ศาลอุทธรณ์สั่งทายาทหญิงซัมซุงจ่าย 360 ล้านค่าหย่าสามี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้ลูกสาวผู้ก่อตั้งซัมซุง แบ่งสมบัติสามีเพิ่มจากที่ศาลชั้นต้นสั่ง
ความคืบหน้าคดีที่ นางอี บู จิน ซีอีโอกลุ่มโรงแรมชิลลา และบุตรสาวคนโตของนายอี คอน ฮี ประธานซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ แห่งเกาหลีใต้ ฟ้องหย่าอดีตสามีนายอิม อู แช เดินทางมาถึงศาลอุทธรณ์แล้วเมื่อวาน โดยศาลมีคำพิพากษาให้อี บูจิน แบ่งสมบัติอดีตสามีจำนวน 1.41 หมื่นล้านวอน ( ราว 360 ล้านบาท ) ซึ่งเป็นจำนวนทรัพย์สินที่เพิ่มจากที่ศาลชั้นต้นสั่งจ่ายจาก 8,600 ล้านวอน
ผู้พิพากษา ระบุว่า เมื่อพิจารณาจากหลายปัจจัย รวมถึงมูลค่าสินทรัพย์ของอี บู จิน ที่เพิ่มขึ้นมาในช่วง 2 ปี การแบ่งทรัพย์สินในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจาก 15 % เป็น 20% จึงสมเหตุสมผล นอกจากนี้ ศาลยังสั่งให้อดีตสามี ไปเยี่ยมลูกได้ เพิ่มจากเดือนละครั้ง เป็นเดือนละสองครั้ง โดยให้เหตุผลว่า เป็นสิทธิของเด็กที่จะเติบโตด้วยสุขภาวะทางจิตใจ ได้รับความรักจากทั้งพ่อและแม่
ทายาทหญิงซัมซุงฟ้องหย่าอดีตสามี ในปี 2557 เพื่อยุติชีวิตแต่งงาน 15 ปี เพราะความขัดแย้งที่ไม่อาจรอมชอมกันได้
ต่อมา อดีตสามีได้ยื่นฟ้องแบ่งสมบัติ 1.2 ล้านล้านวอน ( กว่า 3.6 หมื่นล้านบาท ) จากทรัพย์สินที่มีทั้งหมด 2.5 ล้านล้านวอน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นการฟ้องคดีสินสมรสที่มีวงเงินสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศนี้
ในเดือนกรกฎาคม 2560 ศาลครอบครัวโซลอนุมัติการหย่า และให้ผู้เป็นแม่ได้รับสิทธิดูแลลูกชายวัย 7 ขวบในเวลานั้นแต่เพียงผู้เดียว โดยอนุญาตให้พ่อเยี่ยมได้เดือนละครั้ง นอกจากนี้ ยังสั่งอดีตภรรยาแบ่งสมบัติสามี 8,600 ล้านวอน นายอิมจึงยื่นอุทธรณ์ แต่การพิจารณาคดีในชั้นนี้หยุดชะงักไปราว 1 ปีครึ่ง เนื่องจากอดีตสามีไม่ไปศาล ทนายของเขาอ้างว่าสาเหตุจากครอบครัวซัมซุง
การแต่งงานแบบขัดใจผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเมื่อ 20 ปีก่อน กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ และถูกเรียกขานว่าเป็น "ซิลเดอเรลลาเวอร์ชั่นบุรุษ" โดยฝ่ายชายเป็นพนักงานธรรมดาของบริษัทในเครือซัมซุง พบรักกับลูกสาวท่านประธาน ระหว่างทำกิจกรรมอาสาสมัครของมูลนิธิซัมซุง เมื่อปี 2538 ก่อนแต่งงานใน 4 ปีต่อมา
หลังแยกทาง นายอิม ซึ่งเข้าไปเป็นสมาชิกของตระกูลลีเพียงคนเดียวที่ไม่ได้มาจากตระกูลแชโบล หรือกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ข้อมูลที่ว่า เขาเริ่มทำงานในซัมซุงเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่ซัมซุงกุขึ้น ที่จริงเริ่มจากการเป็นบอดี้การ์ดของประธานบริษัท อี คอน ฮี ทั้งเผยว่าหลังแต่งงานแล้ว
อดีตลูกเขย กล่าวว่า พ่อตาส่งไปเรียนต่อในสหรัฐอเมริกา ทั้งที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ และรู้สึกถูกกดดันมากจนเคยพยายามฆ่าตัวตายสองครั้ง อย่างไรก็ดี หลังจากร่ำเรียนจบปริญญาโทที่สถาบันเทคโนโลยีแมตซาชูเสตส์ และกลับมาเกาหลีใต้อีกครั้งในปี 2548 ได้เข้าทำงานที่ซัมซุงและขึ้นนั่งเก้าอี้รองประธานซัมซุง อิเล็กทรอ-เมคแคนิกส์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.เริ่มสอบหลังสื่อตีข่าวทายาทซัมซุงใช้ยาโปรโพฟอลผิดกฎหมาย
ซัมซุงเฮทายาทรุ่น 3 พ้นคุกคดีสินบน