"สมเด็จพระเทพฯ" เสด็จเป็นองค์ประธานจัดงานพิธีบรมราชาภิเษก
"วิษณุ" เผย "สมเด็จพระเทพฯ" เสด็จเป็นประธานประชุมจัดงาน "พระราชพิธีบรมราชาภิเษก" 26 ม.ค.นี้ ที่ทำเนียบฯ แบ่งงาน 7 คณะรับผิดชอบ เผย 4พ.ค.63 วันฉัตรมงคล"
วันที่ 10 ม.ค.62 เวลา 13.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อรับทราบหมายกำหนดการพระราชพิธี วันที่ 4-6 พ.ค.62 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ผู้บัญชาการเหล่าทัพและผู้แทนสำนักพระราชวัง เข้าร่วม
จากนั้น เมื่อเวลา 15.15 น. ภายหลังการประชุม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การแถลงรายละเอียดขอเป็นหลังวันที่ 26 ม.ค.นี้ เนื่องด้วยวันดังกล่าว เวลา 17.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงพระกรุณาเสด็จเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ จะเสด็จมาเป็นประธานในที่ประชุม
ทั้งนี้ ประธานองคมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา เข้าร่วมประชุมด้วย และในส่วนของนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยแบ่งเป็นคณะกรรมการต่างๆ 7 คณะ ประกอบด้วย 1.ฝ่ายพิธีการ มีตนเป็นประธาน 2.คณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัย มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน 3.คณะกรรมการฝ่ายโครงการต่างๆ มี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ยุติธรรม เป็นประธาน 4.คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ มี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน 5.คณะกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการเสนองบประมาณ มี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน 6.คณะกรรมการในส่วนของการทำจดหมายเหตุ และ 7.กรรมการในส่วนประสานงานต่างๆ ซึ่งเป็นชุดย่อยลงไป
อย่างไรก็ตาม หลายเรื่องในที่ประชุมวันนี้ต้องนำความกราบบังคมทูลในวันที่ 26 ม.ค.ก่อน และบางเรื่องต้องขอพระราชวินิจฉัยจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รวมถึงบางเรื่องต้องนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทด้วย จึงไม่สามารถแถลงได้
นายวิษณุ กล่าวว่า โดยเบื้องต้นให้เป็นความรู้ก่อนว่า ขณะนี้หมายกำหนดการออกมาแล้วว่า พระราชพิธีจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน 1.การเตรียมการเบื้องต้น 2.พระราชพิธีเบื้องกลาง และ 3.ส่วนที่เป็นกิจกรรมต่อเนื่องเบื้องปลาย โดยพระราชพิธีเบื้องกลางคือ ตัวพระราชพิธีที่มี 3 วันคือ วันเสาร์ที่ 4 พ.ค. วันอาทิตย์ที่ 5 พ.ค. และวันจันทร์ที่ 6 พ.ค. แต่พิธีเบื้องต้นที่นำหน้ามาก่อนนั้นมีเกือบเต็มทั้งเดือนเม.ย. โดยจะเริ่มจากพิธี "พลีกรรม" คือพิธีตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. กระทั่งสิ้นเดือนเม.ย. และต่อด้วยเดือนพ.ค. ในวันที่ 2-3 พ.ค.ต่อจากนั้นจะเข้าสู่พิธีเบื้องกลางซึ่งเป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในวันที่ 4-6 พ.ค.
โดยวันสำคัญที่สุดคือวันที่ 4 พ.ค. ที่ในปีนี้เป็นวันบรมราชาภิเษก แต่ในปีหน้าวันที่ 4 พ.ค.63 จะไม่ใช่วันบรมราชภิเษก เพราะบรมราชาภิเษกไปแล้ว จึงเป็นวันที่ระลึกถึงการบรมราชภิเษก ซึ่งปีหน้าวันที่ 4 พ.ค.63 จะเรียกว่า "วันฉัตรมงคล" และจะเรียกตลอดไปในรัชกาลนี้ ส่วนกิจกรรมเบื้องปลายต่อเนื่องหลังวันที่ 6 พ.ค.คือในวันที่ 8-9 พ.ค. ซึ่งเป็นพระราชพิธีพืชมงคล และหลังจากนั้นจะเป็นกิจกรรมของรัฐบาลและประชาชน ที่จะจัดน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย ตรงนี้หลายๆ อย่างต้องรอให้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องประชุมกันอีกที
เมื่อถามว่า หลังประชุมวันที่ 26 ม.ค. จะได้ข้อสรุปกระบวนการงานพระราชพิธีครบถ้วนใช่เลยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ครบทุกอย่าง และวันนี้เท่าที่มีการรายงานในที่ประชุมได้มีการเตรียมงานกันไปเองก่อนแล้วถือว่าลุล่วง 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อถามว่า สำหรับงานพระราชพิธีน่าจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ นายวิษณุ กล่าวว่า น่าจะคงยาวไปตลอด แต่จะไม่กระทบต่อเหตุการณ์บ้านเมือง.