ข่าว

สทน.รับมอบเครื่องโทคาแมคจากจีนเพื่องานวิจัย

สทน.รับมอบเครื่องโทคาแมคจากจีนเพื่องานวิจัย

26 ก.ค. 2561

สทน.รับมอบเครื่องโทคาแมคจากจีนเพื่องานวิจัยด้านนิวเคลียร์ฟิวชันและพลาสมาของประเทศ

 

           เมืองเฮอเฟ่ย จังหวัดอันฮุย สาธารณรัฐประชาชนจีน รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำคณะผู้บริหารจากสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ประกอบด้วย ดร.บุญสม เลิศหิรัญวงศ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร สทน. ดร.พรเทพ นิศามณีพงษ์ ผู้อำนวยการ รศ.ดร. ธวัชชัย อ่อนจันทร์ รองผู้อำนวยการ พร้อมนักวิจัยด้านฟิวชัน รับมอบเครื่องโทคาแมคHT-6M จากสถาบันพลาสมาและฟิวชันประเทศจีน (ASIPP)  เพื่อใช้สำหรับการวิจัยด้านพลาสมาและฟิวชันในประเทศไทย ในโอกาสนี้คณะผู้บริหารยังได้เยี่ยมชมการทำงานของ ASIPP ด้วย

สทน.รับมอบเครื่องโทคาแมคจากจีนเพื่องานวิจัย

               ดร.พรเทพ นิศามณีพงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. กล่าวว่า ประเทศไทยโดยสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)  แผนการวิจัยและพัฒนาการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชัน ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดไม่ก่อให้เกิดกากกัมมันตรังสี แต่พลังงานดังกล่าวในระดับโลกยังอยู่ในขั้นตอนของการวิจัย การเริ่มต้นพัฒนาดำเนินการโดย สทน.ได้ลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย 15 มหาวิทยาลัย ที่มีบุคลากรที่มีความสนใจด้านพลาสมาและนิวเคลียร์ฟิวชัน หลังจากนั้นได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับสถาบันพลาสมาฟิสิกส์ หรือ ASIPP ประเทศจีน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ศึกษาเรื่องพลาสมาและนิวเคลียร์ฟิวชัน โดยขอบเขตความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนบุคลากรเพื่อการฝึกอบรมและการทำวิจัยร่วม ร่วมมือกันในการพัฒนาห้องปฏิบัติการเพื่อการทำวิจัยด้านพลาสมา และการพัฒนาห้องปฏิบัติการด้านนิวเคลียร์ฟิวชัน จากความร่วมมือดังกล่าว ASIPP จึงมีแผนการมอบเครื่องโทคาแมคHT-6M โดยได้ลงนาม Donation Agreement ร่วมกับ สทน. เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2560 ซึ่งทาง ASIPP ได้มอบเครื่องอย่างเป็นทางการให้สทน.

สทน.รับมอบเครื่องโทคาแมคจากจีนเพื่องานวิจัย

             เครื่องโทคาแมคHT-6M เป็นอุปกรณ์สำคัญในการกักเก็บพลาสมาด้วยสนามแม่เหล็ก และเป็นอุปกรณ์สำคัญในการศึกษาวิจัยเรื่องพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่น  ซึ่งเครื่องโทคาแมครุ่นนี้เป็นรุ่น 2 ที่ ASIPP ได้พัฒนาขึ้นสำหรับแผนการหลังการรับมอบเครื่องประกอบด้วย 3 ระยะได้แก่ ระยะแรก เป็นการถอดแบบและศึกษาองค์ประกอบของเครื่องโทคาแมคและอุปกรณ์ประกอบเครื่อง รวมถึงการศึกษาโครงสร้างอาคารและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆของ สทน. เพื่อเตรียมการติดตั้งเครื่อง  ระยะที่ 2 ไทยจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ารับการถ่ายทอดองค์ความรู้ พร้อมร่วมออกแบบและพัฒนาระบบประกอบ (subsystem) และประกอบเครื่องจนสามารถเดินเครื่องได้ และระยะที่ 3 เป็นการย้ายเครื่องกลับมาประเทศไทย ซึ่งทั้งสามระยะจะแล้วเสร็จภายในปี 2565 นอกจากนั้น สทน. และ ASIPP จะร่วมกันพัฒนาบุคลากรด้านพลาสมาและพลังงานฟิวชัน โดย ASIPP จะให้ทุนการศึกษานักศึกษาไทยไปศึกษาวิจัยต่อในหน่วยงานวิจัยทางเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของโลก และให้โอกาสนักวิจัยไทยเข้าร่วมทำวิจัย โดยใช้เครื่องมือและห้องปฏิบัติการระดับโลก และจะร่วมสร้างห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีโทคาแมค เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของไทยในระดับภูมิภาคต่อไป

                 สำหรับประเทศไทย เมื่อมีการศึกษาวิจัยด้านพลาสมาและนิวเคลียร์ฟิวชันอย่างจริงจังแล้ว ก็จะสามารถนำพลาสม่าและนิวเคลียร์ฟิวชั่นไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย อาทิ ในเชิงเกษตรกรรม ด้านอาหารที่มีส่วนช่วยในเรื่องของการฆ่าเชื้อโรคในอาหารและผลิตผลทางการเกษตร ในเชิงการแพทย์ การประยุกต์เทคโนโลยีพลาสมามาไว้ในอุตสาหกรรมทางการแพทย์และสุขอนามัยโดยใช้พลาสมาในการบำบัดแผลติดเชื้อและแผลเรื้อรัง พร้อมช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดเนื้อเยื่อใหม่ หรือการรักษาผิวหน้า การรักษาแผล ตลอดจนถึงการมีส่วนช่วยในเรื่องของการกำจัดขยะและของเสียอีกด้วย จะเห็นว่าโครงการนิวเคลียร์ฟิวชันและพลาสมา นับเป็นจุดเริ่มต้นที่จะสามารถผลักดันประเทศไทยให้นำไปสู่ความทันสมัยในด้านต่างๆ และยังยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการในการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถือเป็นส่วนหนึ่งของจุดเปลี่ยนที่จะพัฒนาประเทศให้ก้าวเข้าสู่ระดับความเป็นสากลอีกขั้นหนึ่ง ผอ.สทน.กล่าวทิ้งท้าย