จาก GT200 เรือเหาะ บินขับไล่ T-50TH มาถึง ฮ. AW 149
ซื้อ "ฮ. AW 149" แต่บินไม่ขึ้น "ไอพ่น" ป้ายแดง มาไม่ถึงไทย "เรือเหาะ" ใช้ไม่คุ้ม ค่าโง่พันล้านกับ "GT200"
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 61 เจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) เข้าตรวจความพร้อมของเฮลิคอปเตอร์ AW 149 หมายเลข 49049 ปรากฏว่า ได้แค่ติดเครื่องยนต์เท่านั้น แต่เครื่องไม่สามารถยกตัวได้ เนื่องจากสวิตช์คอนโทรล หรือแผงหน้าปัดเป็นตัวบังคับการบิน ซึ่งเป็นอะไหล่สำคัญของเครื่องขัดข้อง จึงต้องสั่งซื้อใหม่ทั้งชุด ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการผลิตมา อาจต้องรอนับปี หรือประมาณ 5 ปี และอาจหมดระยะประกันจากบริษัทผู้ขาย ต่อข้อสงสัยว่า เฮลิคอปเตอร์ ซื้อมาใหม่ทำไมต้องเข้าไปโรงเก็บของกองพันซ่อมเครื่องบิน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า เป็นระเบียบการในการปฏิบัติ เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ก็ถือเป็นความเป็นความตายของผู้ที่ใช้งาน ดังนั้น พอได้รับของมาแล้วก็ต้องมีการตรวจเช็กของก่อนว่าเรียบร้อยหรือไม่ ก่อนจะแจกจ่ายหน่วยงาน โดยใช้เวลาตามระเบียบประมาณ 3 - 4 เดือน
ทั้งนี้ การจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ AW 149 เป็นโครงการจัดซื้อทดแทนเฮลิคอปเตอร์ ฮิวอี้ ซึ่งขณะนี้ดำเนินการมาจนถึงระยะที่ 4 แล้ว โดยการจัดซื้อในระยะที่ 4 จะมีอยู่ด้วยกัน 5 เครื่อง เฮลิคอปเตอร์เครื่องที่ 1 เครื่องที่ 2 กองทัพบกได้รับมาเมื่อเดือน ก.พ. 60 แจกจ่ายไปเมื่อเดือน ก.ค. 60 ส่วนเครื่องที่ 3 ได้รับมาตอน ม.ค. 61 เครื่องที่ 4 ได้รับมาเมื่อเดือน ก.พ. 61 และเครื่องที่ 5 จะมีกำหนดการส่งมอบในเดือน ส.ค. 61
"ไอพ่น" ป้ายแดง บินไม่ถึงไทย !!
กองทัพอากาศจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ชั้นต้นแบบ T-50TH จากประเทศเกาหลี เพื่อทดแทนเครื่องบินฝึกรุ่น L-39 ที่ใช้มา 23 ปี กว่า 30 ลำ ซึ่งใกล้หมดสภาพ และไม่คุ้มค่าในการซ่อมบำรุง จำนวน 3 ระยะ โดยระยะที่หนึ่งจำนวน 4 ลำ มูลค่า 110 ล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2558 และมีกำหนดรับมอบประมาณเดือนมกราคม 2561 จำนวน 2 ลำ และระหว่างเดือนเมษายน - พฤษภาคม อีกจำนวน 2 ลำ
แต่ระหว่างการบินเดินทางส่งมอบได้เจอสภาพอากาศที่รุนแรง T-50TH เกิดความเสียหายบริเวณเครื่องยนต์ใบพัด ทำให้ต้องเลื่อนการส่งมอบออกไป โดยนักบินได้ติดต่อไปยังบริษัทให้ส่งเจ้าหน้าที่เทคนิคและอะไหล่ หรือชิ้นส่วนสำรอง มาเตรียมพร้อมไว้ และหากพบมีความเสียหายมากจะเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ให้ เนื่องจากเครื่อง T-50TH ยังอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท พร้อมทั้งขอเวลา 2 สัปดาห์ ในการซ่อมเครื่องให้อยู่ในสภาพเดิม ก่อนจะส่งมอบให้กองทัพอากาศไทย
ปิดฉากเรือเหาะ !! หมดอายุ-ใช้ไม่คุ้ม ทบ. ฟันงบ 500 ล้าน
กองทัพบกซื้อเรือเหาะและระบบตรวจการณ์มาในราคา 350 ล้านบาท เป็นตัวเรือเหาะ 260 ล้านบาท กล้องตรวจการณ์ และระบบภาคพื้น รถต่างๆ 90 ล้านบาท โดยเข้าประจำการเมื่อปี 2552 แต่ต่อมาเกิดปัญหารั่วและต้องเติมก๊าซฮีเลียมที่มีราคาแพง จนต้องจอดเก็บในโรงจอด ที่กองพลทหารราบที่ 15 (พล ร.15) อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จนในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น ผบ.ทบ. ได้จ้างบริษัทมาดูแลรักษาซ่อมบำรุง ปีละ 50 ล้านบาท และได้นำออกมาบินตรวจการณ์บ้าง แต่ถูกวิจารณ์ว่าบินต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด จนที่สุดก็ต้องจอดเก็บไว้จนหมดอายุการใช้งาน
GT200 ค่าโง่พันล้าน !?
ถ้าพูดถึงมหกรรมลวงโลกแล้ว GT200 ก็น่าจะเป็นกรณีหนึ่งที่เรียกได้ว่า “ลวงโลก” ได้อย่างแท้จริง และความน่าเศร้าอยู่ที่หน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยหลายหน่วยงาน ตกเป็นเหยื่อของการค้าขายที่เลวร้าย
หน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยจัดหาเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดชนิดนี้ต่อเนื่องกันมาหลายปี ซึ่งมีทั้งชื่อ GT200 และ Alpha 6 โดยมีราคาแตกต่างกันไป ซึ่งจากข้อมูลพบว่า กองทัพได้จัดซื้อเครื่องมือชนิดนี้ไว้จำนวนมากที่สุด
ผู้บัญชาการทหารบก ในขณะนั้น แถลงยืนยันว่า พร้อมยอมรับผลการตรวจสอบ แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่า GT200 มีประสิทธิภาพในการตรวจหาวัตถุระเบิดได้จริง เพราะในขณะนั้น GT200 จำนวนมากเป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อปกป้องชีวิตทหารใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้ง ผู้อำนวยการสถาบันนิติเวชวิทยา ซึ่งมี GT200 อยู่ 4 เครื่อง ก็แสดงความมั่นใจด้วยเช่นกันว่า GT200 มีประสิทธิภาพในการตรวจหาระเบิดได้จริง
แต่แล้วผลการตรวจสอบและชำแหละที่มาที่ไปของโครงการจัดซื้อทำให้รู้ว่า ภายในไม่ได้มีกลไกอะไรที่จะทำให้เชื่อมั่นได้ว่า GT200 และ Alpha 6 จะตรวจหาระเบิดได้จริง เป็นแค่เพียงไม้ไสยศาสตร์ลวงโลกเท่านั้น