เรียกลอตแรก 7 ดาราดังโฆษณา"เมจิกสกิน"สอบปากคำ | คมชัดลึก

     คืบหน้าการดำเนินคดีกับบริษัท เมจิกสกิน จำกัดและเครือข่ายขายเครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาลดน้ำหนักที่ติดเครื่องหมายการค้าผิดประเภท ผลิตภัณฑ์ไม่ได้คุณภาพและปลอมเคื่องหมาย อย. โดยมีผู้ต้องหาตามหมายจับ ทั้งหมด 8 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว นางวรรณภา พวงสน อายุ 34 ปี หัวหน้าทีมและเจ้าของบริษัท และนายกร พวงสน อายุ 37 ปี สามีเป็นผู้ดูแลการเงิน ไปฝากขังผัดแรก เมื่อวันที่ 23 เมษายน ก่อนได้รับการประกันตัวออกไป ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมเรียกกลุ่มนักแสดงดาราและเนตไอดอล จำนวน 56 คน ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์และรีวิวสินค้าในเครือเมจิกสกินซึ่งเข้าข่ายมีความผิดเข้าให้ปากคำนั้น

     

     ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 เมษายน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง.ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าว่า จากการสอบสวนยืนยันว่าสินค้าในเครือเมจิกสกินเป็นสินค้าผิดกฎหมายไม่มีเครื่องหมายรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ซึ่งพบมีการปลอมแปลงหมายเลข อย.เป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งไม่มีส่วนผสมรกแกะจริงตามที่กล่าวอ้าง รวมถึงมีการโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง โดยจากการตรวจสอบต้นทุนการผลิตสินค้าในเครือมีต้นทุนที่ต่ำและขายได้กำไรเกิน 100%

     ขณะเดียวกันได้รวบรวมพยานหลักฐานว่ามีศิลปินดาราคนใดมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง โดยคาดว่าในวันที่ 25 เมษายน จะมีความชัดเจนว่าจะเรียกศิลปินดาราคนใดเข้าสอบปากคำต่อพนักงานสอบสวนบ้าง เบื้องต้นคาดว่าจะออกหมายเรียกก่อนประมาณ 7 ราย และจะทยอยเรียกดาราที่เหลือต่อไป 

     "การรีวิวสินค้าของดาราศิลปินที่กล่าวอ้างว่าใช้สินค้าแล้วดีใช้แล้วสวย ถือเป็นความผิดฐานตัวการร่วม และขอฝากถึงดาราศิลปินว่าเนื่องจากเป็นบุคคลสาธารณะ

     สำหรับดารานักแสดงลอตแรกที่ถูกออกหมายเรียก 7 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.ศรัณย์รัชต์ ดีน หรือ ลีเดีย 2.น.ส.อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา หรือแพตตี้ 3.นายจุฑาวุฒิ ภัทรกำพล หรือมาร์ช 4.น.ส.อภิษฎา เครือคงคา หรือไอซ์ 5.น.ส.วิริฒิพา ภักดีประสงค์ หรือวุ้นเส้น 6.นายพุฒิชัย เกษตรสิน หรือ ดีเจพุฒ และ 7.อรนภา กฤษฎี หรือม้า

     ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.อ.วิระชัย พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นำหมายค้นเข้าตรวจค้น โรงงานพีโอเอส คอสเมติค(ไทยแลนด์) (POS cosmetics (Thailand)) ซึ่งรับผลิตเครื่องสำอางเวชสำอาง ครบวงจร เครือข่ายบริษัทเมจิกสกิน ตั้งอยู่ที่ ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยเป็นโรงงาน 1 ใน 5 โรงงานที่ผลิตสินค้าในเครือเมจิกสกิน และจดทะเบียนในชื่อของ นายกสิทธิ์ วรชิงตัน หรือหญิงย้วย หนึ่งในผู้ต้องหาที่เป็นผู้ดูแลโรงเรียนสอนรวยเกี่ยวข้องกับบริษัทเมจิกสกิน

     พล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยภายหลังเข้าตรวจค้นว่า โรงงานนี้ไม่มีใบอนุญาติการจัดตั้งโรงงาน และพบว่าพื้นที่ตั้งที่ขออนุญาตจดประกอบกิจการเป็นที่รกร้าง รวมถึงการใช้อุปกรณ์การผลิตไม่ตรงกับภาพที่ใช้โฆษณา ซึ่งถือเป็นการหลอกลวงประชาชนเข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยหลังจากนี้จะนำของกลางที่พบในโรงงานทั้งหมด ไปตรวจสอบว่ามีสารเคมีที่เป็นอันตรายหรือไม่

     จากการตรวจสอบเบื้องต้นการจดทะเบียนโรงงานแห่งนี้จดในชื่อของ นายกสิทธิ์ วรชิงตัน หรือ หญิงย้วย แต่ได้มีการเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ เป็น นายอภิวัฒน์ พงษ์พัฒนานุกูล เป็นผู้ครอบครองแล้ว โดยถือว่ามีความผิดเข้าข่ายฐานฉ้อโกงประชาชน ,ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ,ประกอบกิจการโดยไม่มีใบอนุญาต และประกอบกิจการผลิตเครื่องสำอางโดยไม่มีการจดแจ้ง

     ส่วนผู้เสียหายขณะนี้มีประมาณ 200 กว่ารายที่เข้าร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปรามแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้ยึดทรัพย์ของผู้กระทำผิดไว้ 19 ล้าน เพื่อจะนำมาเยียวยาให้กับผู้เสียหายหลังศาลมีพิพากษา และฝากไปถึงผู้เสียหายให้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อรับเงินเยียวยาคืน โดยหากไม่แจ้งความในระหว่างนี้หลังจากนั้นก็จะต้องไปร้องฟ้องค่าเสียหายเอง

     “สำหรับกรณีดารา นักแสดง เน็ตไอดอล ที่รับรีวิวสินค้า กว่า 56 คน ภายในสัปดาห์นี้เตรียมประกาศรายชื่อผู้ที่ต้องเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจะพิจารณาใน 3 ข้อหา คือ การโฆษณาต้องไม่ใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท ,ผู้ใดที่โฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ ของอาหารอันเป็นเท็จ มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท และ ข้อหาโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณเพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 5,000 บาท” พล.ต.อ.วิระชัย ระบุ

     ด้านเภสัชกรสมชาย ปรีชาทวีกิจ เลขาธิการฯอย. ยืนยันว่า ที่ผ่านมาอย.ไม่ได้ปล่อยปละละเลย หรือ นิ่งนอนใจ ซึ่งได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด ส่วนตามกฎหมายเครื่องสำอางหากขอจดแจ้งและการตรวจสอบไม่พบสารอันตรายในผลิตภัณฑ์ อย.ก็จะรับจดแจ้ง และติดตามในภายหลัง แต่ยอมรับว่าช่วงหลังมานี้มีผลิตภัณฑ์ที่ขอจดแจ้งเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะหากตรวจสแบเจอก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนที่ตั้งโรงงานไม่ตรงกับที่ทีการจดทะเบียนนั้น ขณะนี้ทางอย.เตรียมออกเป็นกฎกระทรวงเพื่อบังคับใช้อย่างเข้มงวดแล้ว

     มีรายงานว่า กลุ่มนักแสดงดาราและเนตไอดอลที่เป็นพรีเซ็นเตอร์และรีวิวสินค้าเครือเมจิกสกินอาจเข้าข่ายความผิด ดังนี้ พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 มาตรา 41 การโฆษณาเครื่องสําอางต้องไม่ใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค หรือใช้ข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม ทั้งนี้ไม่ว่าข้อความดังกล่าวนั้นจะเป็นข้อความเกี่ยวกับแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือลักษณะของเครื่องสำอาง และพ.ร.บ.อาหารและยา พ.ศ.2522 มาตรา 40 ผู้ใดโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร อันเป็นเท็จหรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร และมาตรา 41 โฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณ เพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

     ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้จัดการของน.ส.อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา หรือแพตตี้ เพื่อสอบถามในเรื่องดังกล่าว ผู้จัดการของดาราสาวเผยว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากทางเจ้าหน้าที่มาแต่อย่างใด ได้เห็นเพียงข่าวที่ออกมาเท่านั้น ซึ่งยืนยันว่าดาราสาวเป็นเพียงผู้รีวิวสินค้าเพียง 1 ครั้ง โดยไม่ได้จับสินค้าแต่อย่างใด และไม่ได้เป็นพรีเซนเตอร์อย่างที่เป็นข่าวด้วย โดยหลังจากที่มีข่าวออกไปได้มีการปรึกษาทางทนายความเพราะการถูกระบุว่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ค่อนข้างจะดูรุนแรงและไม่ตรงกับความเป็นจริง จึงอยากที่จะเข้าไปชี้แจงเรื่องนี้กับทางเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดความเข้าใจ

     ขณะที่ผู้จัดการส่วนตัวของนายพุฒิชัย เกษตรสิน หรือดีเจพุฒ กล่าวว่า วันนี้ (24 เม.ย.) ดาราหนุ่มมีถ่ายละครทั้งวันเพราะต้องเข้าฉากในเกือบทุกซีนโดยตลอดทั้งวันได้มีการติดต่อจากทางผู้สื่อข่าวมาตลอด แต่ยังไม่ได้มีการติดต่อจากทางเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด และยังไม่ทราบในรายละเอียดของข่าวที่ออกมา แต่หากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อเพื่อให้เข้าไปชี้แจงหรือสอบปากคำก็ยินดีเพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์ในเรื่องนี้ 

     “ถามว่าโดยส่วนตัวได้รับเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าดังกล่าวหรือเปล่านั้น ขอยืนยันว่าเป็นเพียงผู้รีวิวสินค้า ไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์หรือมีส่วนได้ส่วนเสียในเชิงใกล้ชิดกับผู้ประกอบการหรือเจ้าของสินค้าดังกล่าวแต่อย่างใด”ผู้จัดการส่วนของดีเจพุฒระบุ

     เช่นเดียวกับผู้จัดการส่วนตัวของ น.ส.อภิษฎา เครือคงคา หรือไอซ์ บอกว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากหน่วยงานใดๆ และยืนยันว่าได้รีวิวสินค้าเท่านั้น ไม่ได้รับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

     วันเดียวกัน เวลา 16.30 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.มธุรส แดงสัมฤทธิ์ อายุ 24 ปี ภูมิลำเนากรุงเทพฯ ได้เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร สว.กก.2 บก.ป. หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 769/2561 ลงวันที่ 11 เมษายน 2561 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนในคดีเครือข่ายเมจิกสกิน สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า น.ส.มธุรส เป็นผู้สั่งผลิตอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์เสริมความงามจากบริษัทเมจิกสกินเพื่อนำไปจำหน่ายต่อให้กับกลุ่มลูกค้า โดยเจ้าหน้าที่ขออำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับรวม 8 คน และสามารถติดตามตัวผู้ต้องหาได้แล้วจำนวน 6 คน เหลือเพียง น.ส.มธุรส และ น.ส.ธนัญพรรธน์ บุญโญสิทธิ์ ผู้ต้องหาอีกราย ที่ยังหลบหนี 

     จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.มธุรส ให้การปฏิเสธ ว่าไม่ได้เป็นผู้สั่งผลิตสินค้าจากบริษัทเมจิกสกิน โดยอ้างว่าเป็นเพียงผู้ค้าคนกลางที่ไปรับสินค้าจากบริษัทดังกล่าวเพื่อนำมาขายต่อให้ลูกค้าอีกทอดโดยไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์ที่นำมาขายไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากทางอย. ทางเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปทำประวัติก่อนทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันที่ผ่านมามีผู้เสียหายกว่า 15 คนที่ได้รับผลกระทบจากเครือข่ายเมจิกสกิน เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามในฐานะพยาน รวมสองวันที่ผ่านมามีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่มเติม 70 รายจากผู้เสียหายทั้งหมด 400 ราย

     น.ส.วรรณวิษา ถนอมสินธุ์ อายุ 25 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่าย เปิดเผยว่า รู้จักผลิตภัณฑ์เมจิกสกินผ่านทางเฟซบุ๊กซึ่งเห็นว่าแบรนด์ดังกล่าวน่าเชื่อถือ เนื่องจากมีดารานักแสดงชื่อดังเป็นพรีเซ็นเตอร์จำนวนมาก อาทิ ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์ ม้า อรนภา กฤษฎี เป็นต้น จึงตัดสินใจเป็นตัวแทนจำหน่าย โดยสมัครเป็นลูกข่ายในทีมเจ๊เงาะ จากนั้นก็เริ่มขายผลิตภัณฑ์ครั้งแรกในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยลงทุนไปจำนวน 1 หมื่นบาท จากนั้นก็มีลูกทีมในสังกัด ซึ่งจะรับสินค้ามาจำหน่าย 4 ชนิด โดยการสั่งซื้อสินค้าจากแม่ข่ายแต่ละครั้งจะจัดส่งมาให้ผ่านทางไปรษณีย์ แต่พอหลังจากที่มีข่าวเผยแพร่ออกมาว่าสินค้าเมจิกสกินไม่มี อย. ตามที่กล่าวอ้าง และมีการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานก็ทำให้ไม่สามารถขายสินค้าได้อีกเลย เนื่องจากลูกค้าหมดความน่าเชื่อถือ

     ทั้งนี้หลังจากที่สินค้าขายไม่ได้ก็มีการติดต่อไปที่เจ้าของผลิตภัณฑ์เพื่อทวงถามเกี่ยวกับการชดใช้ค่าเสียหายเพราะมีการโฆษณาเชิญชวนให้ตัวแทนจำหน่ายหลงเชื่อ ก็ได้คำตอบว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้เพียงบางส่วนหรือก็ไม่ชดใช้เลย ทำให้ตัวแทนจำหน่ายจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากเงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินที่กู้ยืมนอกระบบมา บางคนก็ใช้เงินก้อนสุดท้ายในชีวิตมาลงทุน ซึ่งมูลค่าความเสียหายรวมมากกว่า 500 ล้านบาท 

      ทั้งนี้ขอฝากไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ให้เร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินของบริษัทดังกล่าวเพื่อให้ยึดและอายัดทรัพย์สินทั้งหมด และนำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหาย อีกทั้งเรียกร้องให้ดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงควรตรวจสอบการรับงานเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าให้มากขึ้น

ฉบับ นสพ.คมชัดลึก