จับรถไปรษณีย์ไทยขนต่างด้าว
บิ๊กอู๊ด แถลงจับอดีตพนักงานขับรถบริษัทไปรษณีย์ไทย - เมียนมา ลักลอบขนแรงงานต่างด้าว
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2562 ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.รัชธพงษ์ เตี้ยสุด ผกก.สส.บก.ตม.3 พ.ต.ท.ปริวัฒน์ สัจจาพันธ์ สวญ.ตม.จว.สมุทรสงคราม และตำรวจ บก.สตม. ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนขยายผลกรณีรถไปรษณีย์ขนแรงงานต่างด้าวพบสาวเมียนมาเป็นผู้ร่วมขบวนการ
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลเรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการกวดขันจับกุมการลับลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศ รวมถึงขยายผลในการจับกุมขบวนการที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการค้ามนุษย์ในประเทศ ทาง สตม. ได้สืบสวนจนสามารถจับกุมขบวนการขนแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาในเขตพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม
พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2562 เวลาประมาณ 20.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายธนาชัย มั่งทิม อายุ 34 ปี พนักงานขับรถบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ปัจจุบันถูกไล่ออกแล้ว ได้ลักลอบใช้รถยนต์บรรทุกของบริษัทไปรษณีย์ไทยขนแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 13 คน นำส่ง สภ.รัตภูมิ ดำเนินคดี
จากการสอบสวนขยายผลนายธนาชัย ทำให้ทราบข้อมูลว่า มีบุคคลที่เคยติดต่อส่งแรงงานในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม อยู่หลายครั้ง ทาง ตม.จว.สมุทรสงคราม จึงได้ประสานข้อมูลกับชุดจับกุม และส่งข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าว สัญชาติเมียนมาในพื้นที่ไปให้นายธนาชัยดู และมีการยืนยันชี้ภาพว่า นางเอ นามสมมติ (ขอสงวนชื่อสกุลจริง) รู้จักกับคนที่นำแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมามาส่ง จึงขออนุมัติจับกุมจากศาลจังหวัดสงขลา
พล.ต.ต.อาชยน กล่าวอีกว่า ต่อมาในวันที่ 4 ก.ค. 2562 เวลาประมาณ 11.30 น. ตม.จ.สมุทรสงคราม ได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจับกุม นางเอ อายุ 37 ปี สัญชาติเมียนมา ตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ที่ 343/2562 ลงวันที่ 17 มิ.ย. 2562 โดยกล่าวหาว่า “สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ฯ ร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย , ร่วมกันทำให้บุคคล ต่างด้าว ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายให้เข้าพักอาศัยซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าว พ้นจากการจับกุม , เป็นอั้งยี่ ซ่องโจร และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”
จากการตรวจค้นบ้านของนางเอ พบบัญชีเงินฝากในชื่อลูกสาว มีเงินหมุนเวียนในแต่ละปี 1 - 4 ล้านบาท จากการตรวจสอบยังทราบอีกว่านางเอเข้ามาอยู่ในประเทศกว่า 20 ปี สามารถพูดสื่อสารภาษาไทยได้ชัดเจน ซึ่งจะได้ทำการตรวจสอบและขยายผลตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ทาง สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิด คนต่างด้าวในด้านต่างๆ รวมถึงการค้ามนุษย์ในทุกรูปแบบ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th