บุกม่านรูดยิง'ส.ต.ต.'ดับต่อหน้าหญิงสาว | คมชัดลึก

(14พ.ย.) เวลา 05.50 น. พ.ต.ท.ยุทธศิลป์ กัตตะพันธ์ สารวัตรเวร สภ.เมือง  จ.ลพบุรี รับแจ้งคนร้ายบุกเข้าไปยิงแขกที่มาพักในโรงแรม 555 อยู่เลขที่ 302/318 ม.8 ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบมี พ.ต.ท.ศักดิ์ชัย เกตโกมน รอง ผกก.ป.,พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ วงการค้า สว.ป.สภ.เมืองลพบุรี แล้วรุดไปยังที่เกิดเหตุ
 ที่เกิดเหตุที่ห้องหมายเลข 17 พบกองเลือดภายในห้องและมีร่องรอยสิ่งของกระจัดกระจาย โดนกระสุนปืนแตกกระจาย รวมทั้งทีวีสีภายในห้องก็โดนปืนแตกละเอียด นอกจากนั้นยังพบอาวุธ 9 มม.ตกอยู่ และมีกระสุนที่ยังไม่ได้ยิง 1 นัด และปลอกกระสุน 12 ปลอก ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลลพบุรี ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง

 ตรวจสอบที่โรงพยาบาลลพบุรี ทราบผู้ถูกยิง คือ ส.ต.ต.รณฤทธิ์ จุลประเสริฐ อายุ 23 ปี ตำรวจ สภ.เนินขาม จ.ชัยนาท นักเรียนนายสิบตำรวจ รุ่นที่ 2 จังหวัดสระบุรี ถูกยิงตามกลางหลัง 1 นัด ชายโครงซ้าย 2 นัด สีข้างด้านขวา 2 นัด หัวไหล่ ซ้าย 1 นัด ต้นขาขวา 1 นัด ต้นขาซ้าย 1 นัด และเสียชีวิตเวลาต่อมา

 สอบสวนพนักงานโรงแรม ทราบว่า เมื่อเวลา 05.30 น.วันเดียวกัน ผู้ตายขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าสีดำ เลขทะเบียน กฉ 5019 ลบ มาพร้อมกับหญิงสาว และมาขอเปิดห้องชั่วคราว ที่ห้องหมายเลข 17 จากนั้นประมาณสัก 10 นาที มีชาย 2 คน ขี่จยย.แบบหญิงยี่ห้อฮอนด้าเวฟ โดยทั้ง 2 คน แต่งกายคล้ายกัน คือนุ่งกางเกงยีนส์ สวมเสื้อเจ๊กเก็ตสีดำ และสวมหมวกกันน๊อค เหมือนทั้ง 2 คน
 จากนั้นคนร้ายได้จอดจักรยานยนต์ไว้ที่หน้าห้อง แล้วทั้ง 2 คน ก็เดินเข้าไปเคาะประตู ภายหลังผู้พักอาศัยเปิดประตูออกมามือปืนได้ยิงเข้าไปภายในห้อง ก่อนที่จะหลบหนีไป จากนั้นหญิงสาวที่มากับ ส.ต.ต.รณฤทธิ์ ได้นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลลพบุรีเพื่อรักษาตัว จากการสอบปากคำหญิงสาวที่มากับส.ต.ต.รณฤทธิ์  ให้การว่า ไปเที่ยวกับ ส.ต.ท.รณฤทธิ์ ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในจ.ลพบุรี ภายหลังจากสถานบันเทิงเลิก ก็ไปรับประทานข้าวต้มต่อในกลางตัวเมืองจ.ลพบุรี แต่ไม่เห็นส.ต.ต.รณฤทธิ์ มีเรื่องกับใคร หลังรับประทานอาหารกันแล้วจึงได้พากันเข้าโรงแรมกระทั่งที่มีคนร้ายบุก เข้ามายิงดังกล่าว

 เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนหาข่าวกลุ่มเพื่อนๆผู้ตาย ซึ่งมาดูศพส.ต.ต.รณฤทธิ์ ระบุว่าผู้ตายเคยเปรยว่าไปมีเรื่องกับชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งผู้ตายก็รู้ตัวดีและระวังตัวอยู่ โดยชนวนเหตุเบื้องต้นที่เจ้าหน้าที่ให้น้ำหนักน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว