ข่าว

เผยบันทึกสุดท้ายหนุ่มอเมริกันก่อนถูกชนเผ่าเซนทิเนลยิงธนูดับ

เผยบันทึกสุดท้ายหนุ่มอเมริกันก่อนถูกชนเผ่าเซนทิเนลยิงธนูดับ

22 พ.ย. 2561

หนุ่มอเมริกันโพสต์เล่าความในใจ-นาทีเจอชนเผ่าครั้งแรกก่อนถูกธนูยิงดับ 

 

ความคืบหน้าโศกนาฏกรรมชายชาวอเมริกันวัย 27 ปี จอห์น อัลเลน เชา ถูกชนเผ่าพื้นเมืองที่ตัดขาดจากอารยธรรมสมัยใหม่อย่างสิ้นเชิง บนเกาะเซนทิเนลเหนือ ส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ ในอ่าวเบงกอล ยิงธนูเสียชีวิต ทันทีที่เขาเหยียบย่างขึ้นไปบนเกาะต้องห้ามเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ( 16 พ.ย.) 

 

หัวหน้าตำรวจในพื้นที่บอกเอเอฟพีว่า ทางการส่งเฮลิคอปเตอร์ และเรือ ไปหาพิกัดแน่ชัดว่าเหตุเกิด ณ จุดใด โดยยังต้องรักษาระยะห่างจากเกาะไว้ และจนถึงเวลานี้ยังไม่พบจุดที่ศพถูกทิ้งไว้ ซึ่งอาจใช้เวลาหลายวันในการสอดส่องพื้นที่

 

เผยบันทึกสุดท้ายหนุ่มอเมริกันก่อนถูกชนเผ่าเซนทิเนลยิงธนูดับ

 

ชนเผ่าอันดามันยิงลูกดอกปลิดชีวิตชายอเมริกันรุกเกาะต้องห้าม 

ชนเผ่าแห่งเกาะอันดามัน โดดเดี่ยวและเปราะบาง

 

เกาะเซนทิเนลเหนือ เป็นบ้านของชนเผ่าที่คาดว่าเหลือประมาณ 150 คน ทางการคุ้มครองวิถีชีวิตของคนกลุ่มนี้ โดยประกาศห้ามเข้าในระยะ 5 ก.ม.จากเกาะ

ตำรวจส่งผู้เชี่ยวชาญภาคสนาม รวมถึงนักมานุษยวิทยาอินเดีย และเจ้าหน้าที่สวัสดิการชนเผ่ากับป่าไม้ มาช่วยภารกิจนี้ด้วย ขณะเดียวกัน ก็จะต้องระวังอย่างมากไม่ให้ไปรบกวนพวกเขาทุกวิถีทาง “มันเป็นพื้นที่อ่อนไหวสูงมาก และจะต้องใช้เวลาสักระยะ” 

อีกด้านหนึ่งจากจดหมายที่ผู้ตาย เขียนถึง นางลินดา อดัม เชา มารดาที่อาศัยในเมืองแวนคูเวอร์ รัฐวอชิงตัน และบันทึกของเขาเองก่อนเสียชีวิต ลงวันที่ 14-16 พ.ย. ได้ช่วยให้เห็นภาพว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างขณะเหยียบเกาะต้องห้ามครั้งแรก และเผยว่าเขามีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างมากที่จะสอนชนเผ่าให้รู้จักพระเยซู 

 

เผยบันทึกสุดท้ายหนุ่มอเมริกันก่อนถูกชนเผ่าเซนทิเนลยิงธนูดับ

 

หัวหน้าตำรวจอันดามันและนิโคบาร์ กล่าวว่า ชายอเมริกันเดินทางไปยังเกาะอันดามันและนิโคบาร์ 4 ครั้งนับจากปี 2558 ล่าสุดเขาไปที่พอร์ตแบลร์ กลางเดือนตุลาคมด้วยวีซ่าท่องเที่ยว เขาให้เพื่อนช่วยว่าจ้างชาวประมง 6 คน ให้ค่าตอบแทนราว 1 หมื่นบาทเศษ พาไปยังเกาะเซนทิเนลเหนือ  โดยใช้เรือประมงลากเรือคายักของเขา แผนการทั้งหมดนี้ไม่ได้บอกใคร เพราะไม่ต้องการให้เพื่อนๆเสี่ยงไปด้วย

เชากับชาวประมงที่ว่าจ้าง เดินทางถึงราวเที่ยงคืนเข้าสู่วันที่ 15 พ.ย. ก่อนพายเรือคายักต่อไปที่เกาะ ชายหนุ่ม เขียนเล่าว่า เขาพบชนเผ่าบนเกาะจำนวนหนึ่ง  รีบวิ่งมาและตะโกนใส่  เชาประจันหน้ากับสองคน ซึ่งมีลูกดอกคนละ 2 ลูก

"พอพวกเขาเข้ามาใกล้ ผมตะโกนออกไป ผมชื่อจอห์น ผมรักพวกคุณ และพระเจ้าก็รักพวกท่าน" ผมเสียใจที่เริ่มต้นแบบตื่นตระหนกไปหน่อย เพราะผมเห็นพวกเขาเงื้อธนู  ผมหยิบปลา โยนให้พวกเขา แต่อีกฝ่ายยังเดินเข้ามาหา" 

“ผมพายแบบไม่คิดชีวิตกลับไปที่เรือประมง ผมรู้สึกกลัวแต่ผิดหวังมากกว่า ที่พวกเขาไม่ยอมรับผมทันที”  

พบกันครั้งแรก เชาถูกยิง คนยิงธนูเป็นเด็ก น่าจะราว 10ขวบ หรืออาจจะวัยรุ่น แต่ลูกดอกเจาะคัมภีร์ไบเบิลที่เขาถือไว้พอดี  เชาเขียนด้วยว่า เขายังไม่อยากตาย จะดีกว่าไหมที่จะถอดใจแล้วให้บางคนมาสานต่อ  แต่ใครจะมาแทนที่เขา และขอให้พระเจ้าทรงอภัยเด็กน้อยที่ยิงเขา และทุกคนบนเกาะที่พยายามจะฆ่าเขา 

 เขาใช้เวลาในคืนนั้นเขียนบันทึกบอกเล่าเหตุการณ์ที่ประสบ ก่อนมอบให้กับชาวประมง และเมื่อออกเรือไปพบชนเผ่าเซนทิเนลอีกครั้งในวันที่ 16 พ.ย. ก็ไม่มีโอกาสกลับมาอีกเลย ชาวประมงมองเห็นจากไกลๆ ขณะเชาถูกชนเผ่ายิงลูกดอกเข้าใส่และลากร่างของเขาไปบนหาด 

 

เผยบันทึกสุดท้ายหนุ่มอเมริกันก่อนถูกชนเผ่าเซนทิเนลยิงธนูดับ

( ภาพ Daily Mail ) 

 เชาเขียนบันทึกครั้งสุดท้ายถึงครอบครัวในวันที่ 16 พฤศจิกายน ไม่นานก่อนลงจากเรือประมงไปพบกับชนเผ่าบนเกาะเป็นครั้งที่สอง ว่า“พ่อกับแม่คงคิดว่าว่าผมบ้ามาก แต่ผมคิดว่าคุ้มค่าที่จะไปบอกกล่าวเรื่องราวพระเยซูแก่คนเหล่านั้น ได้โปรดอย่าแค้นเคืองพวกเขา หรือพระเจ้า หากผมถูกฆ่าตาย” 

 

เผยบันทึกสุดท้ายหนุ่มอเมริกันก่อนถูกชนเผ่าเซนทิเนลยิงธนูดับ

 

ครอบครัวของเขาโพสต์อินสตาแกรมว่า  เชาเป็นลูกชาย พี่ชายน้องชาย ลุงและเพื่อนดีที่สุดสำหรับพวกเรา กับคนอื่น เขาเป็นมิชชันนารีคริสเตียน เป็นกู้ภัยฉุกเฉิน เป็นโค้ชฟุตบอล และนักปีนเขา เขารักพระเจ้า ช่วยผู้ตกทุกข์ได้ยาก และไม่ได้คิดอะไรมากกว่าไปรักชนเผ่าบนเกาะเซนทิเนลเหนือ 

จากคำบอกเล่าของเพื่อน ทราบว่า เชามุ่งมั่นเดินทางไปยังเกาะห่างไกลในมหาสมุทรอินเดีย เพื่อเผยแพร่ศาสนาคริสต์แก่ชนเผ่า และวางแผนเดินทางตลอด 3 ปีที่ผ่านมา แม้รู้ว่าเป็นการเดินทางที่อันตรายแต่เขารู้สึกมีเสียงเรียกจากเบื้องบน สิ่งที่ทำคือการช่วยเหลือคนเหล่านั้น 

สำหรับคดีฆาตกรรมบนเกาะเซนทิเนลเหนือ ตำรวจลงบันทึกว่าเป็นประทุษร้ายต่อชนเผ่าไม่ทราบกลุ่ม โดยชาวประมง 6 คนและเพื่อนของเชาซึ่งเป็นวิศวกรอีก 1 คนที่มีส่วนช่วยเหลือผู้ตายเดินทางไปยังเกาะ ถูกจับกุม  ทั้งหมดรู้สถานการณ์ดี แต่ก็ยังจัดแจงช่วยเตรียมเรือและทุกอย่าง ซึ่งเท่ากับส่งเชาไปสู่ความตาย