แม่จุดธูปขอให้แม่คงคาเปิดทาง ก่อนพบร่างของลูกชายจมอยู่ในน้ำ
แม่กับพี่สาว จุดธูปไหว้บอกพระแม่คงคาเปิดทาง ให้เจ้าหน้าที่งมหาร่างลูกชาย หนุ่มอายุ43ปี ให้เจอ หลังจากพบศพทั้งคู่หัวใจแทบสลายร้องไห้ล้มทั้งยืน
วันที่ 24 พฤศจิกายน 62 เวลา17.30 น. ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่า มีคนจมน้ำ ในสระน้ำ หลังวัดพุทธไพวรรณ บ้านสุขสมบูรณ์ หมู่10 ตำบลบ้าตาด อ.เมืองอุดรธานี จากนั้น พ.ต.ต.นพดล วงศ์พุฒิ สารวัตรสอบสวน สภ.โนนสูง ตำบลโนนสูง พร้อมด้วยแพทย์ เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และมูลนิธิอุดรส่งเสริมธรรม
ในทีเกิดเหตุเป็นสระน้ำมีความลึกประมาณ 3- 5 เมตร อยู่ในป่าสวนยาง อยู่ท้ายหมู่บ้านทางทิศตะวันตก พบนาง นาง หงษ์ทอง อายุ65ปี อยู่บ้านเลขที่316 หมู่10 ตำบลบ้านตาด พร้อมด้วยลูกสาว ได้พาไปชี้จุดเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา รองเท้าแตะสีดำ และตาข่ายใส่หอย ของลูกชาย คือ นายบุญล้ำ หงษ์ทอง อายุ43ปี ที่วางอยู่ขอบสระน้ำ โดยชาวบ้านทราบข่าว ได้เดินทางกันมาดูจำนวนมาก
หลังจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ฯ มาถึง นาง นาง หงษ์ทอง และ นางบุญเรือง รูปจะโป๊ะ อายุ45ปี พี่สาวของผู้ตาย ได้นำธูป จำนวน 9 ดอก มาจุด บอกพระแม่คงคาและ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บริเวณแถวนี้ ขอให้เปิดทาง โดยให้เจ้าหน้าที่มา ทำการงมหาลูกชาย ให้เจอด้วย จะได้นำศพลูกชายกลับไปที่บ้านทำบุญ โดยคำอธิษฐาน ขอแม่เฒ่าก็เป็นจริง พอเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ลงไปงมศพในน้ำเพียงแค่ 5 นาที ก็เป็นร่างของ นายบุญล้ำ หงส์ทอง ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ โดยจุดที่จมอยู่ในน้ำลึกประมาณ 2 เมตร โดยแม่และพี่สาว ของผู้ตาย พอรู้ว่าเจอศพ ถึงกับใจแทบสลาย ล้มทั้งยืนร้องไห้ ด้วยความเสียใจเป็นอย่างมาก ญาติและชาวบ้านหลายคน ต้องช่วยกันมาประคองตัวและปฐมพยาบาล ทำการเบื้องต้น
นางนาง หงษ์ทอง ให้การว่า เมื่อวานนี้ ลูกชายกับเพื่อน คือนายเม้าท์ คนในหมู่บ้าน ได้ชวนกันมาเก็บหอย ที่สระน้ำแห่งนี้ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ เวลา 15.00 น. หลังจากนั้นตนก็ไม่เห็นลูกชายกลับมาบ้าน ในตอนแรกคิดว่าลูกชาย อาจจะนอนค้างอยู่บ้านเพื่อน โดยลูกชาย มีอาชีพรับจ้างทั่วไป มักจะมาเก็บหอยที่สระน้ำแห่งนี้ แล้วนำหอยเอาไปขายในหมู่บ้าน จนกระทั่งวันนี้ ตนไปหาเพื่อนบ้าน ทราบว่าลูกชายไม่ได้ไปนอนบ้านเพื่อน ส่วนนายเม้าท์ ที่ไปเก็บหอยด้วยกัน ก็กลับมาบ้านก่อน ในช่วงเย็น เมื่อวานนี้
จากนั้นตนกับลูกสาว ที่เป็นพี่สาวของผู้ตาย ได้มาดูสระน้ำ ก็มาพบเสื้อ รองเท้าแตะ และตาข่ายใส่หอยของลูกชาย ในตอนนั้นหัวใจแทบสลายเหมือนกัน มั่นใจว่าลูกชาย คงจะจมน้ำอย่างแน่นอน จึงได้ไปบอกผู้ใหญ่บ้าน ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ฯ มาทำการงมหาร่างจนพบ และให้ตำรวจมาทำการตรวจสอบ
แพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ ตามร่างกายไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายแต่อย่างใด เสียชีวิตมาแล้ว มากกว่า10 ชั่วโมง สาเหตุเกิดจากอาจจะเป็นตะคริวขึ้นมา ทำให้จมน้ำ แล้วไม่มีใครเห็นหรือช่วยเหลือไว้ได้ทัน ทางญาติไม่ติดใจการตายครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ลงบันทึกไวเป้นหลักฐาน แล้วมอบศพให้ญาติ นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว ภุมิภาค จ.อุดรธานี