"หนุ่ย แบไต๋" รับทราบข้อกล่าวหาคดีหมิ่น
"หนุ่ย แบไต๋" พิธีกรดัง เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีหมิ่นประมาท หลังโพสต์แฉร้านขายซีดีละเมิดลิขสิทธ์ เจ้าตัวขอสู้คดีเป็นบทเรียนผู้ประกอบการฝ่าฝืนกฎหมาย ขโมยผลงาน
ที่สน.บางนา เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 21 มีนาคม นายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ หรือหนุ่ย แบไต๋ พิธีกรจากรายการแบไต๋ ไฮเทค พร้อมนายพิษณุ พานิชสุข ทนายความ เดินทางเข้าพบร.ต.อ.วีรศักดิ์ ทองบ่อ รองสว.(สอบสวน) สน.บางนา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังจากที่นายพงศ์สุขออกมาโพสต์เฟซบุ๊กแฉร้านค้าขายซีดีภายในศูนย์การค้าดังย่านบางนา ว่ามีการขายซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ กระทั่งทางศูนย์การค้าได้ยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ร้าน เจ้าของร้านจึงได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสน.บางนา เมื่อปี 2560 ทางนายพงศ์สุขจึงขอเรียกร้องความเป็นธรรมจากการทำหน้าที่พลดีเมืองดีชี้เบาะแสการทำผิดกฎหมาย แต่กลับต้องตกเป็นผู้ต้องหาเสียเอง
นายพงศ์สุข เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อประมาณ เดือน พ.ค.ปี 60 ตนได้ไปเดินเล่นที่ ศูนย์การค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางนา และได้เข้าไปที่ร้านขายแผ่นภาพยนตร์แห่งหนึ่ง ที่ขายภาพยนต์ละเมิดลิขสิทธิ์ ก่อนจะนำเสนอทางโซเซียล จนทางศูนย์การค้าได้ดำเนินการกวาดล้างร้านที่ขายภาพยนต์ละเมิดลิขสิทธิ์ หลายร้านทุกสาขาทั่วประเทศ และยกเลิกพื้นที่เช่ากับร้านขายภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว จึงทำให้ร้านสูญเสียรายได้ จากนั้นคิดว่าเรื่องน่าจะจบไปนานแล้ว ต่อมาทราบว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์ CDได้แจ้งความกล่าวหาตน จนกระทั่งโดนออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้
นายพงศ์สุข เปิดเผยต่อว่า ตนในฐานะเป็นคนที่ห่วงใยสังคมไม่อยากให้มีการละเมิดสินค้าลิขสิทธิ์ และเป็นพลเมืองดีจึงเผยแพร่สิ่งที่ไม่ดี ตลอดระยะเวลาที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ตนได้รับความห่วงใยจากประชาชนที่รักความถูกต้องจำนวนมาก แนะนำด้านคดีและให้กำลังใจ ทั้งนี้โจทก์คดีนี้ได้แจ้งความประสงค์ไว้กับเจ้าพนักงานว่าต้องการดำเนินคดีให้ชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการต้องยกเลิกกิจการ รวมถึงค่าเสียโอกาสในอนาคตจากการที่ห้างยกเลิกพื้นที่เช่าของเขา แน่นอนว่าตนย่อมไม่เห็นด้วยกับความไม่เป็นธรรมนี้ และจะขอสู้คดีเพื่อเป็นบทเรียนให้ผู้ประกอบการที่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ขโมยผลงานสร้างสรรค์อันมีลิขสิทธิ์ ทั้งจากหยาดเหงื่อแรงสมองของคนไทยและชาวต่างประเทศ ทำลายอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ตลอดจนทำลายภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยต่อสายตานานาชาติ และไม่น่าจะสำแดงบัญชีอย่างถูกต้องกับระบบภาษีอันเป็นรากฐานสำคัญ
นายพงศ์สุข เผยอีกว่า วันนี้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ในเบื้องต้นให้การปฏิเสธ ซึ่งทางตำรวจได้รวบรวมข้อมูลเพื่อประกอบสำนวนคดี ก่อนที่จะส่งให้อัยการตามขั้นตอนต่อไป
ร.ต.อ.วีรศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ได้เรียกตัว นายพงศ์สุข ให้เข้ามาสอบปากคำประกอบสำนวนในข้อหาหมิ่นประมาท โดยใช้เวลา ประมาณ 40 นาที ก่อนที่นายพงศ์สุขจะเดินทางกลับ.