
จีนเลิกแบนค้ากระดูกเสือ-นอแรดหลังห้ามนาน 25 ปี
นักอนุรักษ์สัตว์ป่าหวั่นสะเทือนทั่วโลก จีนเปลี่ยนใจอนุญาตขายอวัยวะเสือและแรด หลังห้ามมานาน 25 ปี
คณะรัฐมนตรีจีน ออกประกาศวานนี้ว่า การค้าขายหรือใช้กระดูกเสือ นอแรด และผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้อง จะอนุญาตให้กระทำได้ภายในเงื่อนไขพิเศษ รวมถึงเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การจำหน่ายเพื่อสืบทอดทางวัฒนธรรม วิจัยทางการแพทย์หรือเพื่อการรักษา
การซื้อขาย จะอยู่ภายใต้การกำกับเข้มงวด เฉพาะแพทย์ในโรงพยาบาลที่สำนักงานแพทย์แผนจีนรับรองเท่านั้น ที่จะได้รับอนุญาตให้ใช้นอแรดผง และกระดูกเสือ ผงนอแรดสำหรับใช้ทางการแพทย์ ต้องมาจากแรดที่อยู่ในความดูแลของคน ส่วนกระดูกเสือ มาจากเสือที่ตายธรรมชาติเท่านั้น ส่วนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ อาทิ การศึกษาเชิงพันธุกรรมที่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์จากเสือหรือแรด อาจต้องยื่นคำร้อง และผลิตภัณฑ์เหล่านั้นต้องทำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งเท่านั้น
ขณะที่หน่วยงานด้านมรดกวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว จะต้องอนุมัติผลิตภัณฑ์จากเสือและแรดที่จะนำไปใช้เพื่อการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมชั่วคราว ของโบราณสะสมจากเสือและแรด อนุญาตให้เฉพาะกรณีมอบเป็นของขวัญหรือมรดกตกทอด หากเป็นของได้มาผิดกฎหมาย จะถูกยึด
ทางการจะควบคุมปริมาณการซื้อขายอย่างเข้มงวด และการค้าขายใดๆนอกเหนือวัตถุประสงค์ข้างต้น ยังเป็นเรื่องต้องห้าม
จีนห้ามขายนอแรดและกระดูกเสือมาตั้งแต่ปี 2536 หลังจากเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาไซเตส แต่ในตลาดมืดยังคึกคัก โดยมากเป็นสินค้าจากเวียดนาม
กองทุนเพื่อสัตว์ป่าโลก ( WWF ) ระบุในแถลงการณ์ว่าการกลับท่าทีของจีนจุดความกังวลให้กับนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และจะมีผลกระทบทั่วโลก การรื้อฟื้นตลาดถูกกฎหมายให้กับผลิตภัณฑ์สัตว์ป่าทั้งสองชนิด ทำให้ความพยายามปกป้องคุ้มครองเสือและแรดในธรรมชาติถอยหลังลงคลอง เสี่ยงกระตุ้นความต้องการผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกลับมาเพิ่มขึ้นใหม่ หลังจากที่ลดลงไปตั้งแต่จีนสั่งห้าม
ต่อให้จีนออกกฎเข้มงวด แต่การค้าขายสินค้าเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นอยู่ดี ท่ามกลางความสับสนของผู้บริโภคและผู้บังคับใช้กฎหมายเองว่าแบบไหนผิดหรือถูกกฎหมาย WWF ขอเรียกร้องให้จีนคงคำสั่งห้ามค้ากระดูกเสือและนอแรดต่อไป ทั้งควรขยายให้ครอบคลุมการค้าอวัยวะและผลิตภัณฑ์จากเสือทุกชนิด
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ประชากรเสือและแรดอยู่ในระดับต่ำมากและเผชิญภัยคุกคามรอบด้าน การค้าอวัยวะถูกกฎหมาย เป็นเดิมพันที่มากเกินไปสำหรับจีน นอกจากนี้ ยังเป็นการตัดสินใจที่สวนทางกับภาวะผู้นำของจีนเองในการแก้ปัญหาการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย รวมถึงการสั่งปิดตลาดงาช้างในประเทศ ที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนในการปกป้องช้าง ประชาคมโลกขานรับความเคลื่อนไหวของจีนอย่างอบอุ่น"