เปิดแผนปฎิบัติการอุดรูรั่วสกัดโรฮิงญา-พม่าลอดรั้วไทย-มาเลย์
โดย... สมชาย สามารถ
หลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ เชิญนายอำเภอและผกก.สภ.ในพื้นที่ 6 อำเภอ จ.สงขลา ประกอบด้วย อ.หาดใหญ่, สะเดา, รัตภูมิ, ควนเนียง, บางกล่ำ, และคลองหอยโข่ง รวมถึงกองกำกับการตำรวจภูธร จ.สงขลา, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5, และกองกกำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา เข้าร่วมประชุม“ซักซ้อมแนวทางและมาตรการการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่ จ.สงขลา” เพื่อสกัดการใช้พื้นที่เป็นสถานที่พักและลำเลียงต่างด้าวไปยังประเทศเพื่อนบ้าน (มาเลเซีย) โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ปลายทาง อ.สะเดา ซึ่งมีช่องทางธรรมชาติจำนวนหลายจุดที่กลุ่มขบวนการใช้เป็นช่องทางการลำเลียงต่างด้าวไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ชวกิจจ์ สุวรรณคีรี
นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา เปิดเผย “ผู้สื่อข่าว” ผลการจับกุมของทุกหน่วยใน อ.สะเดารวมทั้งสิ้น 302 คน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.61 จนถึงเดือนก.ค. “มีการประชุมศูนย์ป้องกันการค้ามนุษย์ ที่ อ.สะเดา โดยเฉพาะฝ่ายปกครองได้ สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีการตรวจสอบในพื้นที่” ซึ่งในพื้นที่อ.สะเดา มีพื้นที่ๆ จะต้องมีการตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดจะแบ่งออกเป็น 2 พื้นที่ คือ พื้นที่เขตป่ากับพื้นที่เขตเมือง โดยในพื้นที่เขตเมืองมีการจัดชุดเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงที่จะมีการค้ามนุษย์ไม่ว่าจะเป็นสถานบริการ สถานประกอบการ โรงแรม ร้านอาหาร โรงงานอุตสาหกรรม เข้าไปตรวจสอบ แนะนำ ทำความเข้าใจ โดยเฉพาะพื้นที่ๆ เป็นพื้นที่รอยต่อในเขตป่าก็จะมีอยู่ 2-3 ตำบลที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบด้วย ต.ปาดังเบซาร์, ต.สำนักแต้ว, เป็นต้น ซึ่งทราบว่าแรงงานต่างด้าวเมื่อหลบหนีเข้าเมืองมาแล้วก็จะไปพักอยู่ในป่าสวนยาง
“เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบก็จะมีร่องรอยการพักในป่าสวนยาง จากการสอบถามเขาบอกว่าเขานั่งรถมา 2 ชั่วโมงครึ่ง ที่เจ้าหน้าที่ไปจับกุมวันที่ 3 และ 4 ก.ค.และถูกนำมาพักไว้ที่ป่าสวนยางประมาณ 15 นาที ก่อนเจ้าหน้าที่ไปถึง” ก็เป็นไปได้มาการเดินทางจะมาทางถนนสายปกติ ถ.กาญจนวนิช ที่จะเข้าอ.สะเดา และอีกทางก็จะมาทางพื้นที่ป่าธรรมชาติ มาพักไว้เพื่อรอจังหวะที่เหมาะๆ ส่งต่อไปประเทศเพื่อนบ้าน
นอกจากนี้ทางอำเภอยังมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้งตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ในการเข้าตรวจสอบรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย พบว่าโดนตัดตลอด“ โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.สำนักขาม จะมีการตัดรั้วขนาดสำหรับคนลอดได้จำนวน 6 จุด และต.ปาดังเบซาร์อีก 3 จุด รวมทั้งสิ้น 6 จุดที่เจ้าหน้าเข้าไปดำเนินการ” ซึ่งขณะนี้ได้มีการนำลวดหนามแบบหีบเพลงไปปิดไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังลาดตระเวนสำรวจพื้นที่ตลอด เพื่อเป็นการป้องกันอีกทางหนึ่ง
พ.ต.ท.ถาวร ผลกล้า รองผกก.ป.สภ.สะเดา กล่าวว่า สำหรับการจับกุมของ สภ.สะเดา ตั้งวันที่ 21 มิ.ย.62 จนถึง วันที่ 7 ก.ค.62 มีการควบคุมได้ทั้งหมด 10 ครั้งมีเมียนมาร์ 130 คน แยกเป็นชาย 117 คน เป็นหญิง 13 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการซักถามและคัดแยกเหยื่อ ซึ่งผลจาการซักถามของเจ้าหน้าที่ชาวเมียนมาร์ทั้งหมดเดินทางมาจาก จ.ระนอง “ปลายทางออกการเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านคือ บ้านด่านนอก อ.สะเดา ผ่านช่องทางธรรมชาติที่มีการตัดรั้วจำนวน 6 จุด ซึ่งขณะทางหน่วยงานในพื้นที่ๆ เกี่ยวข้องได้ร่วมกันปิดช่องทางดังกล่าว”
วีรนันทน์ เพ็งจันทร์
พร้อมทั้งติดป้ายห้ามเข้าในเขตพื้นที่ และการติดตั้งตู้แดง เพื่อให้สายตรวจและทุกส่วนเข้าไปตรวจเพื่อเพิ่มความเข้มในการตรวจเส้นทางเลียบรั้วชายแดนรวมถึงความร่วมมือของประชาขนในพื้นที่ ชาวสวนยาง ที่แจ้งข้อมูลมายังทุกหน่วยในพื้นที่ ฉะนั้นมาตรการต่างของหน่วยที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อ.สะเดาตอนนี้มีการบูรณาการการทำงานอย่างเข้มแข็ง “สิ่งที่สะท้อนถึงมาตาการที่เข้มงวดในการปราบปราม ทำให้มีมีการจับกุมได้อย่างต่อเนื่อง เกิดจากมีการปิดทางออกที่เป็นทางธรรมชาติของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่” รองผกก.ป.สภ.สะเดา กล่าว