ข่าว

ศาลแขวงธนบุรีตั้งสำนวนละเมิดอำนาจ "ผู้ต้องหา" หนีฝากขัง

21 ส.ค. 2561

โฆษกศาลยุติธรรม ระบุ นัดไต่สวนละเมิดศาล 25 ก.ย. นี้ หากผู้ต้องหาไม่มาตามเรียก ต้องหมายจับก่อนพิจารณาลับหลัง

               21 ส.ค. 61  จากกรณีเกิดเหตุการณ์ นายศราวุธ ตั้งภู่ตระกูล อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลหลายแห่งในข้อหาฉ้อโกง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนครนายก จับตัวได้ที่ รร.เทศบาล 3 ต.บ้านคำบุญศิริ จ.นครยายก แล้วส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อทำการสอบสวนคดี แต่เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ระหว่างนำตัวมายื่นคำร้องผัดฟ้องฝากขัง นายศราวุธ ผู้ต้องหา ได้ฉวยโอกาสหลบหนีไปจากอาคารศาลแขวงธนบุรีระหว่างรอผัดฟ้องฝากขังนั้น

 

 

 

               ล่าสุด นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ระบุว่า จากเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง หลบหนีออกจากศาลไป ระหว่างที่พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม นำตัวมายื่นฝากขังนั้น ศาลแขวงธนบุรีได้ตั้งเป็นสำนวนคดีกล่าวหา นายศราวุธ ละเมิดอำนาจศาลแล้ว โดยกำหนดนัดไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาลในวันที่ 25 ก.ย. นี้ ทั้งนี้ ตามขั้นตอนเมื่อศาลตั้งสำนวนคดีแล้ว จะออกหมายเรียกแจ้งวันนัดไปยังผู้ถูกกล่าวหาตามที่อยู่ หากผู้ถูกกล่าวหาไม่มาตามหมายเรียก ต่อไปศาลก็จะพิจารณาออกหมายจับ และหากพ้นระยะเวลาในการติดตามตัวตามหมายจับแล้วยังไม่ได้ตัวมา ศาลก็จะพิจารณาคดีลับหลัง

               ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ผอ.สำนักอำนวยการศาลแขวงธนบุรี ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมา เพื่อทำการรวบรวมข้อเท็จจริงแล้ว เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ได้รายงานข้อเท็จจริงตามลำดับชั้นต่อผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงธนบุรี อธิบดีผู้พิพากษาภาค 1 และเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัด สน.ท่าข้าม ได้นำตัว นายสราวุธ ตั้งภู่ตระกูล ผู้ต้องหา มายื่นผัดฟ้องฝากขัง คดีฉ้อโกง 2 สำนวน ผ.519/2561 และ ผ.521/2561 โดยมีการนำผู้ต้องหาเข้าไปยังห้องพิจารณาที่ 12 แต่ตำรวจไม่ควบคุมตัวไว้ตลอดจนกว่าศาลจะมีคำสั่งว่าจะอนุญาตให้รับตัวไว้ผัดฟ้องฝากขังหรือไม่ และเมื่อได้นำคำร้องไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่งานรับฟ้องแล้ว ตำรวจก็เดินทางกลับไปโดยไม่รอฟังคำสั่งศาล และไม่ดำเนินการให้ตำรวจประจำศาลลงชื่อรับตัวไว้

 

 

 

               จนเวลา 12.20 น. ผู้ต้องหาได้หลบหนีไป โดยเมื่อศาลจะพิจารณาคำร้องผัดฟ้องฝากขังดังกล่าว ได้เรียกตัวผู้ต้องหาแล้วไม่ปรากฏว่าตัวอยู่ในห้อง จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ผัดฟ้องฝากขังทั้ง 2 สำนวน และต่อมาได้ตั้งสำนวนกล่าวหา นายศราวุธ ผู้ต้องหา ที่หลบหนีจากห้องพิจารณาระหว่างรอผัดฟ้องฝากขัง ฐานละเมิดอำนาจศาล เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาล หรือประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31 ซึ่งบทลงโทษการละเมิดอำนาจศาลมี 2 วิธี คือ หากยังอยู่ในบริเวณศาล ก็ให้ศาลมีอำนาจไล่ออกจากบริเวณ หรือการสั่งลงโทษจำคุก - ปรับ (ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท ตามมาตรา 33)

               ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับพฤติการณ์ นายศราวุธ ผู้ต้องหาดังกล่าว ที่ตำรวจ สน.ท่าข้าม นำมาผัดฟ้องฝากขังนั้น ได้กล่าวหาว่า ผู้ต้องหาสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 5 จากร้านค้า รวม 2 ครั้งๆ ละ 20 เครื่อง มูลค่าเสียหาย 800,000 บาท โดยเมื่อได้รับสินค้าแล้วผู้ต้องหากลับไม่โอนเงินเข้าบัญชีแล้วหลบหนีไป ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ระบุเหตุว่า การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 5 ปาก และต้องรอผลพิสูจน์ต่างๆ จึงขอผัดฟ้องฝากขังไว้ก่อนเป็นเวลา 6 วัน