
บ้านนาคาเฟ่ร้านอาหารดังกลางทุ่งเมืองอุดร
นิสิตสาวเมินงานออฟฟิศเนรมิตท้องทุ่งเป็นร้านอาหาร "บ้านนา คาเฟ่" อร่อยกับอาหารเพื่อสุขภาพ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติกลางทุ่งนา
ร้านอาหาร บ้านนา คาเฟ่ (Barn Naa Cafe) ตั้งอยู่เลขที่ 95 หมู่ 1 บ้านหมูม่น ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นร้านอาหารที่สร้างเป็นอาคารโปร่ง คล้ายโรงนา (Barn) ไม่ติดแอร์ อยู่ท้ายหมู่บ้าน ล้อมรอบด้วยทุ่งนา รักษาความเป็นธรรมชาติ แต่อาหารอร่อย ไม่เน้นการปรุงจากเนื้อสัตว์ เน้นผัก แต่ไม่ใช่มังสวิรัติ หรือ อาหารเจ แต่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ มีกาแฟหอมกรุ่น และเครื่องดื่ม เค้กเลิศรส นั่งรับประทานท่ามกลางบรรยากาศบ้านทุ่งและธรรมชาติที่ทุกคนโหยหา บนเนื้อที่ 7 ไร่
น.ส.สุชาธิษณ์ สุวิตธรรม อายุ 28 ปี หรือ น้องแจม เจ้าของร้านและเชฟ คอยต้อนรับและดูแลลูกค้าด้วยตัวเอง เล่าว่า เรียนจบคณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาไทย โทภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งเรียนตามความต้องการของพ่อและแม่ ซึ่งรับราชการครูทั้งคู่ แต่ขณะเรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ได้เดินทางไปประเทศแคนาดา ตามโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน ของสโมสรโรตารีอุดรธานี และได้ไปอยู่กับครอบครัวฝรั่ง 1 ปี แต่ไปเรียนการทำอาหาร ทำเค้ก ที่ร้านอาหารไทย ตามที่ชอบและใฝ่ฝัน
น้องแจม เล่าต่อว่า เมื่อกลับมาได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปากร เรียนตามความฝันของครอบครัว โดยเฉพาะแม่ที่รับราชการทั้งตระกูล ซึ่งแม่บอกว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง ไม่มีความเสี่ยง แต่ขณะที่ปิดภาคเรียนชั้นปีที่ 1 - 4 ตนได้ขออนุญาตพ่อแม่เดินทางไปเรียนการทำอาหาร ที่ร้านอาหารไทยร้านเดิมในแคนาดา เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เมื่อเรียนจบก็เดินทางไปทำงานเพื่อเก็บเงินอีก 3 ปี พร้อมกับเรียนรู้การทำอาหารไปด้วย จากนั้นได้กลับมาบ้าน เป็นจังหวะที่พ่อเกษียณอายุราชการ และมาสร้างบ้านที่ทุ่งนาแห่งนี้ ซึ่งพ่อแม่ได้ซื้อไว้มานานแล้ว ตนจึงสร้างเพจและเปิดสตูดิโอสอนการทำเค้ก
น้องแจม เล่าต่อไปว่า มีคนสนใจเขามาชมจำนวนมาก โดยเฉพาะเพื่อนพ่อกับแม่ ได้สั่งซื้อเค้กทางเพจ และมานั่งรับประทานหลังสอนการทำเค้กเสร็จ จึงได้จัดโต๊ะให้เพื่อนแม่แบบจิบน้ำชายามบ่ายให้ 1 โต๊ะ จากนั้นก็มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบปากต่อปาก และในที่สุดจึงได้ทำร้านกาแฟ เครื่องดื่ม และเค้ก บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี จึงได้ขยายเป็นร้านอาหาร โดยสร้างอาคารแบบโรงนาฝรั่ง (Barn) โปร่ง โล่ง ไม่ติดแอร์ ใช้พัดลมเท่านั้น โดยมีต้นไม้ ทั้งไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับปลูกไว้รอบๆ พร้อมกับทำนา 1 ไร่ เลี้ยงควาย 3 ตัว บ่อปลาหลังบ้าน ให้เหมือนบรรยากาศกินข้าวที่บ้าน
ส่วนอาหารจะเป็นคนปรุงเอง โดยเมนูอาหารจะเป็นอาหารเน้นผัก ไม่ใช้เนื้อสัตว์ ทั้งหมู วัว ไก่ ปลา แต่ยังใช้ไข่ เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งตนจะปรับรสชาติอาหารให้เข้ากับลิ้นคนไทย ไม่ใส่ผงนัว ไม่ใช้ผงชูรส กินอาหารที่ร้านถือว่าได้บุญ 1 มื้อ ส่วนอาหารที่ขึ้นชื่อ signature คือ ผัดไทยคุณยาย ยำสลัดบ้านนา ตำข้าวโพด ส่วนเค้ก ต้องเค้กมะพร้าว หอมกรุ่นเนื้อนุ่ม กาแฟและเครื่องดื่มอร่อยทุกเมนู ส่วนพนักงานจะเป็นชาวบ้านแถบนี้
"มีคนถามว่าทำไมประสบความสำเร็จขณะอายุยังน้อย ส่วนตัวคิดว่าเป็นความโชคดีที่แจมค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบเร็วมาก เพราะพ่อแม่มักจะพาแจมไปอยู่กับธรรมชาติ วันหยุดสุดสัปดาห์จะอยู่บ้านสวน อยู่กับท้องไร่ท้องนา อยู่กับธรรมชาติ จึงรู้ว่าตัวเองชอบทำอาหาร ทำเค้ก แจมอยากเรียนเชฟ เรียนการโรงแรม แต่ต้องเรียนตามใจพ่อแม่ แต่จะไม่ทิ้งความฝันของตัวเอง ด้วยวิธีการเรียนการทำอาหารทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ การที่ได้ทำตามความฝัน ถือว่าประสบผลสำเร็จแล้ว"
น้องแจม เล่าต่อไปว่า สิ่งที่เป็นของขวัญคือ ร้านบ้านนา คาเฟ่ ลูกค้าตอบรับอย่างดี จากปากต่อปาก ทั้งบรรยากาศและสไตล์การจัดร้าน เน้นธรรมชาติ และแบบบ้านๆ ซึ่งเปิดร้านมาเกือบ 2 เดือน ลูกค้ามาอุดหนุนเยอะมาก เกินความคาดหมาย โดยเฉพาะในช่วงหยุดสุดสัปดาห์ แค่แจ้งในเพจซึ่งถือว่าเป็นสื่อโซเชียลที่เร็วมาก จะลงภาพขณะก่อสร้างร้านอาหาร กระทั่งสร้างเสร็จและเปิดร้านวันแรก ก็มีค้ามาอุดหนุนจำนวนมาก ส่วนมากลูกค้าผู้สูงวัยมาก่อน ตามด้วยมาแบบครอบครัว มีเด็กมาด้วย และลูกค้าวัยรุ่น ซึ่งต่อไปจะต่อยอดด้วยการจัดงานเลี้ยง งานแต่งงานแบบเล็กๆ และเปิดตลาดสินค้าเกษตรในหมู่บ้านอีกด้วย