"บิ๊กโจ๊ก" ลุยตรวจต่างชาติ จับ "โอเวอร์สเตย์"
"บิ๊กโจ๊ก" ลุยตรวจต่างชาติจับโอเวอร์สเตย์ 23 ราย 2 รายเคยถูกจับหนีเข้าเมือง ทั้งหมดเป็นผู้ขอลี้ภัยกับยูเอ็นเพื่อเดินทางไปประเทศที่ 3
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 ธันวาคม พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พร้อมเจ้าหน้าที่สตม.นำกำลังเข้าตรวจสอบโรงแรมมอลล์ สวีท เอ็กเพรส เลขที่ 3530 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ หลังพบว่ามีชาวต่างชาติมั่วสุมและอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกว่าที่วีซ่ากำหนด (over stay) โดยเจ้าหน้าที่จับกุมชาวต่างชาติได้ทั้งหมด 23 คน แบ่งเป็นชาย 7 คน หญิง 9 คน และเด็กอีก 7 คน ชาวปาเลสไตน์ 20 คน ชาวอิรัก 1 คน และชาวโซมาเลีย 2 คนซึ่งชาวโซมาเลียนี้ถูกจับในเรื่องหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
สำหรับการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาเหล่านี้เดินทางมาจากประเทศต้นทางมาอยู่ประเทศไทยแล้วพยายามประสานกับทางสำนักงานข้าหลวงผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(UNHCR) เพื่อทำเรื่องให้กลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้ลี้ภัย เพื่อจะได้ไปยังประเทศอื่นได้ ทั้งนี้ระหว่างที่รอทำเรื่องเป็นผู้ลี้ภัยนั้น จะมีคนไทยมาเปิดห้องให้ผู้ต้องหาพักในลักษณะเช่าห้องพักไว้ 5 ห้องแบ่งให้ผู้ต้องหากระจายกันอยู่ โดยจ่ายเงินไว้ล่วงหน้าหลายเดือนแล้วให้กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าพักแทนในลักษณะที่อยู่ในประเทศไทยเกินกว่าที่วีซ่ากำหนดจึงเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีผู้ลี้ภัยเข้ามาปีละ 2,000 กว่าคน โดยส่วนใหญ่จะมาทำเรื่องไว้กับ UNHCR เพื่อรอที่จะเดินทางไปยังประเทศที่ 3 อย่างไรก็ดีช่วงบ่ายของวันที่ 6 ธ.ค.นี้ ตนจะประสานพูดคุยกับทาง UNHCR เกี่ยวกับกรอบการพิจารณาผู้ลี้ภัยว่า ต่อไปจะต้องมีระยะเวลาส่งตัวไปยังประเทศที่ 3 ให้ชัดเจน เพราะผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมบางคนมีสถานะผู้ลี้ภัยแต่กลับยังอยู่ในประเทศไทยมากว่า 6 ปีแล้ว บางคนไปทำงานซึ่งกฎหมายไม่อนุญาตหรือไปก่อเหตุอาชญากรรม ดังนั้นจะต้องมีการคุยเรื่องกรอบให้ชัดเจน รวมถึงการพักอาศัยต้องอยู่ที่ซึ่งสะดวกสะอาดทาง UNHCR สามารถติดต่อได้ แต่ไม่ใช่มาอยู่ใจกลางเมืองตามที่พักอาศัยแบบนี้
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ผู้ต้องหาบางคนเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มผู้ประท้วง 47 คนซึ่งไปประท้วงที่หน้าองค์การสหประชาชาติเมื่อวันที่ 30 พ.ย. และวานนี้ (2 ธ.ค.) ก็ไปประท้วงด้วย ซึ่งการมีสถานะผู้ลี้ภัยนั้น หากอยู่ในประเทศไทยนานเกินกว่าที่วีซ่ากำหนดก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไทย ต้องถูกส่งไปอยู่สถานกักกันและตนจะเร่งดำเนินการผลักดันไปยังประเทศที่ 3 ที่ผ่านมาทาง สตม.ก็ได้ผลักดันผู้ลี้ภัยไปแล้วประมาณเดือนละ 400-500 คน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักร โดยการอนุญาตสิ้นสุดและหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ส่วนคนไทยที่เปิดห้องให้กลุ่มผู้ต้องหาเข้าพักจะถูกออกหมายเรียกเพื่อแจ้งข้อหาเป็นเจ้าบ้านไม่แจ้งว่ามีคนต่างด้าวพักอาศัยดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.