ข่าว

ศาลอุทธรณ์สั่งทายาทหญิงซัมซุงจ่าย 360 ล้านค่าหย่าสามี 

ศาลอุทธรณ์สั่งทายาทหญิงซัมซุงจ่าย 360 ล้านค่าหย่าสามี 

27 ก.ย. 2562

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้ลูกสาวผู้ก่อตั้งซัมซุง แบ่งสมบัติสามีเพิ่มจากที่ศาลชั้นต้นสั่ง



ความคืบหน้าคดีที่ นางอี บู จิน ซีอีโอกลุ่มโรงแรมชิลลา และบุตรสาวคนโตของนายอี คอน ฮี ประธานซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ แห่งเกาหลีใต้  ฟ้องหย่าอดีตสามีนายอิม อู แช  เดินทางมาถึงศาลอุทธรณ์แล้วเมื่อวาน โดยศาลมีคำพิพากษาให้อี บูจิน แบ่งสมบัติอดีตสามีจำนวน 1.41 หมื่นล้านวอน ( ราว 360 ล้านบาท ) ซึ่งเป็นจำนวนทรัพย์สินที่เพิ่มจากที่ศาลชั้นต้นสั่งจ่ายจาก 8,600 ล้านวอน 

 

 

ผู้พิพากษา ระบุว่า เมื่อพิจารณาจากหลายปัจจัย รวมถึงมูลค่าสินทรัพย์ของอี บู จิน ที่เพิ่มขึ้นมาในช่วง 2 ปี การแบ่งทรัพย์สินในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจาก 15 % เป็น 20%  จึงสมเหตุสมผล นอกจากนี้ ศาลยังสั่งให้อดีตสามี ไปเยี่ยมลูกได้ เพิ่มจากเดือนละครั้ง เป็นเดือนละสองครั้ง โดยให้เหตุผลว่า เป็นสิทธิของเด็กที่จะเติบโตด้วยสุขภาวะทางจิตใจ ได้รับความรักจากทั้งพ่อและแม่ 

 


ทายาทหญิงซัมซุงฟ้องหย่าอดีตสามี ในปี 2557 เพื่อยุติชีวิตแต่งงาน 15 ปี เพราะความขัดแย้งที่ไม่อาจรอมชอมกันได้ 

 


ต่อมา อดีตสามีได้ยื่นฟ้องแบ่งสมบัติ  1.2 ล้านล้านวอน ( กว่า 3.6 หมื่นล้านบาท ) จากทรัพย์สินที่มีทั้งหมด 2.5 ล้านล้านวอน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นการฟ้องคดีสินสมรสที่มีวงเงินสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศนี้

 

 

ศาลอุทธรณ์สั่งทายาทหญิงซัมซุงจ่าย 360 ล้านค่าหย่าสามี 

 


ในเดือนกรกฎาคม 2560 ศาลครอบครัวโซลอนุมัติการหย่า และให้ผู้เป็นแม่ได้รับสิทธิดูแลลูกชายวัย 7 ขวบในเวลานั้นแต่เพียงผู้เดียว โดยอนุญาตให้พ่อเยี่ยมได้เดือนละครั้ง  นอกจากนี้ ยังสั่งอดีตภรรยาแบ่งสมบัติสามี 8,600 ล้านวอน นายอิมจึงยื่นอุทธรณ์ แต่การพิจารณาคดีในชั้นนี้หยุดชะงักไปราว 1 ปีครึ่ง เนื่องจากอดีตสามีไม่ไปศาล ทนายของเขาอ้างว่าสาเหตุจากครอบครัวซัมซุง 

 

 

ศาลอุทธรณ์สั่งทายาทหญิงซัมซุงจ่าย 360 ล้านค่าหย่าสามี 

 


การแต่งงานแบบขัดใจผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเมื่อ 20 ปีก่อน กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ และถูกเรียกขานว่าเป็น "ซิลเดอเรลลาเวอร์ชั่นบุรุษ" โดยฝ่ายชายเป็นพนักงานธรรมดาของบริษัทในเครือซัมซุง พบรักกับลูกสาวท่านประธาน ระหว่างทำกิจกรรมอาสาสมัครของมูลนิธิซัมซุง เมื่อปี 2538 ก่อนแต่งงานใน 4 ปีต่อมา


 
หลังแยกทาง นายอิม ซึ่งเข้าไปเป็นสมาชิกของตระกูลลีเพียงคนเดียวที่ไม่ได้มาจากตระกูลแชโบล หรือกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้  ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ข้อมูลที่ว่า เขาเริ่มทำงานในซัมซุงเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่ซัมซุงกุขึ้น ที่จริงเริ่มจากการเป็นบอดี้การ์ดของประธานบริษัท อี คอน  ฮี ทั้งเผยว่าหลังแต่งงานแล้ว

 

ศาลอุทธรณ์สั่งทายาทหญิงซัมซุงจ่าย 360 ล้านค่าหย่าสามี 

 


อดีตลูกเขย กล่าวว่า พ่อตาส่งไปเรียนต่อในสหรัฐอเมริกา ทั้งที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ และรู้สึกถูกกดดันมากจนเคยพยายามฆ่าตัวตายสองครั้ง อย่างไรก็ดี หลังจากร่ำเรียนจบปริญญาโทที่สถาบันเทคโนโลยีแมตซาชูเสตส์ และกลับมาเกาหลีใต้อีกครั้งในปี 2548 ได้เข้าทำงานที่ซัมซุงและขึ้นนั่งเก้าอี้รองประธานซัมซุง อิเล็กทรอ-เมคแคนิกส์