รวบ "ตูน นารากะ" เจ้าพ่อค้ายา
ตำรวจสน.โชคชัย จับกุม "ตูน นารากะ" เจ้าพ่อค้ายาเสพติดย่านเลียบด่วนรามอินทรา คาห้างดังย่านประตูน้ำ คุมค้นคอนโดเจอของกลางเพียบ
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2561 ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 ได้รับรายงานการจับกุมคดีที่น่าสนใจจาก พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย ว่า พ.ต.ท.กัณตภณ โพธิ์อ๊ะ รองผกก.สส.สน.โชคชัย พ.ต.ท.อภิโชค ขนบดี สว.สส.สน.โชคชัย และพ.ต.ท.กอบศักดิ์ โพธิ์วารี สว.สส.สน.โชคชัย ร่วมกันนำกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ตำรวจ กก.1 บก.ปส.3 บช.ปส. เจ้าหน้าที่ ปปส.กทม.และเจ้าหน้าที่ทหาร จับกุมตัวนายวีรวิชญ์ พุ่มสวัสดิ์ หรือตูน นารากะ หรือ ตูน KJ2 อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 572/2561 ลง 28 พ.ย.2561 พร้อมของกลางอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล๊อก รุ่น 19 จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุนปืน เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 31 นัด ยาไอซ์น้ำหนักรวม 42.96 กรัม ยาอีจำนวน 10 เม็ด กัญชาจำนวน 100 กรัม โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถยนต์ ชั้น 8 อาคารแพลตตินั่ม แฟชั่น มอลล์ แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ก่อนขยายผลตรวจค้นห้องพักเลขที่ 509/264 ย่านราชเทวี แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ทางตำรวจสืบทราบว่ามีพฤติกรรมการลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่ย่านถนนเลียบด่วนรามอินทรา จึงทำการสืบสวนจนรู้แหล่งพักยาเสพติด และได้นำหมายค้นไปค้นบ้านพักย่านถนนสุคนธสวัสดิ์ จนพบหลักฐานความเชื่อมโยงกับนายวีรวิชญ์ หรือตูน นารากะ จากนั้นจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ ต่อมามีเบาะแสอีกว่าผู้ต้องหามีอาชีพขายประเป๋าอยู่ที่ร้านบราซีล ภายห้างแพลตตินั่ม จึงทำการวางแผนจับกุม จนพบผู้ต้องหาบริเวณลานจอดรถชั้น 8 อาคารแพลตตินั่ม จึงแสดงตัวเข้าจับกุมและแสดงหมายจับ จากการตรวจค้นพบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล๊อก รุ่น 19 จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืนจำนวน 14 นัด ภายในกระเป๋าที่ผู้ถูกจับสะพายอยู่ และทำการขยายผลไปที่ห้องพักของผู้ต้องหาพบของกลางที่เหลือ จึงคุมตัวพร้อมของกลางสอบสวนที่ สน.โชคชัย
จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพว่าตนอยู่ในแก๊งซิ่งรถดังกล่าวจริง โดยชื่นชอบการแต่งรถ และใช้ชีวิตหรูหรา พักคอนโดหรู จึงมาค้ายาเสพติดดังกล่าว โดยมักจะขายให้กับพวกก๊วนซิ่งรถ ตลอดจนกลุ่มวัยรุ่นและนักศึกษา ในย่านถนนเลียบด่วนรามอินทรา เมื่อได้เงินมาแล้วจะนำไปซื้อสินค้ามาขายที่ร้านห้างดังกล่าว เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ ต้องทำการสอบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการอีกครั้ง
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ,มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย , มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป