
คุก 6 เดือน"เจ้ามือหวยใต้ดิน"ผิดรับพนันหลังคนเล่นแจ้งความ
ศาลแขวงอุดร สั่งคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา เจ้ามือรับแทงหวยใต้ดิน หลังคนเล่นเจอเบี้ยวหนี้ 1 ล้าน ยอมแลกแจ้งความกลับดำเนินคดีครั้งแรกเจ้ามือ ผิด พ.ร.บ.พนัน
จากกรณีที่สื่อมวลชนได้ติดตามข่าว การพิพากษาลงโทษจำคุกเจ้ามือรับแทงหวยใต้ดิน ในศาลแขวงอุดรธานี ซึ่งคดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก น.ส.สิริยากร วงษ์ชมภู อายุ 40 ปี นักธุรกิจขายตั๋วเครื่องบินและทัวร์ใน จ.ชลบุรี ได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้ามือรับแทงหวยใต้ดินที่ค้างชำระเงินค่าถูกหวย 1 ล้านบาท กระทั่งนำไปสู่การจับกุมเจ้ามือหวยได้พร้อมโพยของกลางและส่งฟ้องดำเนินคดีในศาลแขวงอุดรธานีนั้น โดยถือเป็นคดีแรกที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกลับเจ้ามือรับแทงหวยใต้ดินอย่างเปิดเผย ซึ่งก่อนหน้านี้ น.ส.สิริยากร ผู้เล่นหวยใต้ดิน ก็ถูกดำเนินคดีไปแล้วเมื่อเดือน ก.ย.61 ที่ผ่านมา โดยถูกศาลสั่งปรับ 1,000 บาท
"นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล" โฆษกศาลยุติธรรม ได้เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลคดีที่ได้รับแจ้งจากศาลแขวงอุดรธานี ปรากฏว่า กรณีดังกล่าว ศาลแขวงอุดรธานี ได้มีคำพิพากษาในคดีอาญาแดง ที่ 3459/2561 ซึ่งพนักงานอัยการ ได้ยื่นฟ้อง "นางกัญญาลักษณ์หรือต้า เหล็กเพชร" เป็นจำเลยและศาลแขวงอุดรธานี ได้มีคำพิพากษาวันนี้ (9 ต.ค.) ว่าจำเลยมีความผิดตามพรบ.การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 , 12 (1) ให้จำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสภาพเป็นประโยชนแก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน
ขณะที่ศาลก็ได้พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยแล้ว เห็นว่าจำเลยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ฉลากกินรวบตามโพยหวยของกลางระบุถึงจำนวนเงินจำนวนมากแสดงว่าจำเลยสามาถตอบสนองต่อผู้ประสงค์จะเล่นการพนันกับจำเลยเป็นจำนวนมากพฤติการณ์แห่งคดีน่าเชื่อว่าจำเลยไม่ได้เป็นเพียงเจ้ามือการพนันรายย่อยพฤติการณ์แล้วนับว่าร้ายแรง จึงเห็นสมควรไม่รอการลงโทษจำคุกให้จำเลย
"สุริยัณห์" โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวอธิบายอีกว่า คำพิพากษาคดีดังกล่าว เป็นการฟ้องตาม พ.ร.บ.การพนันฯ ในฐานะที่จำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันตามมาตรา 12(1) หรือเรียกง่าย ๆ ว่า เป็นเจ้ามือรับแทงหวยใต้ดิน ไม่ใช่การฟ้องในความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา และการเล่นหวยใต้ดินนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดให้มีการเล่นที่เรียกว่าเจ้ามือหรือผู้เข้าเล่นที่เรียกว่าผู้ซื้อก็ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.พนันฯ ด้วยเช่นกันทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของจำเลยที่ศาลมีคำพิพากษาลงโทษแล้วยังใช้สิทธิอุทธรณ์ได้อีกหรือไม่ "โฆษกศาลยุติธรรม" กล่าวว่า คดีนี้แม้จำเลยจะรับสารภาพและเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงสุดที่ศาลจะลงโทษได้ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับได้ไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากจำเลยยังประสงค์จะโต้แย้งดุลพินิจในการกำหนดโทษของผู้พิพากษาก็สามารถทำได้เนื่องจากศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 193 ทวิ (1)