ยกฟ้อง "สนธิญาณ-สกลธี"-2 แกนนำกปปส.พ้นผิดข้อกล่าวหาร่วมกบฏ
พิพากษายกฟ้อง " 4 กปปส." สำนวนแรก ชี้ หลักฐานโจทก์ นำสืบฟังได้แค่ว่าร่วมชุมนุม ไม่ใช่แกนนำสั่งการ
25 ก.ค.62 - พิพากษายกฟ้อง " 4 กปปส." สำนวนแรก ชี้ หลักฐานโจทก์ นำสืบฟังได้แค่ว่าร่วมชุมนุม ไม่ใช่แกนนำสั่งการ ส่วนศาล รธน.เคยวินิจฉัยแล้วชุมนุม กปปส.ชุมนุมการเมืองแสดงออกตาม ม.63 คัดค้านก.ม.นิรโทษกรรม ไม่พอใจบริหารราชการแผ่นดิน
ที่ห้องพิจารณา 701 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.30 น. ศาลอ่านพิพากษาคดีกบฎ กปปส.สำนวนแรก หมายเลขดำ อ.1191/2557
, อ.1298/2557 , อ.1328/2557 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง "นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม" อายุ 57 ปี แกนนำ กปปส. , "นายสกลธี ภัททิยกุล" อายุ 42 ปี อดีต ส.ส.กทม.ร่วมชุมนุม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. , "นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์" อายุ 68 ปี อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และอดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง และสภาปฏิรูปการเมือง (สปช.) และ "นายเสรี วงศ์มณฑา" อายุ 70 ปี นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด เป็นจำเลยที่ 1- 4 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ , กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดที่ไม่ใช่การกระทำในความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ , อั้งยี่ , ซ่องโจร , มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ , เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการกระทำนั้นแต่ไม่เลิก, ยุยงให้ร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างเพื่อบังคับรัฐบาล , ร่วมกันบุกรุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 , 116, 117, 209, 210, 215, 362, 364, 365 และร่วมกันขัดขวางเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง , ร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติงานของ กกต. ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มา ซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 มาตรา 76 ,152 รวม 8 ข้อหา
โดยคดีสำนวนแรกนี้ อัยการยื่นฟ้อง ตั้งแต่ปี 2557 กรณีสืบเนื่องจากการร่วมชุมนุมกันของ กปปส.ที่มีนายสุเทพ เป็นผู้นำการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 56 – 1 พ.ค.57 ซึ่งมีการพาผู้ชุมนุมบุกรุกปิดสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งท้ายคำฟ้องอัยการโจทก์ยังได้ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของจำเลยด้วยมีกำหนด 5 ปี
ขณะที่จำเลยทั้ง 4 รายให้การปฏิเสธทุกข้อหาพร้อมตั้งทนายความสู้คดี ระหว่างพิจารณาคดีจำเลยทั้งสี่ก็ได้รับการปล่อยชั่วคราว ซึ่งคดีเริ่มสืบพยานตั้งแต่ปี 2558-2562
และวันนี้ จำเลยทั้งสี่มาศาลพร้อมฟังคำพิพากษา โดยมี "นายสุเทพ" อดีตเลขาธิการ กปปส. กลุ่มแกนนำ กปปส. ที่ถูกฟ้องอีกสำนวน และพระพุทธอิสระที่วันนี้ห่มจีวรนั่งรถเข็นมา รวมทั้งคนใกล้ชิดกว่า 60 คน มาร่วมให้กำลังใจในการฟังคำพิพากษาด้วย
ด้าน " นายสุเทพ" อดีตเลขาธิการ กปปส. ที่เดินทางมาให้กำลังใจ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ศาลนัดอ่านคำพิพากษา ซึ่งพวกเราถูกฟ้องเนื่องจากการชุมนุมต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมและรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 2556-2557 จำเลยชุดแรกมีจำนวน 4 คน คือ นายสนธิญาณ , นายสกลธี, นายสมบัติ และ นายเสรี ซึ่งอัยการยื่นฟ้องคดีก่อน ก็แยกเป็นคนละสำนวนคดีกับที่ฟ้องพวกตนอีก 30 กว่าคน และคดีนี้ได้ต่อสู้คดีกันมานานกว่า 4 ปีแล้วในฐานะผู้ร่วมอุดมการณ์ ตนจึงเดินทางมาเป็นกำลังใจให้แกนนำทั้ง 4 คน
ทั้งนี้คดี "ศาล" พิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์-จำเลย นำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานที่อัยการโจทก์นำสืบมารับฟังได้เพียงว่าจำเลยทั้ง 4 รายได้เข้าร่วมชุมนุม กับกปปส. แต่ไม่ได้เป็นแกนนำที่สั่งการผู้ชุมนุมหรือขึ้นปราศรัยสั่งการให้กระทำการรุนแรง
โดยการชุมนุมของ กปปส.ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้วินิจฉัยไว้แล้วในคำวินิจฉัยที่ 59/2556 ว่าการชุมนุมของกปปส. สืบเนื่องมาจากการแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 63 ซึ่งสืบเนื่องจากเหตุที่คัดค้านการออกร่างกฎหมายนิรโทษกรรมและไม่พอใจการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่ง เป็นการชุมนุมทางการเมืองโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการปฏิรูปก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง
พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาจึงยังไม่พอฟังได้ว่าจำเลยทั้งสี่ได้กระทำความผิดตามฟ้องทั้ง 8 ข้อหา จึงพิพากษายกฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนคดีชุมนุม กปปส.ชุดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อายุ 70 ปี อดีตเลขาธิการ กปปส. และประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) กับอดีตแกนนำ กปปส. และแนวร่วม รวมทั้งสิ้น 32 คน ที่รวมพิจารณา 5 สำนวน ในคดีหมายเลขดำ อ.247/2561 , อ.832/2561, อ.1185/2561, อ.491/2562 , อ.791/2562 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้อง 8 ข้อหาเช่นเดียวกัน โดย "นายสุเทพ" อดีตเลขาธิการ กปปส. กับ "นายชุมพล จุลใส" ถูกฟ้องเพิ่มอีกข้อหาฐานก่อการร้าย ตามมาตรา 135/1 นั้น ซึ่งจำเลยทั้งหมดได้รับการประกันตัวคนละ 600,000 บาท พร้อมมีเงื่อนไขห้ามออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล โดยคดีแกนนำ กปปส.ชุดนี้ อยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์โดยเริ่มนัดแรกเมื่อวันที่ 14 พ.ค.62 ที่ผ่านมา ซึ่งศาลให้สืบพยานต่อเนื่องทุกสัปดาห์
โดยการดำเนินคดีชุมุุม กลุ่ม กปปส.นั้น ยังเหลือผู้ต้องหาที่รอส่งตัวอีก 10 กว่าคน อาทิ นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำ พธม. , นายนิติธร ล้ำเหลือ , น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ปัจจุบันเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์