สหรัฐเล็งเปิดชื่อจนท.ซาอุฯคนสำคัญสงสัยเอี่ยววินาศกรรม 9/11  | คมชัดลึก

 

หลังถูกกดดันมานานหลายปีจากครอบครัวเหยื่อในเหตุวินาศกรรม  11 กันยายน 2544  ในที่สุด  สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ  ได้ตัดสินใจลดชั้นความลับ “ชื่อ”ของเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มอัลกออิดะห์   

บุคคลที่เอ่ยถึง เป็นเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียคนที่ 3 ซึ่งถูกพาดพิงในรายงานสอบสวนของเอฟบีไอ ว่า อาจมีส่วนช่วยเหลือสลัดอากาศบางคนหลังเดินทางเข้าสหรัฐ 

 

การก่อการร้ายนองเลือดที่สุดบนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา 18 ปีก่อน เป็นฝีมือของชาย 19 คน จำนวนนี้เป็นชาวซาอุดีอาระเบียถึง 15 คน จี้บังคับเครื่องบินโดยสาร 4 ลำ พุ่งชนตึกเวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์ ในนิวยอร์ก และอาคารเพนตากอน นอกจากนี้ ทำเนียบขาวหรืออาคารรัฐสภาก็อาจเป็นเป้าหมายด้วยในวันนั้นด้วย 

 

การโจมตีครั้งนั้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในนิวยอร์ก เพนซิลเวเนีย และวอชิงตันเกือบ 3,000 คน  ครอบครัวเหยื่อเหล่านั้นได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย  หลังจากรายงานสอบสวนอย่างเป็นทางการในปี 2545 ระบุว่าสลัดอากาศบางคนได้รับทุนจากเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบีย และมี“อย่างน้อย 2 คน” เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองซาอุฯ  

 

มีการเอ่ยชื่อในเวลานั้นว่า ฟาฮัด อัล ทูไมรี กับ โอมาร อัล บายูมี ทั้งสองทำงานอยู่ในสถานทูตสหรัฐประจำซาอุดีอาระเบีย  แม้ผลสอบสวนในเวลาต่อมาไม่พบว่า ทั้งสองเกี่ยวข้องกับสลัดอากาศ  แต่ในรายงานของเอฟบีไอปี 2555 ที่มีการตัดทอนบางส่วน  ย้ำข้อกล่าวหาเดิม ทั้งอ้างถึง “บุคคลที่สาม” ว่าเป็นผู้สั่งการสองคนนี้ แต่ปิดบังชื่อไว้ จากนั้นก็ลือกันเรื่อยมาว่าบุคคลปริศนาเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย  

 

รัฐบาลวอชิงตันและซาอุฯ ยังคงปิดเรื่องนี้เป็นความลับ ขณะร่วมมือกันกวาดล้างเครือข่ายอัลกออิดะห์ในเอเชียใต้และตะวันออกกลาง 

 

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ระบุว่าเอฟบีไอตระหนักความจำเป็นและความปรารถนาของครอบครัวเหยื่อ ที่ต้องการรู้ว่าเหตุใดจึงสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก และต้องการให้คนเหล่านั้นรับโทษตามกระบวนการ  

 

อย่างไรก็ดี กระทรวงยุติธรรมจะเผยชื่อเจ้าหน้าที่ซาอุฯคนที่สาม ให้กับทนายโจทก์ก่อน ภายใต้คำสั่งคุ้มครองห้ามเปิดเผยต่อสาธารณะ จึงหมายความว่า ชื่อของบุคคลคนนี้จะยังเป็นความลับไปอีกระยะหยึ่ง กระนั้นก็ถือเป็นชัยชนะเล็กๆของครอบครัวญาติเหยื่อ 

 

เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ บอกเป็นนัยว่า บุคคลดังกล่าวอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มอัลกออิดะห์ที่โจมตีสหรัฐ  ข้อมูลที่พาดพิงถึงเจ้าหน้าที่ซาอุฯ เป็นข้อสันนิษฐานในทางสืบสวนของเอฟบีไอในเวลานั้นเท่านั้น