ข่าว

สัมภาษณ์พิเศษ:น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ -“มีอำนาจแล้วต้องใช้ให้เด็ดขาด”

สัมภาษณ์พิเศษ:น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ -“มีอำนาจแล้วต้องใช้ให้เด็ดขาด”

03 มี.ค. 2552

ตั้งแต่ออกมากระทุ้งรัฐบาลแรงๆ ให้ตระหนักว่า “ถ้าไม่มีพันธมิตรก็ไม่มีรัฐบาล” ในงานปีใหม่ของชาวพันธมิตร “น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ" อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็ถอยฉากตัวเองออกไปยืนห่างเวทีการเมืองเสียไกลลิบ

 น้อยคนที่จะจับจังหวะการเคลื่อนไหวของ “ซีไอเอเมืองไทย” ได้อย่างชัดเจน อาจจะเป็นเพราะมีความสัมพันธ์แนบแน่นยาวนานกับพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ขยับขับเคลื่อนอะไรก็ยาก ติดโน่น ติดนี่ แต่จนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 2 เดือนของการบริหารประเทศ “อดีตทหารลูกป๋า" คนนี้บอกว่า มันถึงเวลาต้องส่งสัญญาณให้รู้กันแล้วก่อนที่จะ “สายเกินไป”
จนถึงขณะนี้ประเมินการทำงานของรัฐบาลอย่างไร ?
 น่าเสียดายที่รัฐบาลนี้ใช้เวลารำมวยนานเกินไป จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ทำอะไรที่ชัดเจน ขณะที่ประชาชนยังให้โอกาส แต่กลับไม่ใช้โอกาสที่ประชาชนมอบให้ไปจัดการให้บ้านเมืองเกิดความถูกต้อง โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชาวบ้านหวังจะฝากผีฝากไข้ เพราะเห็นว่าเป็นคนดี ไม่มีประวัติด่างพร้อย แต่พอนานเข้าโอกาสที่ได้รับแล้วไม่ทำอะไรมันจะกลายเป็นวิกฤติ เป็นการแปรโอกาสเป็นวิกฤติของตัวเอง
แต่รัฐบาลนี้ยืนยันว่าจะไม่เน้นการใช้อำนาจรัฐในการแก้ปัญหา?
 ต้องเข้าใจว่า ขณะนี้บ้านเมืองเราอยู่ในภาวะวิกฤติ ดังนั้นรัฐบาลต้องใช้อำนาจให้สอดคล้องกับภาวการณ์ที่เป็นจริง เราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ปกติ จะคิดว่าเข้ามาลองงานดูก่อนซัก 6 เดือน หรือ 1 ปีมันไม่ได้ วันนี้ไม่มีฮันนีมูน เข้ามาแล้วต้องทำเลย ต้องใช้ความกล้าหาญเด็ดขาด แต่ต้องใช้อำนาจให้เป็น คนที่รับผิดชอบปัญหาบ้านเมืองต้องไม่กลัว อย่างกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นนักโทษหนีคดี แต่รัฐบาลนี้ยังปล่อยให้ลอยนวล จัดการไม่ได้ แค่การถอดยศไม่รู้ว่าจะยากอะไรหนักหนา แถมยังปล่อยให้พูดที่ต่างประเทศอีก รัฐบาลต้องกล้าตัดไฟแต่ต้นลม ปล่อยให้ม็อบเสื้อแดงรุมทำร้ายทหารได้อย่างไร วันนี้หน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงานก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน อย่าลืมว่ารัฐบาลเป็นฝ่ายควบคุมกลไกของรัฐทั้งหมด แต่ไม่ยอมใช้อำนาจ ถ้ามีอำนาจแล้วไม่ยอมใช้อำนาจก็ให้กลับบ้านไปนอนเฉยๆ ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้จะมีคนมาใช้อำนาจแทนก็คือฝ่ายประชาชนนั่นเอง
อย่างกรณีม็อบเสื้อแดงอ้างว่าพันธมิตรทำได้ เขาก็ทำได้ ถ้ารัฐบาลไปจัดการเด็ดขาดก็กลายเป็นเลือกปฏิบัติ ?
 ผมคิดว่า ถ้าพันธมิตรทำผิดก็ต้องจับ ผมเห็นรัฐบาลที่แล้วก็เคยจับแกนนำไปตั้งหลายคน และที่เป็นคดีความกันอีกตั้งเยอะ แต่พอมารัฐบาลนี้ก็ต้องทำให้เด็ดขาด อยากให้จับตาดูกลุ่มที่อาละวาดหน้าบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ สุดท้ายแก๊งหัวขวดจะหลุดกันหมด เหลือเพียงไม่กี่คนที่ต้องรับโทษ
อาจจะเป็นเพราะการที่เป็นรัฐบาลหลายพรรคจึงไม่กล้าตัดสินใจลงมือเด็ดขาด ?
 คุณเป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ต้องแสดงความเป็นผู้นำ ไม่ใช่เปิดกุฏิรับโจรมาอยู่แล้วต้องเกรงใจโจร มันเลยกลายเป็นผิดตั้งแต่ตั้งคณะรัฐมนตรี ปล่อยให้พรรคร่วมคุมกระทรวงสำคัญไปหมด ผมทราบข้อมูลว่าเบื้องหลังของรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ไปเล่นผลประโยชน์กับกลุ่มคนข้างนอก โดยคนข้างนอกอยากได้อะไรก็จะบอกให้รัฐมนตรีจัดให้ โดยเฉพาะพวกที่ถูกตัดสิทธิการเมือง 5 ปี เมื่อลงมาเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ ก็ตั้งนอมินีเข้ามาเป็น เพื่อให้เป็นตัวแทนในการหาผลประโยชน์ เรื่องนี้ผมคิดว่าคุณอภิสิทธิ์ก็รู้ แต่ถ้าไม่รู้ก็ต้องรู้เอาไว้
ข้อเสนอที่การจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติโดยผสมระหว่างทุกพรรคเพื่อสร้างความปรองดองในบ้านเมือง ?
 ตั้งไม่ได้หรอก การจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยเอาทุกพรรคมาร่วมเป็นรัฐบาล จะทำได้ในเงื่อนไขที่เราต้องเผชิญหน้ากับศึกสงคราม ต้องร่วมมือร่วมใจกันรบกับศัตรูนอกประเทศ แต่ในวิกฤติการณ์ที่เกิดจากการเมืองนั้น จะแก้ปัญหาแบบนี้ไม่ได้ จะเอาสิ่งที่ถูกกับผิดมาผสมกันแล้วบอกว่าเพื่อความปรองดองมันไม่ได้ แม้แต่การออกกฎหมายนิรโทษกรรมยกเลิกความผิดของทุกฝ่าย ก็ไม่ถูกต้อง หน้าที่ของรัฐบาลคือ ต้องจัดการความผิดให้ได้ คนทำผิดต้องได้รับโทษ ถ้าจะมีรัฐบาลแห่งชาติ ตอนนี้ก็น่าจะเป็นรัฐบาลแห่งชาติหน้า



เสถียร วิริยะพรรณพงศา