ข่าว

เปิด3ทหารถูกรุมยำเจ็บหนักไฟเขียวสอบคดี5ศพ

เปิด3ทหารถูกรุมยำเจ็บหนักไฟเขียวสอบคดี5ศพ

08 ต.ค. 2552

เปิดตัวนายทหารถูกรุมยำ บาดเจ็บหนัก 3 นาย ผบ.ทบ.ลั่นเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย เปิดไฟเขียวตำรวจลงหาข้อมูลในพื้นที่

 จากเหตุการณ์นายทหารถูกรุมทำร้ายร่างกายภายในร้านอาหารไวท์เฮ้าส์ ของนายอารมณ์ อุดมสันต์ ส.ท.เมืองสระบุรี จนมีกระแสข่าวว่า อาจเชื่อมโยงกับเหตุการณ์สังหารหมู่ 5 ศพ ในพื้นที่ สภ.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี นั้น

 ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม รายงานข่าวจากกองทัพบกระบุว่า หลังจากที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. สั่งการให้ต้นสังกัดของนายทหารที่ถูกทำร้าย รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาให้กองทัพบกตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้กองพลทหารม้าที่ 2 ต้นสังกัดของนายทหารที่ถูกทำร้ายร่างกาย ทำหนังสือรายงานผ่านมาที่กรมกำลังพลทหารบก เพื่อนำเสนอผู้บังคับบัญชาระดับสูงต่อไป โดยในรายงานระบุว่า ขณะที่นายทหารไปเที่ยว ปรากฏว่าถูกกลุ่มคนมารุมทำร้าย โดยไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มไหน

 รายงานข่าวเปิดเผยต่อว่า นายทหารที่ถูกทำร้ายร่างกายทั้งหมดมี 3 นาย คือ 1.พ.ต.พัลลภ ผึ้งหลวง รองผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 24 รักษาพระองค์ บาดเจ็บสาหัสจากการถูกตีด้วยของแข็ง บริเวณศีรษะและท้ายทอย ใส่เฝือกแขนขวาท่อนล่าง จมูกปากแตกเย็บ 2 เข็ม 2.พ.ต.ภณศธร โพธิ์กล่ำ ฝ่ายอำนวยการด้านยุทธการและการข่าวกรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ บาดเจ็บตาขวาบวม หัวและคิ้วแตกเย็บ 14 เข็ม กระดูกซี่โครงหัก 3.ร.อ.วันรัก โอฬารสกุล ผู้บังคับกองร้อย กองพันทหารม้าที่ 23 รักษาพระองค์ บาดเจ็บกรามขวาโยก ฟันหัก 1 ซี่ ตาขวาบวมปิด หัวแตกเย็บ 3 เข็ม ฟกช้ำบริเวณซอกหูและซอกคอ

 “หลังจากเกิดเหตุนายทหารทั้ง 3 นาย ได้แจ้งความที่ สภ.เมืองสระบุรี ในฐานะผู้เสียหาย และเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล จนล่าสุดได้กลับมารักษาตัวที่บ้าน ส่วนขั้นตอนต่อไปคงเป็นเรื่องของตำรวจที่จะสืบสวนหาคนผิดต่อไป” รายข่าวข่าวระบุ

 ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตอนนี้ทางกองทัพบกก็รับทราบข้อมูลแล้ว แต่เรื่องนี้เป็นการบาดเจ็บทางธุรการไม่ใช่การฝึก ดังนั้นเรื่องคดีความคงต้องให้ตำรวจดำเนินการสืบสวนต่อไป ส่วนการมีคนสงสัยว่ากลุ่มนายทหารจะไปมีเรื่องกับคดียิงคนตาย 5 ศพที่ จ.สระบุรีนั้น คงไปชี้อะไรอย่างนั้นไม่ได้ ทหารก็เป็นเหมือนประชาชนทั่วไป ดังนั้นเรื่องคดีต่างๆ ก็ขอให้ตำรวจดำเนินการดีกว่า ส่วนกองทัพบกคงไม่เข้าไปยุ่งในคดี

 อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย พล.อ.อนุพงษ์ จึงมีคำสั่งให้ผู้บังคับหน่วยที่เกี่ยวข้อง และผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ ให้ความร่วมมือกับตำรวจทุกอย่าง หากมีการร้องขออะไรมาก็ต้องพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่