มาได้อย่างไร ปริศนาซากวาฬหลังค่อมในป่าอเมซอน
นักชีววิทยาในบราซิลพยายามหาคำตอบเหตุใด ซากวาฬหลังค่อมความยาว 11 เมตรจึงขึ้นไปอยู่ในป่าอเมซอนได้
ซากวาฬหลังค่อมความยาว 11 เมตร ถูกพบอยู่ในป่าอเมซอนเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว บนเกาะมาราโจ ทางเหนือของบราซิล ซึ่งเป็นบริเวณป่าฝนบรรจบกับทะเล กลายเป็นปริศนาให้นักชีววิทยาในบราซิลเร่งหาคำตอบว่า อะไรทำให้วาฬหนัก 10 ตัน ไปนอนตายอยู่ในพื้นที่ป่า ห่างจากทะเลถึง 15 เมตร
ทีมนักวิทยาศาสตร์จากสำนักงานสาธารณสุข สุขอนามัยและสภาพแวดล้อม ( เซมมา ) กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า ทีมงานพบซากวาฬ เพราะเห็นฝูงนกแร้งบินวนอยู่ แต่การเข้าถึงจุดนั้นทำได้ยาก วันแรกไม่สำเร็จเพราะพื้นที่ชื้นแฉะของป่าโกงกาง จากนั้น มีการระดมนักชีววิทยาจากสถาบัน Bicho D'agua ซึ่งเป็นเอ็นจีโอ บนเกาะมาราโจ เข้าสำรวจซาก เชื่อว่าเป็นซากลูกวาฬอายุ 12 เดือน และเก็บตัวอย่างนำมาชันสูตร เพื่ออธิบายปรากฏการณ์สัตว์ทะเลเกยป่าครั้งนี้ได้
จากคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นซากวาฬแผ่หราบนป่าโกงกาง ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บ
เบื้องต้น นักชีววิทยาสันนิษฐานว่า วาฬตายในทะเลก่อน ก่อนโดนคลื่นสูงและลมแปรปรวนซัดซากของมันขึ้นไปติดป่าโกงกาง ค่อนข้างไกลจากทะเล แต่ที่น่าฉงนอีกก็คือเหตุใดจึงมีวาฬหลังค่อมไปอยู่นอกชายฝั่งทางเหนือในเดือนกุมภาพันธ์
ตามปกติ วาฬหลังค่อม หรือ ฮัมแบ็ค จะปรากฎตัวให้เห็นนอกชายฝั่งรัฐบาเอีย ทางเหนือของบราซิล ช่วงเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน เพื่อผสมพันธุ์และออกลูก ก่อนพากันอพยพไปหาอาหารในแอนตาร์กติก จึงเป็นไปได้ว่าลูกวาฬตัวนี้ อาจกำลังเดินทางไปกับแม่แล้วเกิดหลงหรือแยกจากกัน ในขณะอพยพข้ามทวีป
สาเหตุการตายที่ชัดเจนอาจจะต้องรอผลชันสูตรซาก แต่ข้อมูลจะได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสภาพของซากสัตว์ด้วย หากเน่าเปื่อยมาก อาจได้ข้อมูลไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์มีแผนจะผ่าซาก เพื่อเก็บตัวอย่างปรสิตและหลักฐานจากกล้ามเนื้อ เพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ในห้องแลบ
ทีมงานไม่มีแผนจะเคลื่อนย้ายซากเพราะขนาด น้ำหนักและสถานที่ไม่เอื้อ จึงมีแผนจะฝังซากไว้ ส่วนโครงกระดูกจะส่งไปยังพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติในเมืองเบเลม เพื่อใช้ศึกษาในอนาคต