จับแล้ว โจรชิงทอง 40 เส้น ย่านวังหิน | คมชัดลึก

 

              จากกรณีเหตุคนร้ายบุกชิงทองในร้านทองหน้าห้างสรรพสินค้าย่านวังหิน โดยได้ทองรูปพรรณไปทั้งสิ้น 40 เส้น คิดเป็นน้ำหนักรวม 101 บาท มูลค่าประมาณ 2,000,000 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว บุกเดี่ยวชิงทอง 100 บาท เจ็บ 1)

 

 

 

              ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (24 ธันวาคม 2562) พลตำรวจโทภัคพงษ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้ได้แล้ว โดยพบว่าเป็นอดีตข้าราชการพลเรือน ที่ลาออกเมื่อปี 2561 ขณะนี้อยู่ระหว่างควบคุมตัวจากภาคเหนือ เดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร

              ขณะที่มีรายงานข่าวระบุว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้นั้น คาดว่าจะถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.โชคชัย ในช่วงเย็นวันนี้ ก่อนจะนำตัวไปค้นตรวจบ้านญาติ ในพื้นที่ภาคกลางต่อไป

 

 

 

 

              อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ลงมือก่อเหตุจริง เนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้หนี้พนันฟุตบอลออนไลน์ โดยหลังจากก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์วนรอบพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อนนำของกลางไปซุกซ่อนในบ้านพักย่านถนนวิภาวดี จากนั้นได้เดินทางออกจากกรุงเทพฯเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม เพื่อไปยังภาคเหนือ นำทองคำไปเปลี่ยนเป็นเงินที่ประเทศเพื่อนบ้าน และใช้หนี้บ่อนการพนัน จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวในที่สุด

              จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหา เคยต้องโทษคดียาเสพติด ส่วนของกลางในคดีที่ใช้ก่อเหตุ อาทิ อาวุธปืน รถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการหลบหนี และทองคำบางส่วนที่ยังเหลือ ตำรวจกำลังอยู่ในระหว่างการติดตาม

 

 

 

 

 

              ทั้งนี้มีรายงานว่า พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น , พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.กก.บก.น.4 และเจ้าหน้าที่สืบสวน บช.น. ตำรวจสืบสวน กก.สส.บก.น.4 ได้ติดตามไล่ล่าคนร้ายมาหลายวัน จนกระทั่งทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้ ได้พักอยู่ที่อพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งในซอยพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดพบเป็นจุดสุดท้าย และพบแต่เพียงรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ

              จากการสอบถามพยานทราบว่า หลังก่อเหตุคนร้ายได้นำรถจยย.มาจอดทิ้งไว้ ก่อนจะเดินทางไปที่ จ.กำแพงเพชร (บ้านเกิด) จากนั้นได้เดินทางมาที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ข้ามฝั่งไปเล่นบาคาร่าที่คาสิโนแห่งหนึ่งใน อ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตาม ก่อนที่ผู้ต้องหาจะย้อนกลับมายังฝั่งไทย จนถูกเจ้าที่ที่เฝ้าอยู่เข้าจับกุม พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำจำนวนหนึ่ง มีตรา KL ของร้านห้างทองเยาวราชเอเชีย ที่คนร้ายเข้าไปใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์มา ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลและติดตามของกลางสร้อยคอทองคำที่เหลือ คาดว่าจะนำตัวกล้บเข้า กทม.ช่วงเย็นวันนี้