เผยผู้นำตาลีบันไม่ได้ซ่อนไกลแค่เดินจากฐานทัพมะกันก็ไปถึง
หนังสือใหม่โดยผู้สื่อข่าวชาวดัทช์ เผยความล้มเหลวข่าวกรองสหรัฐ พลาดแหล่งกบดานผู้นำตาลีบันอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก
หนังสือใหม่ชื่อ Searching for an Enemy ว่าด้วยชีวิตลับของมุลเลาะห์ โมฮัมเหม็ด โอมาร์ ผู้ก่อตั้งตาลีบัน ที่เขียนโดย เบตต์ ดาม ผู้สื่อข่าวชาวเนเธอร์แลนด์ เผยความล้มเหลวของการข่าวสหรัฐอเมริกา ความไม่ไว้ใจของผู้ก่อตั้งกลุ่มสุดโต่งตาลีบันต่อปากีสถานที่เข้าข้างสหรัฐในสงครามก่อการร้าย และบทบาทอันจำกัดของเขาต่อปฏิบัติการต่อต้านรัฐบาลคาบูล รวมถึงที่กบดานที่เข้าใจผิดกันยกใหญ่
ดาม อ้างว่า มุลเลาะห์ โอมาร์ ไม่เคยกบดานอยู่ในปากีสถานอย่างที่สหรัฐอเมริกาเข้าใจ แต่แท้จริงแล้ว เขาเลือกซ่อนตัวอยู่ในแผ่นดินเกิดอัฟกานิสถาน แถมที่อยู่หลังสุด อยู่ห่างแค่ 4.8 ก.ม.จากฐานทัพปฏิบัติการส่วนหน้าสหรัฐ ในจังหวัด ซาบูล
นักข่าวหญิงรายนี้ทุ่มเวลาค้นคว้าวิจัย 5 ปี และสัมภาษณ์บรรดาสมาชิกตาลีบัน เพื่อเขียนหนังสือ รวมถึงได้มีโอกาสพูดคุยกับ จับบาร์ โอมารี บอดีการ์ดของนายโอมาร์ ที่ช่วยซ่อนเจ้านาย กระทั่งเขาถึงแก่กรรมจากอาการป่วยในปี 2556
โอมารี คือคนที่เดินทางไปปากีสถานเพื่อแจ้งข่าวการเสียชีวิตของมุลเลาะห์ โอมาร์ กับผู้บัญชาการระดับสูงของตาลีบัน และถูกจับกุมตัวหลังกลับบ้าน อยู่ในความควบคุมตัวของหน่วยข่าวกรองอัฟกานิสถาน มาตั้งแต่ปี 2560
หลังเหตุวินาศกรรมสหรัฐ ในปี 2544 ที่นำไปสู่การล่มสลายของระบอบตาลีบันในกรุงคาบูลในปีเดียวกัน สหรัฐตั้งค่าหัวผู้นำตาลีบัน 10 ล้านดอลลาร์
มุลเลาะห์ โอมาร์กับโอมารี พากันไปซ่อนตัวที่เมือกอลัต เมืองเอกของจังหวัดซาบูล ในบ้านกำแพงดิน มีลานกว้างด้านหน้า แบบบ้านทั่วไปของชาวอัฟกัน บ้านที่ทั้งสองอยู่เป็นห้องแถวรูปตัวแอล ตรงมุมตัวแอล คือห้องที่มุลเลาะห์ โอมาร์อาศัยอยู่ แต่ไม่มีทางเข้า ต้องเข้าผ่านประตูลับ ที่ทำเป็นตู้เก็บของพิงกำแพง
ทหารอเมริกันเคยเฉียดเข้าไปใกล้บ้านกบดาน 2 ครั้งในช่วง 4 ปีที่ผู้นำตาลีบันอยู่ที่นั่น ครั้งแรก ทหารลาดตระเวณเข้าไปใกล้ขณะทั้งสองอยู่ในลานบ้าน แต่หลบหลังกองไม้ได้ทัน ทหารผ่านไปโดยไม่เข้าตรวจค้น ครั้งที่สอง ทหารสหรัฐได้เข้าค้นบ้านแต่พบทางเข้าลับ ไม่ชัดเจนว่าการเข้าค้นเป็นเพราะได้รับเบาะแสหรือสุ่มตรวจปกติ
จากนั้น ในปี 2547 ทั้งสองย้ายไปอยู่อีกเขตหนึ่งในจังหวัดเดียวกัน โดยคราวนี้เป็นบ้านริมแม่น้ำ และมีทางเชื่อมกับอุโมงค์ขนาดใหญ่ที่เคยใช้เพื่อการชลประทาน มุลเลาะห์ โอมาร์ เข้าไปซ่อนตัวในอุโมงค์เป็นครั้งคราวเวลาที่มีเฮลิคอปเตอร์บินใกล้หมู่บ้าน ซึ่งห่างแค่ 4.8 ก.ม. จากฐานทัพสหรัฐ ที่มีทหารประจำการพันนาย และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับตัวเองผ่านทางบีบีซี ภาคภาษาปาชตุน
ชีวิตบั้นปลาย เขามักพูดคุยกับบอดีการ์ด ทำอาหาร และใช้โทรศัพท์โนเกียรุ่นเก่า ไม่มีซิมการ์ด เพื่ออัดเสียงตัวเองท่องคัมภีร์อัลกุรอาน
มุลเลาะห์ โอมาร์ เสียชีวิตเมื่อ 23 เมษายน 2556 โอมารีกับผู้ช่วยอีกสองคนจัดการฝัง โดยปราศจากหลุมศพและป้ายชื่อ
นักข่าวดัทช์ อ้างว่า โอมาร์ไม่เคยสั่งการตาลีบันจากที่ซ่อน แต่เป็นเหมือนผู้นำทางจิตวิญญาณ ขณะตาลีบันเก็บข่าวการตายของเขาไว้ 2 ปี