ข่าว

ปชป.ประกาศนโยบาย ศก. 6ข้อ ยกระดับความเป็นอยู่-ประกันรายได้

ปชป.ประกาศนโยบาย ศก. 6ข้อ ยกระดับความเป็นอยู่-ประกันรายได้

21 ธ.ค. 2561

"ปชป. ประกาศนโยบายเศรษฐกิจ 6ข้อ ยกระดับความเป็นอยู่ประกันรายได้คนไทย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โชว์เหนือรัฐบาลออกโฉนดทันที

 
     นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รองเลขาธิการพรรค ในฐานะอดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่พูดคุยกับผู้ประกอบการ เกษตรกร และผู้ใช้แรงงาน พร้อมประกาศนโยบายเศรษฐกิจ ยกระดับความเป็นอยู่ประกันรายได้คนไทย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง 6ข้อ โดยเป็นการต่อยอดจาก10นโยบายการศึกษา ซึ่งจะเน้นการยกระดับชีวิตคนไทย
 

   นายอภิสิทธิ์ บอกว่า นโยบายที่ประกาศวันนี้ยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด แต่จะตอบโจทย์ประชาชนทั้งเรื่องปัญหาเศรษฐกิจไม่ดี จะช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำได้
     หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า  ทั้งนี้นโยบายดังกล่าว ได้แก่ 1.โครงการโฉนดสีฟ้า ซึ่งหลักสำคัญคือผู้ถือครองจะต้องมีความมั่นคง และมั่นใจในการสร้างโอกาสให้กับตนเอง โดยการจัดทำโฉนดชุมชนจัดการตนเอง มีการออก พ.ร.บ.โฉนดชุมชน เพื่อให้สิทธิในการจัดการชุมชนอย่างแท้จริง และยกระดับ สปก.ให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนของรัฐโดยการกู้ผ่านธนาคารและตกทอดถึงลูกหลานได้ พร้อมเดินหน้าธนาคารที่ดิน เพิ่มที่ดินทำกินให้คนไทย เร่งออกโฉนดทันใจ สะสางโฉนดที่ดินที่ค้างท่อมานานที่มีเอกสิทธิ์ สค.1 และ นส.3 เพื่อออกสิทธิตามกฎหมายให้แล้วเสร็จ

      2.จัดตั้งกองทุนน้ำชุมชน ให้เกษตรกรมีน้ำใช้ตลอดปี มีเงินทำแหล่งน้ำทุกหมู่บ้าน โดยรับการจัดสรรงบจากผู้เชี่ยวชาญแนะนำชาวบ้านจัดการแหล่งน้ำด้วยตนเอง ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นที่ของรัฐ หากเป็นที่ของประชาชนแต่เหมาะสมที่จะทำสระน้ำ ก็สามารถเข้ามาร่วมโครงการ ซึ่งจะต้องปลดล็อคกฎระเบียบของราชการ และใช้ยางพาราในการทำสระน้ำ

      3.ประกันรายได้เกษตรกร ให้ครอบคลุมพืชทุกชนิด สร้างความมั่นคงรายได้ให้เกษตรกรไทยทุกคนได้มีหลักประกันรายได้ขั้นต่ำการทำอาชีพเกษตรกรรม ข้าวไม่ต่ำกว่า เกวียนละ 10,000บาท,ยางพารา ไม่ต่ำกว่า 60บาทต่อกิโลกรัม ,ปาล์ม 10บาทต่อกิโลกรัมรวมถึงทำประกันภัยพืชผลคุ้มครองต้นทุนการผลิต

     4.ประกันรายได้แรงงานไม่ต่ำกว่า 120,000ต่อปี แต่ถ้ามีรายได้ต่อเดือนเมื่อคำนวนแล้วไม่ถึงที่กำหนด รัฐบาลก็จะจ่ายเงินส่วนต่างให้

      5.เบี้ยผู้สูงอายุ 1,000ต่อเดือน และจะไปปรับโครงการเกี่ยวกับการออมเพื่อการชราภาพ 

      และ6.เบี้ยสวัสดิการผู้ยากไร้ 800บาทต่อเดือน ซึ่งโอนตรงสมุดบัญชีผู้มีรายได้ต่ำกว่า 100,000ต่อปี ซึ่งทุกคนจะต้องเข้าระบบรายงานสถานะทางการเงินของตนเองทุกปี

 

        นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า  นโยบายทั้ง6ข้อนี้ จะทำได้ทันทีเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลพร้อมและหลังจากนั้นจะเปิดเผยที่มาของงบประมาณอีกครั้ง ซึ่งยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยสร้างภาระให้ประเทศ และไม่เคยทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย การระดมเงินเข้ามาทำนโยบายนี้จะใช้เป็นเครื่องมือในการลดความเหลื่อมล้ำได้ด้วย
        "หลังจากนี้ พรรคฯจะนโยบายเศรษฐกิจยุคใหม่ ยกระดับประเทศไทย ก้าวไกลทันโลก เพื่อรับมือกับความท้าทายการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านทั้งภาคการผลิตและการบริการ และรองรับการเปลี่ยนแปลงสังคมผู้สูงอายุ รวมถึงลดความเหลื่อมล้ำ เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างความเข้มแข็งให้ประเทศไทย"