5 ศาสนาร่วมสวดมนต์มหามงคล
พุทธ-มุสลิม-คริสต์-พราหมณ์-ซิกข์ ร่วมพิธีมหามงคล
เวลา 17.00 น. วันที่ 24 เมษายน 2562 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธานในพิธีพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เพื่อบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ และสวดถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ณ พระลานพระราชวังดุสิต
เมื่อประธานในพิธีเดินทางมาถึงจากนั้น วางพวงมาลัย และจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วเข้าประรำพิธี จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย (ยุคกลาง) ต่อจากนั้น เจ้าหน้าที่กรมการศาสนาอาราธนาศีล สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ประธานสงฆ์ให้ศีล พระสงฆ์ 30 รูป สวดมาติกา จบแล้ว นายกรัฐมนตรีทอดผ้าไตรที่อาสน์สงฆ์แถวหน้า 10 รูป นอกนั้นให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทอดผ้าไตรจนครบ 30 รูป เสร็จแล้ว พระสงฆ์ 30 รูป สดับปกรณ์ เจ้าหน้าที่กรมการศาสนาอาราธนาพระปริตร พระสงฆ์ 30 รูป เจริญพระพุทธมนต์อุทิศถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธี บรมราชาภิเษก พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบ นายกรัฐมนตรี ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ 10 รูป นอกนั้น ให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์จนครบ 30 รูป นายกรัฐมนตรี กรวดน้ำ พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก
ต่อจากนั้น ผู้นำศาสนาอิสลาม จำนวน 30 คน ประกอบพิธีดูอาร์ขอพร ผู้นำศาสนาคริสต์ จำนวน 30 คน ประกอบพิธีอธิษฐานภาวนาขอพร พราหมณ์ จำนวน 30 คน สวดถวายพระพร สังคีตาจารย์ และศาสนาจารย์ศาสนาซิกข์ จำนวน 30 คน สวดกีรตัน และอัรดาสขอพรจากพระศาสดา จบแล้ว นายกรัฐมนตรี ถวายและมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้นำศาสนา 5 ศาสนา นายกรัฐมนตรี กราบที่หน้าเครื่องนมัสการ กราบที่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และพระฉายาลักษณ์ แล้วเดินทางกลับ
การนี้ รัฐบาลได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตจัดพิมพ์หนังสือบทสวดเจริญมหามงคลรวมศาสนา สำหรับมอบแก่ผู้มาร่วมพิธี ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ อักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ฉายกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 มาจัดพิมพ์เป็นภาพปกหนังสือ ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ อัญเชิญพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย (ยุคกลาง) ไปประดิษฐาน ณ ประรำพิธี เพื่อความเป็นสิริมงคล
บรรยากาศบริเวณจุดคัดกรองทั้ง 4 จุด แม้จะมีอากาศและแดดร้อนจัด แต่ก็มีประชาชนทั้งหญิงและชายพร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลืองจำนวนมาก ทะยอยมาต่อแถวเข้าจุดคัดกรองโดยแต่ละคนต่างเตรียมความพร้อมเผชิญกับสภาพอากาศร้อนมาเป็นอย่างดี ทั้งร่ม พัด และน้ำดื่ม
นางรัศมี นครังสุ
ประชาชนจากศาสนาคริสต์ นางรัศมี นครังสุ อายุ 58 ปี ตัวแทนอาสาสมัคร มูลนิธิคริสตจักรเซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนติสแห่งประเทศไทย หรือ เอสดีเอ เดินทางมาจากย่านเอกมัย เผยความรู้สึกที่มีโอกาสได้เข้าร่วมพิธีสำคัญในครั้งนี้ว่า ดีใจและภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง ครั้งนี้ตั้งใจมาขอพรพระผู้เป็นเจ้าให้อวยพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 พระเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์ และประชาชนชาวไทยทุกคนให้มีสุขภาพแข็งแรง ประเทศชาติมั่นคง อีกทั้งยังขอให้ทุกคนรักและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะตามคำสอนของศาสนาคริสต์มีความเชื่อว่าความรักต่อเพื่อนมนุษย์โดยไม่แบ่งเผ่าพันธุ์เป็นเรื่องยิ่งใหญ่
นางประภาพร แย้มจำนงค์
เช่นเดียวกับ นางประภาพร แย้มจำนงค์ ตัวแทนคริสจักรชีวิตใหม่โอเอซีส ในเขตประเวศ บอกว่าครั้งนี้เดินทางมากัน 8 คน ทุกคนรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในพิธีกรรมอันเป็นมงคล ซึ่งนอกจากจะขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์แล้ว ยังจะขอพรให้คนไทยมีความรักความหวังดี ที่สำคัญคือมีความสามัคคีต่อกัน
นางอัตตา กำรติ
นางอัตตา กำรติ อายุ 70 ปี ชาวไทยซิกข์ กล่าวว่าปกติก็จะมีกิจกรรมต่างๆ ที่วัดซิกข์ ที่พาหุรัด อยู่แล้ว ครั้งนี้พวกเราชาวไทยซิกข์มากกว่า 50 คน ได้มาร่วมกันสวดถวายพระพร ก็รู้สึกดีใจเพราะพวกเราเกิดและเติบโตในประเทศไทย รักในสถาบัน ซึ่งบทที่สวดวันนี้คือสวดกีรตัน และอัรดาสขอพรจากพระศาสดา เพื่อให้คนทั่วโลกมีความสุข เพราะพระเจ้าสอนว่าทุกคนเป็นพี่น้องกัน สอนหลักสำคัญไว้ 3 อย่าง คือ การหากินสุจริต เอ่ยพระนามของพระเจ้าอยู่เสมอ และแบ่งปันกัน