั้นล่างขึ้นไปสู่การเป็นงานศิลปะของชนชั้นสูง
ว่ากันว่าแทงโก้เริ่มขึ้นในราวทศวรรษ 1850 เป็นการผสมผสานการเต้นรำของทาสจากแอฟริกากับการลีลาศของชาวยุโรปโดยเฉพาะสเปนและอิตาลี เป็นการแสดงออกถึงอารมณ์พิศวาส ยั่วยวน เย่อหยิ่ง และดุดัน ในลีลากึ่งอุปรากรและนาฏศิลป์ จุดเด่นของแทงโก้อยู่ที่การทรงตัวอย่างแน่วนิ่งขณะที่มีการเคลื่อนไหวที่พลิ้วไหวและเร่าร้อนรุนแรง ท่ามกลางเสียงดนตรีจากแอคคอเดี้ยน เปียโน กีตาร์ ดับเบิลเบส และไวโอลิน
เมื่อพูดถึงแทงโก้แล้ว ก็คงจะข้ามเรื่องของ คาร์ลอส การ์เดล ไปไม่ได้ การ์เดล ได้รับการยกย่องจากชาวอาร์เจนตินาและชุมชนคนรักแทงโก้ว่าเป็น “ราชาแห่งแทงโก้” โดยเป็นนักร้องและนักแต่งเพลงที่สร้างเอกลักษณ์ให้แก่แทงโก้ในสไตล์ของอาร์เจนตินาจนได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง นับแต่ปี 1917 เป็นต้นมา การ์เดลเดินทางไปเปิดการแสดงตามประเทศต่างๆ ในอมริกาใต้ จากอุรุกวัย ถึงปัวโตริโก และข้ามไปเปิดการแสดงในยุโรป ทั้งปารีส มาดริด บาร์เซโลนา และนิวยอร์ก ด้วยรูปร่างที่สมาร์ทและใบหน้าที่หล่อเหลาทำให้เขามีโอกาสแสดงภาพยนตร์กับบริษัทพาราเมาท์หลายเรื่อง การ์เดลเสียชีวิตในปี 1935 จากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในโคลอมเบีย ขณะมีอายุได้ 48 ปี เหลือเพียงเรื่องราวที่เป็นประหนึ่งตำนานและบทเพลงที่ยังคงตราตรึงจิตใจของผู้ฟังทั่วโลกตราบจนปัจจุบัน
แทงโก้ได้เป็นมรดกของชาติและซึมซาบอยู่ในสายเลือดของคนบูเอโนสไอเรสและที่อื่นๆ ในอาร์เจนตินา ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็จะได้ยินเสียงเพลงแทงโก้ การแต่งกายในชุดสำหรับเต้นแทงโก้ และการเต้นแทงโก้ แม้กระทั่งตามข้างถนน มีอนุสาวรีย์ของคาร์ลอส การ์เดล สถานที่แสดงแทงโก้อันอลังการ รวมถึงร้านกาแฟโบราณที่เหล่านักร้องนักแต่งเพลงแทงโก้ในยุคนั้น เคยใช้เป็นที่พบปะและแต่งเพลงหรือซ้อมร้องเพลงกัน ซึ่งยังคงรักษาสภาพและบรรยากาศเอาไว้ได้อย่างดี โดยมีหุ่นของศิลปินรุ่นดังกล่าว 4-5 คน ไว้ที่มุมหนึ่งในร้าน ซึ่งผมยังเคยคิดว่าเราน่าจะหาทางยกย่องศิลปินของเราแบบเดียวกันนี้บ้าง และสถานที่ที่เหมาะที่สุดก็คือโรงมหรสพศาลาเฉลิมกรุง โดยทำหุ่นของนักร้อง นักแต่งเพลง นักแสดง ที่เคยมีความผูกพันกับศาลาเฉลิมกรุงสักกลุ่มหนึ่งมาตั้งแสดง อาทิ หุ่น “ครูแจ๋ว” สง่า อารัมภีร กำลังเล่นเปียโนขณะแต่งพลง “น้ำตาแสงใต้” หุ่น ม.ล.รุจิรา อิศรางกูร ยอดนักพากย์ภาพยนตร์ยุค 16 มม. ที่ก้าวสู่เวทีเฉลิมกรุงครั้งแรกในฐานะของนักเต้นแท็ป ฯลฯ เป็นต้น
ผมรู้สึกยินดีที่ยูเนสโก ประกาศเมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา ให้การเต้นรำในจังหวะแทงโก้ เป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ และดีใจแทนชาวอาร์เจนตินาที่เห็นคุณค่าและทำนุบำรุงมรดกทางวัฒนธรรมชิ้นนี้ของตนมาเป็นเวลายาวนานกว่าร้อยปี
ขณะเดียวกันก็อยากเห็นคนไทยมีวัฒนธรรมอะไรสักอย่างสองอย่างที่สามารถจับต้อง ใช้สอยได้ และเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน รวมทั้งเป็นสมบัติร่วมกันของคนไทยทั้งชาติ แบบเดียวกับแทงโก้ของชาวอาร์เจนตินาบ้างครับ