ข่าว

เตือน น้ำพริกหนุ่ม 7 ยี่ห้อ มีสารกันบูดเกินมาตรฐาน

เตือน น้ำพริกหนุ่ม 7 ยี่ห้อ มีสารกันบูดเกินมาตรฐาน

04 ส.ค. 2562

เชียงใหม่ - คมข่าวทั่วไทย

 

                เมื่อเร็วๆนี้ นิตยสารฉลาดซื้อ โดยมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ออกมาแถลงข่าว เปิดเผยการสุ่มตรวจหาสารกันบูดในน้ำพริกหนุ่ม อาหารเหนือยอดนิยม ทั้ง 17 ยี่ห้อ พบ 7 ยี่ห้อใช้สารกันบูดเกินมาตรฐาน ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 389 พ.ศ. 2561 เรื่องวัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่5) ได้อนุญาตให้ตรวจพบปริมาณสูงสุดของวัตถุกันเสียประเภทกรดเบนโซอิก (Benzoic Acid) ไว้ไม่เกิน 500 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักอาหาร 1 กิโลกรัม และวัตถุกันเสียประเภทกรดซอร์บิก (Sorbic Acid) ไว้ไม่เกิน 1000 มก.ต่อกก.ในหมวดอาหารประเภทเครื่องปรุงรส เช่น น้ำพริกพร้อมบริโภค น้ำพริกสำหรับคลุกข้าวน้ำพริกกะปิ

 

 

 

                ผลตรวจสอบพบว่า ส่วนกลุ่มที่ตรวจพบปริมาณสารกันบูดแต่ไม่เกินมาตรฐานมีจำนวน 8 ตัวอย่าง ได้แก่ 1.น้ำพริกหนุ่มแม่ศรีนวลจากร้านขายของฝากสามแยกเด่นชัย จ.แพร่ พบปริมาณกรดเบนโซอิกเท่ากับ 30.67 มก.ต่อกก. 2.น้ำพริกหนุ่มมารศรีสูตรดั้งเดิมจากตลาดสดแม่ต๋ำ จ.พะเยา พบปริมาณกรดเบนโซอิกเท่ากับ 36.92 มก.ต่อกก. 3.น้ำพริกหนุ่มแม่มารศรี (น้ำพริกหนุ่ม-ปลาร้า) จากร้านปะเลอะเยอะแยะของฝาก จ.เชียงราย  พบปริมาณกรดเบนโซอิกเท่ากับ 41.73 มก.ต่อกก. 4.น้ำพริกหนุ่มป้าแอ็ดของฝากจากเดอะโคโค่นครลำปางจากร้านป้าแอ็ดของฝากเมืองลำปาง พบปริมาณกรดเบนโซอิกเท่ากับ 387.38 มก.ต่อกก. 

                5.น้ำพริกหนุ่มศุภลักษณ์รสเผ็ดมากจากตลาดสดแม่ต๋ำ จ.พะเยา พบปริมาณกรดเบนโซอิกเท่ากับ 51.92 มก.ต่อกก. และกรดซอร์บิกเท่ากับ 338.17 มก.ต่อกก. 6.น้ำพริกหนุ่มอำพันจากร้านข้าวแต๋นของฝากลำปางพบปริมาณกรดเบนโซอิกเท่ากับ 435.29 มก.ต่อกก. 7.น้ำพริกหนุ่มอุ้ยแก้วจากตลาดสดแม่ต๋ำ จ.พะเยา พบปริมาณกรดเบนโซอิกเท่ากับ 437.27 มก.ต่อกก. 8.น้ำพริกหนุ่มนันทวันเจียงฮายสูตรดั้งเดิมจากร้านนันทวัน จ.เชียงราย พบปริมาณกรดเบนโซอิกเท่ากับ 455.80 มก.ต่อกก.

 

 

เตือน น้ำพริกหนุ่ม 7 ยี่ห้อ มีสารกันบูดเกินมาตรฐาน

 

 

                สำหรับกลุ่มที่ตรวจพบสารกันบูดเกินมาตรฐานมีจำนวน 7 ตัวอย่าง ได้แก่ 1.น้ำพริกหนุ่มร้านดำรงค์จากตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ พบปริมาณกรดเบนโซอิกเท่ากับ 890.32 มก.ต่อกก. 2.น้ำพริกหนุ่มล้านนาจากตลาดของฝากเด่นชัย จ.แพร่ พบปริมาณกรดเบนโซอิกเท่ากับ 1026.91 มก.ต่อกก. 3.น้ำพริกหนุ่มนิชา (เจ๊หงษ์น้ำพริกหนุ่ม) จากตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ พบปริมาณกรดเบนโซอิกเท่ากับ 1634.20 มก.ต่อกก.

                4.น้ำพริกหนุ่มเจ๊หงษ์จากตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ พบปริมาณกรดเบนโซอิกเท่ากับ 1968.85 มก.ต่อกก. 5.น้ำพริกหนุ่มแม่ชไมพรจากตลาดสดอัศวินร้านสิริกรของฝาก จ.ลำปาง พบปริมาณกรดเบนโซอิกเท่ากับ 2231.82 มก./กก. 6.น้ำพริกหนุ่มยาใจ (รสเผ็ด) จากร้านขายของฝากสามแยกเด่นชัย จ.แพร่ พบปริมาณกรดเบนโซอิกเท่ากับ 3549.75 มก.ต่อกก. 7.น้ำพริกหนุ่มอุมาจากตลาดสดแม่ต๋ำ จ.พะเยา พบปริมาณกรดเบนโซอิกเท่ากับ 5649.43 มก.ต่อกก.

 

 

 

                ดร.แก้ว กังสดาลอำไพ กองบรรณาธิการ นิตยสารฉลาดซื้อ เปิดเผยว่า สำหรับสารกันบูดประเภทที่พบในน้ำพริกหนุ่มเป็นกรดเบนโซอิก พบว่ามี 7 ยี่ห้อที่เกินมาตรฐาน ซึ่งหากร่างกายได้รับกรดเบนโซอิกมากเกินไป  จะทำให้เกิดอาการถ่ายท้อง เนื่องจากกรดตัวนี้มีหน้าที่ทำลายแบคทีเรีย ซึ่งอาจไปทำลายแบคทีเรียดีในลำไส้ จนทำให้แบคทีเรียไม่ดีทำงานเกิดอาการถ่ายท้อง และหากผู้ที่มีอาการแพ้ก็จะเกิดเป็นผื่นแดง ถ้าสะสมในร่างกายมากเกินไปจะเสี่ยงเป็นโรคไต เพราะสารพวกนี้จะทำให้ไตทำงานหนัก

 

 

เตือน น้ำพริกหนุ่ม 7 ยี่ห้อ มีสารกันบูดเกินมาตรฐาน

 

 

                จากตัวอย่างที่พบส่วนใหญ่จะเป็นน้ำพริกหนุ่มที่บรรจุอยู่ในโหลแก้ว ที่มีการซีลพลาสติกปิดไว้อย่างดี ส่วนที่เป็นถุงหมัดหนังยางพบได้น้อยมาก ซึ่งในทางกระบวนการผลิตเราก็ไม่ได้ไปตรวจสอบ สำหรับยี่ห้อที่มีโรงงานใหญ่แทบจะไม่เกินมาตรฐานอาจเป็นเพราะมีผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร หรือนักวิทยาศาสตร์การอาหารคอยควบคุมดูแล แต่ที่เป็นโรงงานขนาดเล็กอาจยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์การอาหารคอยควบคุมดูแล จึงทำให้ใส่เกินมาตรฐาน

                “อยากจะแนะนำว่าจริงๆแล้วน้ำพริกหนุ่มไม่ต้องใช้สารกันบูด เพราะถ้าหากวัตถุดิบมีความสะอาด กระบวนการผลิตต่างๆมีความสะอาด ก็จะสามารถเก็บได้นาน และบนฉลากควรใส่วันผลิตไว้ด้วย อย่าใส่แต่วันหมดอายุ เพราะถ้ารู้วันผลิตคำนวณหรือคาดการณ์คุณภาพอาหารได้ดีกว่า และประชาชนที่ชอบกินแต่ไม่อยากเจอสารกันบูด ควรทำกินเองเพราะน้ำพริกหนุ่มทำได้เองไม่ยาก วิธีการทำในสื่อออนไลน์ก็มีเยอะ เลือกตามสูตรที่ชอบได้เลย” ดร.แก้ว กล่าว