ข่าว

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์

21 ก.ค. 2561

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ : คอลัมน์... ยานยนต์  โดย... สินธุ์ชัย ภมรพล

 

          มิตซูบิชิ เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ “เอ็กซ์แพนเดอร์” อย่างเป็นทางการวันที่ 17 ส.ค.นี้ เพื่อชิงชัยในตลาดรถอเนกประสงค์ในกลุ่มบี-เซ็กเมนต์ ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

          เอ็กซ์แพนเดอร์ เป็นรถที่มีฐานการผลิตในอินโดนีเซีย ดินแดนที่มีความนิยมรถกลุ่มนี้อย่างมาก เรียกว่าขายดิบขายดี หลายยี่ห้อ และตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว น้องใหม่ของมิตซูบิชิคันนี้ ก็ได้รับความนิยมแบบพุ่งพรวด ยอดขายไล่บี้เจ้าตลาดที่ครองความยิ่งใหญ่มานานอย่าง โตโยต้า อแวนซ่า และมีบางเดือนที่แซงหน้าได้ด้วยอีกต่างหาก แต่ถ้าวัดกันรวมๆ ถึงล่าสุด เอ็กซ์แพนเดอร์มีส่วนแบ่งประมาณ 20% ส่วนอแวนซ่า 30%

 

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์

 

          แต่สำหรับในบ้านเราต้องรอดูหลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่าจะทำได้ดีแค่ไหน และฝ่าฟันด่านคู่แข่งซึ่งมีอยู่หลายรุ่นทั้งที่เป็นคู่แข่งโดยตรงและแบบใกล้เคียง ทั้งรถเอสยูวี เอ็มพีวี และครอสโอเวอร์ และสำหรับในส่วนของเอ็กซ์แพนเดอร์นั้น มิตซูบิชิ ประกาศว่าเป็น ครอสโอเวอร์

 

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์

 

          ก่อนเปิดตัว มิตซูบิชิ จัดกิจกรรมทดสอบยาวๆ ประมาณ 3,000 กม. จากเหนือจรดใต้ เริ่มต้นที่เชียงรายไปถึงสุราษฎร์ธานี ซึ่งผมมีโอกาสเริ่มต้นกลุ่มแรกเริ่มต้นจากเชียงราย เข้าพะเยา ผ่านแพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และส่งต่อรถให้กลุ่มต่อไปที่สุโขทัย

 

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์

 

          ต้องบอกว่ามิตซูบิชิมีความกล้าหาญและมั่นใจในสินค้าไม่น้อย จากการเลือกเส้นทางที่ท้าทายสมรรถนะรถ เพราะมีทั้งทางขึ้นลงเขา คดโค้ง สำหรับรถที่มีน้ำหนักตัว 1,240 กก. แต่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 105 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร และเป็นรถที่มีความสูงใต้ท้องรถ 205 มม. (รุ่น GT) ซึ่งมิตซูบิชิ ยืนยันว่าสูงที่สุดในกลุ่มเดียวกัน

 

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์

 

          ความสูงใต้ท้องรถที่สูง หมายถึงความสามารถในการใช้งานเส้นทางที่หลากหลาย โดยเฉพาะใช้งานนอกถนน ไม่ต้องกังวลว่าใต้ท้องรถจะติดถนน ก้อนดิน ก้อนหิน หรือแม้แต่ใช้งานในเมือง ก็อุ่นใจมากขึ้นยามที่น้ำระบายไม่ทัน แต่ก็เป็นความท้าทายในเส้นทางนี้เพราะจุดศูนย์ถ่วงจะสูงขึ้น และอาจมีผลต่อการทรงตัวในการขับขี่ที่ความเร็วสูง หรือในเส้นทางโค้ง ซึ่งเดี๋ยวเรามาว่ากันครับ

 

 

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์

 

          เอ็กซ์แพนเดอร์ มี 2 รุ่นย่อย GT เป็นตัวท็อป ส่วนตัวเริ่มต้นคือ GLS-Limited ซึ่งจะแตกต่างกันบ้าง เช่น ความสูงใต้ท้องรถ 200 มม. ความสูงก็เตี้ยกว่า GT 5 มม. ใช้ยางเล็กกว่าคือ 185/65 R15 ส่วน GT ใช้ขนาด 205/55 R16

          เอ็กซ์แพนเดอร์ เป็นรถ 7 ที่นั่ง 3 แถว แถวหลังสุด อาจจะดูเล็กไปบ้าง แต่ผู้ใหญ่ก็นั่งได้ หากเดินทางไม่ไกลมาก หรือจะใช้วิธีการสลับกันนั่ง ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับรถที่สามารถใช้เป็นรถครอบครัวที่ค่าตัวคาดว่าไม่แรงมากนักได้

 

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์

 

          การเข้าออกเบาะแถว 3 ไม่ยาก เลื่อนเบาะแถว 2 ไปข้างหน้าได้ง่าย เพื่อเปิดช่องทางให้ปีนเข้าออกได้สะดวก แต่ถ้าไม่มีความจำเป็นต้องใช้ มีผู้โดยสารไม่มาก แต่สัมภาระเยอะ ก็สามารถพับได้เรียบร้อย เพิ่มพื้นที่บรรทุกของได้มากขึ้น

          ส่วนเบาะแถว 2 ถ้านั่งกันแค่ 2 คน ก็สามารถดึงที่พักแขนตรงกลางลงมาได้ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้น

          สำหรับรุ่นที่ผมทดสอบเป็นเบาะหนังสีดำ ขณะที่ชิ้นส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ในห้องโดยสาร ก็คุมด้วยโทนสีดำ ซึ่งจะแตกต่างจากที่อินโดนีเซีย ซึ่งที่นั่นแม้จะมีรุ่นย่อยมากกว่า แต่ไม่มีเบาะหนัง และจะเน้นสีเบจ ไม่มีสีดำ

 

 

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์

 

          ห้องโดยสารโดยรวมถือว่ากว้างขวางทีเดียว ส่วนหนึ่งมาจากความสูงของรถที่มิตซูบิชิบอกว่าสูงที่สุดในกลุ่ม บวกระดับระยะฐานล้อที่ยาว นั่นหมายถึงการดึงล้อทั้ง 4 ไปอยู่ยังมุมต่างๆ ของตัวถังรถได้มากที่สุด เปิดโอกาสให้พื้นที่ในห้องโดยสารมีอิสระมากขึ้น พูดได้ว่าเมื่อเข้าไปนั่งในรถแล้วรู้สึกว่ามันกว้างขวางกว่า บี เซ็กเมนต์

          การเก็บเสียงในห้องโดยสาร เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำได้ดี โดยเฉพาะการขับขี่ในระดับความเร็วไม่เกินการเดินทางทั่วไป เช่น 120 กม./ชม.ถือว่าเงียบมากสำหรับรถในตลาดนี้ จะเริ่มได้ยินชัดเจนมากขึ้นก็ที่ย่านความเร็ว 140 กม./ชม.

 

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์

 

          การออกแอบบภายในดูดี ดูเรียบง่าย ไม่รก คอนโซลเกียร์มีขนาดใหญ่ และช่วยให้ดูหรูหราขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ติดที่ก้านเบรกมือใหญ่ไปหน่อย ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากตลาดหลักอยู่ในอินโดนีเซีย ซึ่งภูมิประเทศเป็นทางเนินทางลาดเยอะ ใช้เบรกมือกันบ่อยครั้ง ก้านที่ใหญ่ก็ช่วยให้ใช้งานได้สะดวก

          ส่วนภายนอกผมก็ว่าดูดี และเล่นเส้นสายเยอะ แต่ก็อยู่ที่มุมมองแต่ละคนว่าจะชอบไม่ชอบอย่างไร

 

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์

 

          สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานสำคัญๆ ในรุ่น GT เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว หรือ ASC ระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน เบรก เอบีเอส ระบบกระจายแรงดันเบรก ระบบเสริมแรงเบรก ไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ถุงลมคู่หน้า เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดทั้ง 7 ตำแหน่ง จุดยึดเบาะเด็ก กล้องมองภาพด้านหลังช่วยในการถอยรถ พวงมาลัยพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง การโทรออกรับสายโทรศัพท์ ที่เชื่อมต่อกับรถผ่านบลูทูธ และมีแผงควบคุมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

 

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์

 

          เรื่องของเครื่องยนต์ และการใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ในยุคที่เหลือใช้กันไม่กี่รุ่นในเวลานี้ กลายเป็นคำถามที่ผมได้ยินบ่อยครั้ง ก็จะได้คำตอบจากการขับขี่ในวันนี้ครับ

          แต่การจะขับรถสักคัน ก่อนอื่นเราต้องรู้จักรถก่อนว่าเป็นรถอะไร รายละเอียดเป็นอย่างไร และรู้จักตัวเองก่อนว่าเป็นคนขับรถแบบไหน การรู้จักทั้ง 2 ส่วนจะทำให้เราสามารถกำหนดรูปแบบการขับขี่ การตัดสินใจต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง

          และสำหรับ เอ็กซ์แพนเดอร์ ผมยืนยันก่อนเลยก็ได้ว่า สเปกต่างๆ เพียงพอต่อการใช้งาน และไปไหนก็ได้ทั่วไทย ที่บอกอย่างนี้ เพราะการขับขี่ที่มีผู้โดยสาร 3 คน และ 4 คน พร้อมสัมภาระของแต่ละคน ไม่สร้างปัญหาอะไรตลอดเส้นทาง ซึ่งมีทั้งทางขึ้นลงเขา ทางราบ ทางคดโค้ง ทางเล็กๆ 2 เลนสวนทางที่ต้องมีจังหวะการเบรก การเร่งแซงอยู่บ่อยครั้ง

 

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์

 

          เครื่องยนต์ ไมเวค ตอบสนองการใช้งานได้ในระดับที่น่าพอใจ การออกตัวไม่ได้อืดอย่างที่คิด การเร่งแซงที่ความเร็วช่วงกลางอาจจะมีจังหวะหน่วงบ้าง แต่อย่างที่ผมบอกแหละครับ ต้องรู้จักรถ ดังนั้นหากประเมินสภาพจราจร หรือว่ารถที่สวนทางมาดีพอ ก็สามารถแซงรถได้ตลอดเส้นทางโดยไม่ต้องหวาดเสียว หรือถ้าจะให้กระชั้นกว่านั้นก็กดคันเร่งลงไปแรงๆ ให้คิกดาวน์ทำงาน หรือจะกดปุ่ม O/D ที่คันเกียร์ ก็ทำให้การเร่งรวดเร็วทันใจขึ้น

          ส่วนเกียร์แม้จะเป็นเกียร์ 4 สปีด แต่ทำงานได้ลื่นไหล จังหวะเปลี่ยนเกียร์แม่นยำ และไม่มีจังหวะสะดุด กระตุก ดังนั้นก็คงไม่จำเป็นต้องไปเรียกร้องหาเกียร์ตัวอื่นให้ต้นทุนเพิ่มแต่อย่างใด

          ช่วงล่างสำหรับรถในตลาดนี้ พูดได้เต็มปากว่าดีมากครับ แม้จะขับด้วยความเร็วสูง และรถมีความสูงของทั้งตัวรถ และใต้ท้องรถ แต่ก็ยังมีการทรงตัวที่ดี นิ่ง ไม่มีอาการโยนตัว ร่อนส่าย และทางโค้งก็ยังเข้าด้วยความเร็วพอควรได้อย่างสบายใจ ดังนั้นเส้นทางจากเชียงรายที่ต้องผ่านป่าเขารวมถึงเขาพลึงชื่อดังจนถึงพื้นราบพิษณุโลกใช้เวลาไม่นาน

 

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์

 

          ในขณะที่เมื่อต้องขับผ่านทางที่ขรุขระ หรือช่วงลงไปขับทางดิน มันก็ดูดซับแรงได้ดี ใครว่าช่วงล่างคานแข็ง จะต้องกระด้างเสมอไป

          จุดที่ผมชอบอีกอย่างคือพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนียน เพาเวอร์ ไฟฟ้าผ่อนแรง มีขนาดและน้ำหนักที่ดี และเมื่อได้รับการสนับสนุนที่ดีจากช่วงล่าง ทำให้พวงมาลัยเชื่องมือ แม้บางช่วงจะลองกดคันเร่งขึ้นไประดับ 160 กม./ชม. ช่วงสั้นๆ เพื่อลองดูเครื่องยนต์ พวงมาลัยก็ยังนิ่ง การควบคุมก็จับแบบหลวมๆ ผ่อนคลาย

          เป็นรถอีกคันที่ขับแล้วไม่รู้สึกเหนื่อยในการควบคุม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในความคิดของผมในการตัดสินรถแต่ละคัน

          อัตราสิ้นเปลืองตามสเปกโรงงาน 14.5 กม./ลิตร แต่ผมขับได้ 10.5/ลิตร ซึ่งเมื่อเทียบกับน้ำหนักบรรทุก เส้นทาง และความเร็วที่ใช้ไป ผมพอใจครับ

          โดยรวมถือเป็นรถในกลุ่มบี-เซ็กเมนต์ เครื่องยนต์ไม่ใหญ่ ใช้งานครอบคลุม มีสมรรถนะพอตัว และเด่นในหลายๆ ด้าน ดังนั้นหากเปิดราคามาแล้วโดนใจ และอยากซื้อมาใช้งาน ก็ซื้อได้เลยครับ