ข่าว

"แมททิส"พูดชัดสหรัฐไม่เลิกเผชิญหน้าปักกิ่งในทะเลจีนใต้

"แมททิส"พูดชัดสหรัฐไม่เลิกเผชิญหน้าปักกิ่งในทะเลจีนใต้

30 พ.ค. 2561

สหรัฐจะเผชิญหน้ากับการทำให้ทะเลจีนใต้เป็นเขตทหารต่อไป ม่ีแต่จีนประเทศเดียวที่ออกมาแสดงความไม่พอใจ


                                        จิม แมททิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ กล่าวกับผู้สื่อข่าวขณะกำลังเดินทางไปยังฮาวาย ว่าสหรัฐจะเดินหน้าปฏิบัติการเสรีภาพในการเดินเรือ ใกล้หมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนใต้ต่อไป และว่ามีแค่ประเทศเดียวเท่านั้นที่จะออกมาปฏิเสธ หรือขุ่นเคืองปฏิบัติการตามปกติ ทั้งที่บริเวณนั้นเป็นน่านน้ำสากล และหลายประเทศต่างต้องการเสรีภาพในการเดินเรือ 
 

                                       แมททิส กล่าวว่า แนวทางของสหรัฐคือร่วมมือกับประเทศแถบแปซิฟิก แต่อีกด้านก็จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่มองว่าเป็นการล้ำเส้นกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่สอดคล้องกับที่คณะผู้ตัดสินระหว่างประเทศได้ชี้ประเด็นนี้ออกมาแล้ว

                                      กองทัพเรือสหรัฐปฏิบัติภารกิจ ที่เรียกว่า “เสรีภาพในการเดินเรือ”เป็นครั้งคราว เพื่อแสดงออกถึงการไม่ยอมรับการอ้างกรรมสิทธิ์ของจีน โดยส่งเรือเข้าใกล้เกาะเทียมที่จีนสร้างขึ้นเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหาร 

                                      ครั้งล่าสุดมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ สหรัฐส่งเรือรบ 2 ลำใกล้เข้าใกล้หมู่เกาะพาราเซล ทางเหนือของหมู่เกาะสแปรตลีย์ ทำให้จีนไม่พอใจ อีกทั้งยังมีขึ้นในห้วงเวลาตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีน ในประเด็นการค้า และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเตรียมจัดประชุมสุดยอดกับคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ  

 

\"แมททิส\"พูดชัดสหรัฐไม่เลิกเผชิญหน้าปักกิ่งในทะเลจีนใต้

 

                                      ปฏิบัติการเมื่อวันอาทิตย์ มีขึ้นกว่าสัปดาห์ หลังจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ยกเลิกเชิญจีนเข้าร่วมการซ้อมรบทางทะเลในแปซิฟิกประจำปีที่สหรัฐเป็นเจ้าภาพ โดยอ้างเหตุผลที่จีนเดินหน้าทำให้ทะเลจีนใต้เป็นเขตทหาร มีหลักฐานว่าจีนประจำขีปนาวุธต่อต้านเรือ ระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ และอุปกรณ์รบกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ และเรียกร้องให้จีนถอนระบบเหล่านั้น 

 

                                      จีนถมทะเลสร้างเกาะเทียมและเสริมระบบป้องกัน เพื่อตอกย้ำกรรมสิทธิ์น่านน้ำทะเลจีนใต้ ท่ามกลางเสียงประท้วงจากหลายชาติในอาเซียน ด้วยเกรงว่าวันหนึ่ง จีนอาจจำกัดเสรีภาพในการเดินเรือและทางอากาศในท้ายที่สุด ซึ่งรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ จึงย้ำว่า ความวิตกเรื่องนี้ ไม่ได้มาจากรัฐบาลอเมริกันอย่างเดียว แต่พันธมิตรสหรัฐในภูมิภาคกังวลเช่นกัน